1. เห็นชอบต่อร่างปฏิญญาริยาดสำหรับการประชุมรัฐมนตรีกรอบความร่วมมือเอเชีย (Asia Cooperation Dialogue – ACD) ครั้งที่ 13
2. ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หรือผู้ได้รับมอบหมายร่วมให้การรับรองร่างปฏิญญาข้างต้น
3. หากมีความจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขร่างปฏิญญาข้างต้นที่ไม่ใช่สาระสำคัญหรือไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย ให้ กต. ดำเนินการได้โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาอีกครั้ง
สาระสำคัญของเรื่อง
กต. เสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาว่า
1. กรอบความร่วมมือเอเชียจัดตั้งขึ้นโดยข้อริเริ่มของไทยเมื่อปี 2545 เพื่อเป็นเวทีของภูมิภาคเอเชียในการเสริมสร้างผลประโยชน์ร่วมกันจากการพัฒนาและการเจริญเติบโตของเอเชีย รวมทั้งเป็นเวทีหารือระดับนโยบายเพื่อวางแนวทางร่วมกันในการแก้ไขปัญหา และความท้าทายต่าง ๆ ตลอดจนส่งเสริมการค้า ขยายตลาด และขีดความสามารถในการแข่งขันของภูมิภาค ปัจจุบันกรอบความร่วมมือ ACD มีรัฐสมาชิก 33 รัฐ โดยไทยมีบทบาทเป็นประเทศผู้ประสานงาน ACD มาโดยตลอด
2. รัฐสมาชิก ACD จะหมุนเวียนกันเป็นประธานและเป็นเจ้าภาพการประชุมรัฐมนตรี โดยมีวาระการดำรงตำแหน่ง 1 ปี ปัจจุบันมีซาอุดีอาระเบียเป็นประธาน ซาอุดีอาระเบียเข้ารับตำแหน่งประธานในการประชุมรัฐมนตรี ACD คู่ขนานกับการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยที่ 69 เมื่อวันที่ 22 กันยายน 2557
3. การประชุมรัฐมนตรี ACD ครั้งที่ 13 ซึ่งซาอุดีอาระเบียจะเป็นเจ้าภาพในวันที่ 25 พฤศจิกายน 2557 ณ กรุงริยาด จะมีการพิจารณารับรองร่างปฏิญญาริยาดสำหรับการประชุมรัฐมนตรี ACD ครั้งที่ 13 ภายใต้หัวข้อ “การศึกษาที่เป็นเลิศ – เส้นทางสู่อนาคต” (“Outstanding Education – the Road to the Future”) เป็นเอกสารผลการประชุม
4. ร่างปฏิญญาริยาดสำหรับการประชุมรัฐมนตรี ACD ครั้งที่ 13 ให้ความสำคัญกับความร่วมมือด้านการศึกษาและการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่อรองรับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมฐานความรู้ ภายใต้หัวข้อการประชุม “การศึกษาที่เป็นเลิศ เส้นทางสู่อนาคต” นอกจากนี้ร่างปฏิญญามีสาระสำคัญอื่น ๆ อาทิ เช่น การส่งเสริมความร่วมมือด้านวิทยาศาสตร์และการถ่ายทอดเทคโนโลยี ความร่วมมือทางวัฒนธรรม การดำเนินงานภายใต้เป้าหมายการพัฒนาแห่งสหัสวรรษเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ความร่วมมือด้านพลังงาน เป็นต้น การลดอุปสรรคทางการค้าและการลงทุน การสร้างความมั่นคงทางอาหาร
5. โดยที่ร่างปฏิญญาริยาดมีสาระสำคัญเกี่ยวกับการเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างรัฐสมาชิกในสาขาที่ ACD ให้ความสำคัญ โดยมิได้ใช้ถ้อยคำหรือมีบริบทที่เป็นการแสดงเจตนาที่จะก่อให้เกิดพันธกรณีระหว่างกันตามกฎหมายระหว่างประเทศอีกทั้งจะไม่มีการลงนามในร่างปฏิญญาฯ ดังนั้น ร่างปฏิญญาริยาดจึงไม่เป็นสนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศและไม่เป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 23 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 18 พฤศจิกายน 2557--