ทำเนียบรัฐบาล--22 พ.ย.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานสถานการณ์น้ำท่วมและความเสียหายด้านการเกษตรที่รัฐบาล ให้ความช่วยเหลือ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ สรุปได้ดังนี้
1. ด้านพืช
1.1 สำนักงานเกษตรจังหวัด ได้ใช้เงินทดรองราชการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่า ด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2538 จัดหาพันธุ์พืช และวัสดุ การเกษตร คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 48,455,168 บาท แจกจ่ายให้เกษตรกรใน 20 จังหวัด
1.2 กรมส่งเสริมการเกษตรได้ส่งเมล็ดพันธุ์พืชจากเงินงบกลางที่ได้รับอนุมัติตามมติคณะรัฐ มนตรีเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2538 จำนวน 541.3 ล้านบาท (รวมปี 2538 และ 2539) และจากเงิน ทดรองราชการไปช่วยเหลือเกษตรกรเร่งด่วนตามความต้องการของจังหวัดแล้ว
1.3 การสำรองยาเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช เนื่องจากคาดว่าหลังน้ำลดอาจมีโรคแมลงศัตรู พืชระบาดเพราะสภาวะดินฟ้าอากาศเหมาะสม โดยจะจัดส่งยาเคมีไปสำรองไว้ที่จังหวัดส่วนหนึ่ง และสำ รองไว้ที่ส่วนกลางอีกส่วนหนึ่งรวมสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชสำรองไว้ทั้งสิ้นรวม 372,200 กิโลกรัม /ลิตร ซึ่งจะให้บริการได้ในพื้นที่ประมาณ 3 ล้านไร่
2. ด้านปศุสัตว์
2.1 สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดได้ใช้เงินทดรองราชการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วย เงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2538 เป็นเงิน 14,302,480 บาท เป็นต่าจัดหาพันธุ์สัตว์ 6,158,665บาท ค่าอาหารสัตว์ 4,634,091 บาท ค่าเวชภัณฑ์ 3,218,690 บาท และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ 291,034 บาทช่วยเหลือพื้นที่จำนวน 15 จังหวัด
2.2 กรมปศุสัตว์ได้ให้การช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย โดยใช้เงินงบประมาณปกติ ของกรมดำเนินการล่วงหน้าโดยเร่งด่วน ดังนี้
1) ด้านอาหารสัตว์ ได้จัดส่งพืชอาหารสัตว์ของกรมปศุสัตว์ไปช่วยเหลือแก่สัตว์ของ เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย และขาดแคลนพืชอาหารสัตว์ ตั้งแต่เริ่มเกิดอุทกภัยเป็นต้นมา โดยจัดส่งพืช อาหารสัตว์ช่วยเหลือในพื้นที่ 43 จังหวัด จำนวน 6,642,321 กิโลกรัม
2) ฟื้นฟูสุขภาพสัตว์ และป้องกันโรคระบาดสัตว์ที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากในขณะเกิด อุทกภัย จะทำให้สัตว์ทุกชนิดอ่อนแอ สุขภาพทรุดโทรม และเกิดโรคได้ง่าย กรมปศุสัตว์จึงจัดส่งเจ้าหน้า ที่สัตวแพทย์ไปดำเนินการป้องกันโรคและรักษาสัตว์ป่วยในพื้นที่เสียหายรุนแรง
2.3 กรมปศุสัตว์ได้ทำการส่งอาหารสัตว์ และเวชภัณฑ์ไปช่วยเหลือจังหวัดต่าง ๆ แล้วจาก เงินงบกลางที่ได้รับอนุมัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2538 วงเงิน 20 ล้านบาท จนถึง วันที่ 13 พฤศจิกายน2538
3. ด้านประมง
3.1 สำนักงานประมงจังหวัดได้ใช้เงินทดรองราชการตามระเบียบกระทรวงการคลัง จัดซื้อ พันธุ์สัตว์น้ำอาหารสัตว์น้ำ และวัสดุสำหรับการป้องกันปลาหนีจากบ่อ 4 จังหวัด คือ มุกดาหาร น่าน อุทัย ธานี และนนทบุรี เป็นเงิน 1,510,415 บาท
3.2 การแจกจ่ายสัตว์น้ำ กรมประมงยังไม่ได้ทำการแจกจ่ายสัตว์น้ำ เนื่องจากต้องรอให้ เกษตรกรทำการปรับปรุงบ่อเพื่อปรับสภาพความเป็นกรด - ด่างของดินและน้ำให้เหมาะสมกับการเพาะ เลี้ยงสัตว์น้ำและใช้สารเคมีเพื่อกำจัดและป้องกันศัตรูของสัตว์น้ำเรียบร้อยแล้ว กรมประมงโดยศูนย์และ สถานีประมงแต่ละจังหวัดจึงจะทำการแจกจ่ายพันธุ์สัตว์น้ำให้แก่เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยได้ ซึ่งจังหวัดที่ คาดว่าจะเตรียมได้เสร็จและสามารถแจกจ่ายโดยใช้เงินงบกลางที่ได้รับอนุมัติตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อ วันที่ 19 กันยายน 2538 วงเงิน 43.752 ล้านบาท ใน 20 จังหวัด
3.3 การสำรองพันธุ์สัตว์น้ำ ขณะนี้ศูนย์ฯ และสถานีประมงได้ทำการสำรองพันธุ์สัตว์น้ำเพื่อ แจกจ่ายไว้แล้วประมาณ 20 ล้านตัว ส่วนที่เหลือจะทำการจัดซื้อจากสหกรณ์ผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ซึ่งขณะ นี้มีสหกรณ์ผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำพร้อมที่จะสนับสนุนพันธุ์สัตว์น้ำแก่กรมประมง ทั้งสิ้น 7 สหกรณ์ มีพันธุ์สัตว์น้ำ ประมาณ 2,000 ล้านตัว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 21 พฤศจิกายน 2538--
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานสถานการณ์น้ำท่วมและความเสียหายด้านการเกษตรที่รัฐบาล ให้ความช่วยเหลือ ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ สรุปได้ดังนี้
1. ด้านพืช
1.1 สำนักงานเกษตรจังหวัด ได้ใช้เงินทดรองราชการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่า ด้วยเงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2538 จัดหาพันธุ์พืช และวัสดุ การเกษตร คิดเป็นมูลค่าทั้งสิ้น 48,455,168 บาท แจกจ่ายให้เกษตรกรใน 20 จังหวัด
1.2 กรมส่งเสริมการเกษตรได้ส่งเมล็ดพันธุ์พืชจากเงินงบกลางที่ได้รับอนุมัติตามมติคณะรัฐ มนตรีเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2538 จำนวน 541.3 ล้านบาท (รวมปี 2538 และ 2539) และจากเงิน ทดรองราชการไปช่วยเหลือเกษตรกรเร่งด่วนตามความต้องการของจังหวัดแล้ว
1.3 การสำรองยาเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืช เนื่องจากคาดว่าหลังน้ำลดอาจมีโรคแมลงศัตรู พืชระบาดเพราะสภาวะดินฟ้าอากาศเหมาะสม โดยจะจัดส่งยาเคมีไปสำรองไว้ที่จังหวัดส่วนหนึ่ง และสำ รองไว้ที่ส่วนกลางอีกส่วนหนึ่งรวมสารเคมีป้องกันกำจัดศัตรูพืชสำรองไว้ทั้งสิ้นรวม 372,200 กิโลกรัม /ลิตร ซึ่งจะให้บริการได้ในพื้นที่ประมาณ 3 ล้านไร่
2. ด้านปศุสัตว์
2.1 สำนักงานปศุสัตว์จังหวัดได้ใช้เงินทดรองราชการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วย เงินทดรองราชการเพื่อช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉิน พ.ศ. 2538 เป็นเงิน 14,302,480 บาท เป็นต่าจัดหาพันธุ์สัตว์ 6,158,665บาท ค่าอาหารสัตว์ 4,634,091 บาท ค่าเวชภัณฑ์ 3,218,690 บาท และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ 291,034 บาทช่วยเหลือพื้นที่จำนวน 15 จังหวัด
2.2 กรมปศุสัตว์ได้ให้การช่วยเหลือเกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย โดยใช้เงินงบประมาณปกติ ของกรมดำเนินการล่วงหน้าโดยเร่งด่วน ดังนี้
1) ด้านอาหารสัตว์ ได้จัดส่งพืชอาหารสัตว์ของกรมปศุสัตว์ไปช่วยเหลือแก่สัตว์ของ เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัย และขาดแคลนพืชอาหารสัตว์ ตั้งแต่เริ่มเกิดอุทกภัยเป็นต้นมา โดยจัดส่งพืช อาหารสัตว์ช่วยเหลือในพื้นที่ 43 จังหวัด จำนวน 6,642,321 กิโลกรัม
2) ฟื้นฟูสุขภาพสัตว์ และป้องกันโรคระบาดสัตว์ที่อาจเกิดขึ้นเนื่องจากในขณะเกิด อุทกภัย จะทำให้สัตว์ทุกชนิดอ่อนแอ สุขภาพทรุดโทรม และเกิดโรคได้ง่าย กรมปศุสัตว์จึงจัดส่งเจ้าหน้า ที่สัตวแพทย์ไปดำเนินการป้องกันโรคและรักษาสัตว์ป่วยในพื้นที่เสียหายรุนแรง
2.3 กรมปศุสัตว์ได้ทำการส่งอาหารสัตว์ และเวชภัณฑ์ไปช่วยเหลือจังหวัดต่าง ๆ แล้วจาก เงินงบกลางที่ได้รับอนุมัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 กันยายน 2538 วงเงิน 20 ล้านบาท จนถึง วันที่ 13 พฤศจิกายน2538
3. ด้านประมง
3.1 สำนักงานประมงจังหวัดได้ใช้เงินทดรองราชการตามระเบียบกระทรวงการคลัง จัดซื้อ พันธุ์สัตว์น้ำอาหารสัตว์น้ำ และวัสดุสำหรับการป้องกันปลาหนีจากบ่อ 4 จังหวัด คือ มุกดาหาร น่าน อุทัย ธานี และนนทบุรี เป็นเงิน 1,510,415 บาท
3.2 การแจกจ่ายสัตว์น้ำ กรมประมงยังไม่ได้ทำการแจกจ่ายสัตว์น้ำ เนื่องจากต้องรอให้ เกษตรกรทำการปรับปรุงบ่อเพื่อปรับสภาพความเป็นกรด - ด่างของดินและน้ำให้เหมาะสมกับการเพาะ เลี้ยงสัตว์น้ำและใช้สารเคมีเพื่อกำจัดและป้องกันศัตรูของสัตว์น้ำเรียบร้อยแล้ว กรมประมงโดยศูนย์และ สถานีประมงแต่ละจังหวัดจึงจะทำการแจกจ่ายพันธุ์สัตว์น้ำให้แก่เกษตรกรผู้ประสบอุทกภัยได้ ซึ่งจังหวัดที่ คาดว่าจะเตรียมได้เสร็จและสามารถแจกจ่ายโดยใช้เงินงบกลางที่ได้รับอนุมัติตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อ วันที่ 19 กันยายน 2538 วงเงิน 43.752 ล้านบาท ใน 20 จังหวัด
3.3 การสำรองพันธุ์สัตว์น้ำ ขณะนี้ศูนย์ฯ และสถานีประมงได้ทำการสำรองพันธุ์สัตว์น้ำเพื่อ แจกจ่ายไว้แล้วประมาณ 20 ล้านตัว ส่วนที่เหลือจะทำการจัดซื้อจากสหกรณ์ผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ซึ่งขณะ นี้มีสหกรณ์ผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำพร้อมที่จะสนับสนุนพันธุ์สัตว์น้ำแก่กรมประมง ทั้งสิ้น 7 สหกรณ์ มีพันธุ์สัตว์น้ำ ประมาณ 2,000 ล้านตัว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 21 พฤศจิกายน 2538--