ทำเนียบรัฐบาล--25 พ.ค.--บิสนิวส์
คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและ
สังคมแห่งชาติ(สศช.) ได้ดำเนินการตามมติคณะกรรมการฯ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2541 ให้หารือกับปลัดกระทรวงการ
คลังเกี่ยวกับการกำหนดมาตรการบังคับคณะกรรมการและผู้บริหารระดับสูงของรัฐวิสาหกิจที่ไม่สามารถกำกับการดำเนินงาน
ให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี(10 กุมภาพันธ์ 2541) โดยให้ลดโบนัสและงดการจ่ายเงินเพิ่มพิเศษนอกเหนือจากสวัสดิการ
และเงินตอบแทน และให้เจรจากับ รฟม. ปรับลดการเบิกจ่ายงบลงทุน เพื่อให้รัฐวิสาหกิจอื่นที่มีปัญหาวงเงินเบิกจ่าย เช่น
เดียวกับ รฟม. สามารถดำเนินการได้ด้วย สรุปได้ดังนี้
1. สศช. ได้หารือปลัดกระทรวงการคลังเกี่ยวกับมาตรการบังคับคณะกรรมการและผู้บริหารระดับสูงของรัฐ-
วิสาหกิจแล้วมีความเห็นร่วมกันว่าเนื่องจากขณะนี้กระทรวงการคลังกำลังอยู่ระหว่างพิจารณานำเสนอมาตรการปรับลดโบนัส
กรรมการและพนักงานของรัฐวิสาหกิจปี 2541 กระทรวงการคลังจึงรับที่จะนำเรื่องนี้ไปพิจารณาเสนอคณะรัฐมนตรี ในภาพ
รวมต่อไป
2. จากการเจรจากับรฟม. เพื่อปรับลดการเบิกจ่ายลงทุน ได้ข้อสรุปร่วมกันว่า แม้ รฟม. จะมีความจำเป็น
ต้องเบิกจ่ายลงทุนในวงเงิน 11,041 ล้านบาทก็ตาม แต่เนื่องจากมีข้อจำกัดในเรื่องกรอบวงเงินลงทุนของรัฐวิสาหกิจตาม
เงื่อนไข IMF รฟม. จึงรับที่จะไปบริหารการเบิกจ่ายกับผู้รับเหมา โดยชะลอการเบิกจ่ายในช่วง 2 เดือนสุดท้ายออกไป
เป็นจำนวน 3,043 ล้านบาท
3. สศช. ได้ประสานกับรัฐวิสาหกิจที่ขอเพิ่มวงเงินเบิกจ่ายลงทุนแล้วทุกแห่ง โดยขอให้พยายามบริหารการ
เบิกจ่ายให้อยู่ภายในกรอบวงเงินที่มีจำกัดตาม LOI ฉบับที่ 3 ภายหลังจากการประสานกับรัฐวิสาหกิจแล้วสศช.ได้พิจารณา
จัดสรรวงเงินลงทุนให้รัฐวิสาหกิจแต่ละแห่ง ซึ่งสามารถแก้ปัญหาให้รัฐวิสาหกิจได้เป็นส่วนใหญ่ โดยใช้หลักเกณฑ์การจัดสรร
ดังนี้
3.1 ให้ความสำคัญเฉพาะรายการที่ผูกพันสัญญาไว้แล้ว
3.2 พิจารณาตามเนื้องานที่แล้วเสร็จในปี 2541
3.3 ให้ความสำคัญกับรายการที่มีแหล่งเงินลงทุนแล้ว
3.4 ชะลอการจ่ายลงทุนในช่วง 2 เดือนสุดท้าย หรือมากกว่าโดยสามารถเจรจากับผู้รับเหมาได้
จากหลักเกณฑ์ดังกล่าวข้างต้น จึงเห็นสมควรจัดสรรให้กับรัฐวิสาหกิจ ดังนี้
หน่วย : ล้านบาท
รัฐวิสาหกิจ ยอดขอเพิ่ม ยอดเห็นควรให้ดำเนินการ วงเงินที่จัดสรร วงเงินที่ยังไม่สามารถจัดสรรให้ได้
ปตท. 18,817.0* 7,891.0 6,333.0 1,558.0
รฟม. 12,118.0 7,998.0 7,998.0 -
กปน. 1,800.0 1,800.0 1,800.0 -
กปภ. 2,231.0 1,626.0 1,626.0 -
กฟน. 2,638.0 500.0 500.0 -
กคช. 800.0 518.0 518.0 -
กทท. 605.0 274.0 274.0 -
กนอ. 429.0 329.0 329.0 -
อคส. 0.7 0.7 0.7 -
อพวช. 94.6 94.6 94.6 -
กฟผ. 13,285.0 9,284.7 1,326.7 7,958.0
รวม 52,818.3 30,316.0 20,800.0 9,516.0
หมายเหตุ * ชดเชย RI ตามมติคณะรัฐมนตรี จำนวน 6,333 ล้านบาท และการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย
ขอเพิ่มเติมการเบิกจ่ายลงทุนอีก 12,484 ล้านบาท
4. จากการจัดสรรดังกล่าว ทำให้ยังมีรัฐวิสาหกิจอีก 2 แห่ง ที่มีความจำเป็นต้องเบิกจ่ายในปี 2541 ยังไม่
ได้รับจัดสรรอีกจำนวน 9,516 ล้านบาท ได้แก่
- การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 7,958 ล้านบาท
- การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย 1,558 ล้านบาท
รวม 9,516 ล้านบาท
ซึ่งหากได้รับการผ่อนคลายให้ขาดดุลเพิ่มเติมจาก IMF ก็จะสามารถจัดสรรให้ได้ ตามความเหมาะสม
ต่อไป
นอกจากนี้ คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจพิจารณาให้ความเห็นชอบ ดังนี้
1. มอบให้กระทรวงการคลังพิจารณากำหนดมาตรการบังคับกรรมการ และผู้บริหารระดับสูงของรัฐวิสาหกิจที่
ไม่สามารถกำกับการดำเนินงาน ให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2541 โดยรวมไว้ในมาตรการ
ปรับลดโบนัสและเงินตอบแทนในรูปแบบต่าง ๆ ของรัฐวิสาหกิจปี 2541 ที่กำลังจะนำเสนอคณะรัฐมนตรีด้วย เพื่อให้รัฐ
วิสาหกิจบริหารการเบิกจ่ายลงทุน ให้อยู่ภายในกรอบวงเงินเบิกจ่ายตามเงื่อนไข IMF
2. ให้ความเห็นชอบการจัดสรรวงเงินที่ได้รับผ่อนคลายตาม LOI ฉบับที่ 3 จำนวน 20,800 ล้านบาท ตามที่
เสนอ
อนึ่ง มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2541 คือ ให้คณะกรรมการรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งทำหน้าที่กำกับ
และติดตามการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจให้เป็นไปตามกรอบงบประมาณประจำปีและวงเงินลงทุนที่ให้เบิกจ่าย หากเงินสด
ที่มีเพื่อใช้ในการลงทุน (Retained Income : RI) ไม่ได้ตามเป้าหมายก็ให้ปรับลดรายจ่ายลงทุนเท่ากับจำนวนเงินสดที่
ขาดไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 25 พฤษภาคม 2541--
คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจรับทราบตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและ
สังคมแห่งชาติ(สศช.) ได้ดำเนินการตามมติคณะกรรมการฯ เมื่อวันที่ 18 พฤษภาคม 2541 ให้หารือกับปลัดกระทรวงการ
คลังเกี่ยวกับการกำหนดมาตรการบังคับคณะกรรมการและผู้บริหารระดับสูงของรัฐวิสาหกิจที่ไม่สามารถกำกับการดำเนินงาน
ให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี(10 กุมภาพันธ์ 2541) โดยให้ลดโบนัสและงดการจ่ายเงินเพิ่มพิเศษนอกเหนือจากสวัสดิการ
และเงินตอบแทน และให้เจรจากับ รฟม. ปรับลดการเบิกจ่ายงบลงทุน เพื่อให้รัฐวิสาหกิจอื่นที่มีปัญหาวงเงินเบิกจ่าย เช่น
เดียวกับ รฟม. สามารถดำเนินการได้ด้วย สรุปได้ดังนี้
1. สศช. ได้หารือปลัดกระทรวงการคลังเกี่ยวกับมาตรการบังคับคณะกรรมการและผู้บริหารระดับสูงของรัฐ-
วิสาหกิจแล้วมีความเห็นร่วมกันว่าเนื่องจากขณะนี้กระทรวงการคลังกำลังอยู่ระหว่างพิจารณานำเสนอมาตรการปรับลดโบนัส
กรรมการและพนักงานของรัฐวิสาหกิจปี 2541 กระทรวงการคลังจึงรับที่จะนำเรื่องนี้ไปพิจารณาเสนอคณะรัฐมนตรี ในภาพ
รวมต่อไป
2. จากการเจรจากับรฟม. เพื่อปรับลดการเบิกจ่ายลงทุน ได้ข้อสรุปร่วมกันว่า แม้ รฟม. จะมีความจำเป็น
ต้องเบิกจ่ายลงทุนในวงเงิน 11,041 ล้านบาทก็ตาม แต่เนื่องจากมีข้อจำกัดในเรื่องกรอบวงเงินลงทุนของรัฐวิสาหกิจตาม
เงื่อนไข IMF รฟม. จึงรับที่จะไปบริหารการเบิกจ่ายกับผู้รับเหมา โดยชะลอการเบิกจ่ายในช่วง 2 เดือนสุดท้ายออกไป
เป็นจำนวน 3,043 ล้านบาท
3. สศช. ได้ประสานกับรัฐวิสาหกิจที่ขอเพิ่มวงเงินเบิกจ่ายลงทุนแล้วทุกแห่ง โดยขอให้พยายามบริหารการ
เบิกจ่ายให้อยู่ภายในกรอบวงเงินที่มีจำกัดตาม LOI ฉบับที่ 3 ภายหลังจากการประสานกับรัฐวิสาหกิจแล้วสศช.ได้พิจารณา
จัดสรรวงเงินลงทุนให้รัฐวิสาหกิจแต่ละแห่ง ซึ่งสามารถแก้ปัญหาให้รัฐวิสาหกิจได้เป็นส่วนใหญ่ โดยใช้หลักเกณฑ์การจัดสรร
ดังนี้
3.1 ให้ความสำคัญเฉพาะรายการที่ผูกพันสัญญาไว้แล้ว
3.2 พิจารณาตามเนื้องานที่แล้วเสร็จในปี 2541
3.3 ให้ความสำคัญกับรายการที่มีแหล่งเงินลงทุนแล้ว
3.4 ชะลอการจ่ายลงทุนในช่วง 2 เดือนสุดท้าย หรือมากกว่าโดยสามารถเจรจากับผู้รับเหมาได้
จากหลักเกณฑ์ดังกล่าวข้างต้น จึงเห็นสมควรจัดสรรให้กับรัฐวิสาหกิจ ดังนี้
หน่วย : ล้านบาท
รัฐวิสาหกิจ ยอดขอเพิ่ม ยอดเห็นควรให้ดำเนินการ วงเงินที่จัดสรร วงเงินที่ยังไม่สามารถจัดสรรให้ได้
ปตท. 18,817.0* 7,891.0 6,333.0 1,558.0
รฟม. 12,118.0 7,998.0 7,998.0 -
กปน. 1,800.0 1,800.0 1,800.0 -
กปภ. 2,231.0 1,626.0 1,626.0 -
กฟน. 2,638.0 500.0 500.0 -
กคช. 800.0 518.0 518.0 -
กทท. 605.0 274.0 274.0 -
กนอ. 429.0 329.0 329.0 -
อคส. 0.7 0.7 0.7 -
อพวช. 94.6 94.6 94.6 -
กฟผ. 13,285.0 9,284.7 1,326.7 7,958.0
รวม 52,818.3 30,316.0 20,800.0 9,516.0
หมายเหตุ * ชดเชย RI ตามมติคณะรัฐมนตรี จำนวน 6,333 ล้านบาท และการปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย
ขอเพิ่มเติมการเบิกจ่ายลงทุนอีก 12,484 ล้านบาท
4. จากการจัดสรรดังกล่าว ทำให้ยังมีรัฐวิสาหกิจอีก 2 แห่ง ที่มีความจำเป็นต้องเบิกจ่ายในปี 2541 ยังไม่
ได้รับจัดสรรอีกจำนวน 9,516 ล้านบาท ได้แก่
- การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย 7,958 ล้านบาท
- การปิโตรเลียมแห่งประเทศไทย 1,558 ล้านบาท
รวม 9,516 ล้านบาท
ซึ่งหากได้รับการผ่อนคลายให้ขาดดุลเพิ่มเติมจาก IMF ก็จะสามารถจัดสรรให้ได้ ตามความเหมาะสม
ต่อไป
นอกจากนี้ คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจพิจารณาให้ความเห็นชอบ ดังนี้
1. มอบให้กระทรวงการคลังพิจารณากำหนดมาตรการบังคับกรรมการ และผู้บริหารระดับสูงของรัฐวิสาหกิจที่
ไม่สามารถกำกับการดำเนินงาน ให้เป็นไปตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2541 โดยรวมไว้ในมาตรการ
ปรับลดโบนัสและเงินตอบแทนในรูปแบบต่าง ๆ ของรัฐวิสาหกิจปี 2541 ที่กำลังจะนำเสนอคณะรัฐมนตรีด้วย เพื่อให้รัฐ
วิสาหกิจบริหารการเบิกจ่ายลงทุน ให้อยู่ภายในกรอบวงเงินเบิกจ่ายตามเงื่อนไข IMF
2. ให้ความเห็นชอบการจัดสรรวงเงินที่ได้รับผ่อนคลายตาม LOI ฉบับที่ 3 จำนวน 20,800 ล้านบาท ตามที่
เสนอ
อนึ่ง มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2541 คือ ให้คณะกรรมการรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งทำหน้าที่กำกับ
และติดตามการดำเนินงานของรัฐวิสาหกิจให้เป็นไปตามกรอบงบประมาณประจำปีและวงเงินลงทุนที่ให้เบิกจ่าย หากเงินสด
ที่มีเพื่อใช้ในการลงทุน (Retained Income : RI) ไม่ได้ตามเป้าหมายก็ให้ปรับลดรายจ่ายลงทุนเท่ากับจำนวนเงินสดที่
ขาดไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 25 พฤษภาคม 2541--