คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานในงานเกษตรกรรม พ.ศ. ... ตามที่กระทรวงแรงงาน (รง.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
รง. เสนอว่า
1. เนื่องจากกฎกระทรวงว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานในงานเกษตรกรรม พ.ศ. 2547 กำหนดให้นายจ้างอาจจ้างลูกจ้างอายุตั้งแต่ 13 ปีบริบูรณ์ทำงานในช่วงระยะเวลาโรงเรียนปิดภาคเรียนหรือนอกเวลาเรียนได้ในงานที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัยหรือเป็นงานที่ไม่ขัดต่อการพัฒนาและส่งเสริมคุณภาพชีวิตของเด็กโดยได้รับอนุญาตจากบิดา มารดา หรือผู้ปกครองของเด็ก ประกอบกับบังคับใช้มาเป็นเวลานานไม่เหมาะสมกับสภาพการณ์ในปัจจุบันที่มุ่งเน้นในการคุ้มครองแรงงานซึ่งเป็นเด็ก ตลอดจนบทบัญญัติดังกล่าวยังไม่สอดคล้องกับพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 อนุสัญญาขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 138 ว่าด้วยอายุขั้นต่ำที่อนุญาตให้จ้างงานได้ ค.ศ. 1973 และอนุสัญญาขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 182 ว่าด้วยการห้ามและการปฏิบัติโดยฉับพลันเพื่อขจัดรูปแบบที่เลวร้ายที่สุดของการใช้แรงงานเด็ก ค.ศ. 1999 ที่กำหนดอายุขั้นต่ำของแรงงานทั่วไปตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป นอกจากนี้ ยังมีการแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 บางมาตราที่นำมาใช้บังคับตามกฎกระทรวง สมควรแก้ไขปรับปรุงกฎกระทรวงดังกล่าวและกำหนดให้นายจ้างจัดเวลาพักให้ลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กเพื่อให้ความคุ้มครองแก่ลูกจ้างเพิ่มขึ้น ทั้งนี้ เพื่อเป็นการยกมาตรฐานการคุ้มครองลูกจ้างซึ่งเป็นแรงงานเด็กในงานเกษตรกรรมให้มีมาตรฐานการคุ้มครองสอดคล้องกับอนุสัญญาขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ รวมทั้งเป็นมาตรการการป้องกันและแก้ไขการค้ามนุษย์ซึ่งเป็นนโยบายหลักที่สำคัญของรัฐบาล
2. รง. โดยกรมสวัสดิการและคุ้มครองแรงงาน ได้แต่งตั้งคณะทำงานเพื่อพิจารณาแก้ไขปรับปรุงกฎกระทรวงว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานในงานเกษตรกรรม พ.ศ. 2547 เพื่อทำหน้าที่ศึกษารวบรวมข้อมูลและเสนอแนะความเห็นในการแก้ไขปรับปรุงกฎกระทรวงดังกล่าว โดยได้รับฟังความคิดเห็นจากผู้มีส่วนได้เสีย ซึ่งได้รับสนับสนุนให้แก้ไขปรับปรุงกฎกระทรวงฯ โดยเฉพาะที่ยกเลิกข้อกำหนดที่ให้นายจ้างอาจจ้างลูกจ้างอายุตั้งแต่ 13 ปีบริบูรณ์ทำงาน
สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง
1. ให้ยกเลิกกฎกระทรวงว่าด้วยการคุ้มครองแรงงานในงานเกษตรกรรม พ.ศ. 2547 โดยยกเลิกข้อกำหนดที่ให้นายจ้างอาจจ้างลูกจ้างอายุตั้งแต่ 13 ปีบริบูรณ์ทำงานในช่วงระยะเวลาโรงเรียนปิดภาคเรียนหรือนอกเวลาเรียนได้ในงานที่ไม่เป็นอันตรายต่อสุขภาพอนามัย หรือเป็นงานที่ไม่ขัดต่อการพัฒนาและส่งเสริมคุณภาพชีวิตของเด็ก โดยกำหนดให้ห้ามมิให้นายจ้างจ้างลูกจ้างซึ่งเป็นเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีทำงาน ทั้งนี้ สอดคล้องกับมาตรา 44 แห่งพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 และอนุสัญญาขององค์การแรงงานระหว่างประเทศ ฉบับที่ 138 ว่าด้วยอายุขั้นต่ำที่อนุญาตให้จ้างงานได้ ค.ศ. 1973 ซึ่งกำหนดอายุขั้นต่ำของแรงงานทั่วไปตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป
2. กำหนดให้งานเกษตรกรรมซึ่งมิได้จ้างลูกจ้างตลอดปีและมิได้ให้ลูกจ้างทำงานในลักษณะที่เป็นงานอุตสาหกรรมต่อเนื่องจากงานดังกล่าว ให้นายจ้างปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ในบางเรื่อง เช่น
2.1 ห้ามนายจ้างเรียกรับหลักประกันจากลูกจ้าง
2.2 ห้ามนายจ้างหรือผู้ซึ่งเป็นหัวหน้างานกระทำการล่วงเกินหรือคุกคามทางเพศ ต่อลูกจ้าง
2.3 ห้ามนายจ้างจ้างเด็กอายุต่ำกว่า 15 ปีทำงาน
2.4 นายจ้างต้องจ่ายค่าจ้างและค่าทำงานในวันหยุดเดือนหนึ่งไม่น้อยกว่าหนึ่งครั้ง
2.5 ห้ามมิให้นายจ้างหักค่าจ้างและค่าทำงานในวันหยุด เว้นแต่ที่กฎหมายกำหนด เป็นต้น ส่วนกรณีที่นายจ้างจ้างลูกจ้างทำงานเกษตรกรรมตลอดปีให้ปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ทั้งฉบับ
3. กำหนดการคุ้มครองลูกจ้างที่กำหนดในกฎกระทรวงฯ เป็นการเฉพาะ เช่น การจัดวันหยุดพักผ่อนประจำปีไม่น้อยกว่า 3 วันเมื่อทำงานครบ 180 วันและ ลูกจ้างมีสิทธิลาป่วยเท่าที่ป่วยจริง โดยได้รับค่าจ้างไม่เกินสิบห้าวัน รวมทั้งให้นายจ้างจัดสวัสดิการให้แก่ลูกจ้าง เช่น น้ำดื่ม ที่พักอาศัย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 4 พฤศจิกายน 2557--