ทำเนียบรัฐบาล--26 ม.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีพิจารณาร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การกำหนดส่วนราชการตามพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการกรมราชทัณฑ์ กระทรวงมหาดไทย พ.ศ. 2539 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ แล้วมีมติ ดังนี้
1. อนุมัติให้จัดตั้งเรือนจำจังหวัดรัตนบุรี ตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม 2541 โดยยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่14 ตุลาคม 2540 (เห็นชอบมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายของรัฐ ให้ระงับหรือชะลอการจัดตั้งหรือขยายหน่วยงานใหม่ของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจไปพลางก่อน) และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2541 (เห็นชอบหลักการและมาตรการควบคุมค่าใช้จ่ายด้านบุคคลภาครัฐเพื่อให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติได้อย่างเคร่งครัด โดยในปีงบประมาณ 2541 และ 2542 ให้ส่วนราชการระงับการขอจัดตั้งหน่วยงานใหม่ฯ) เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย สำหรับอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ให้ถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวอย่างเคร่งครัด
2. อนุมัติหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การกำหนดส่วนราชการตามพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการกรมราชทัณฑ์ กระทรวงมหาดไทย พ.ศ. 2539 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงาน ก.พ. ในเรื่องการจัดตั้งเรือนจำจังหวัดรัตนบุรี ต้องจัดสรรอัตรากำลังและงบประมาณที่มีอยู่มาใช้เพื่อมิให้ขัดกับนโยบายรัฐบาล และควรกำหนดให้ชื่อของเรือนจำเป็นเรือนจำรัตนบุรีเพื่อให้แตกต่างจากส่วนราชการประจำ และให้พิจารณาคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ให้ส่งข้อเสนอของกระทรวงมหาดไทย และข้อพิจารณาของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีซึ่งเห็นว่าการจัดตั้งเรือนจำตามพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พุทธศักราช 2479 ไม่ได้เป็นการจัดตั้งส่วนราชการตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาก่อนว่า ความเห็นของกระทรวงมหาดไทยถูกต้องหรือไม่ และหากเห็นว่าไม่ถูกต้อง ให้พิจารณากำหนดชื่อและสถานะของเรือนจำที่ได้จัดตั้งขึ้นให้เหมาะสมและสอดคล้องกับการจัดระเบียบบริหารราชการส่วนภูมิภาค ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ไปพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
กระทรวงมหาดไทยเสนอว่า เนื่องจากลักษณะงานกรมราชทัณฑ์เป็นงานที่ต้องปฏิบัติทันที ไม่สามารถปฏิเสธหรือผ่อนผันระยะเวลาการรับตัวผู้ต้องขังไว้ในความควบคุม กรมราชทัณฑ์ไม่อาจกำหนดจำนวนผู้กระทำผิดมิให้เพิ่มขึ้น แม้ว่าเรือนจำ/ทัณฑสถานจะมีอัตรากำลังหรือสถานที่ไม่เพียงพอก็ตาม ประกอบกับการควบคุมหรือการปล่อยตัวผู้ต้องขังจะต้องทำทันทีที่ได้รับหมายศาลหรือคำสั่งของผู้มีอำนาจตามกฎหมาย ปัจจุบันเรือนจำทั่วประเทศมีจำนวน 130 แห่ง มีพื้นที่นอนทั้งสิ้น 140,323.52 ตารางเมตร หากคิดตามความจุมาตรฐาน (พื้นที่นอน 2.25 ตารางเมตรต่อคน) กรมราชทัณฑ์จะสามารถรองรับผู้ต้องขังได้เพียง 62,366 คน เท่านั้น ในขณะที่ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2541) กรมราชทัณฑ์มีจำนวนผู้ต้องขังในความควบคุมดูแลทั้งสิ้นสูงถึง 170,490 คน เกิดความจุมาตรฐานที่มีอยู่ถึง 108,124 คน หรืออีกนัยหนึ่งเรือนจำที่มีอยู่ทั่วประเทศในปัจจุบันต้องแบกรับภาระจำนวนผู้ต้องขังในความควบคุม 2.73 เท่าของความจุมาตรฐานที่ควรจะเป็นปัญหาในเรื่องอัตรากำลัง และการควบคุมดังกล่าวย่อมส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติให้สอดคล้องตามหลักสิทธิมนุษยชนและตามพันธกรณีแห่งกติการะหว่างประเทศ ว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองของสหประชาชาติในฐานะที่ประเทศไทยเป็นหนึ่งในสมาชิก นอกจากนั้น แนวโน้มปริมาณผู้ต้องขังในปัจจุบันยังมีอัตราเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก และกระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการจัดตั้งเรือนจำจังหวัดรัตนบุรีตามพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พุทธศักราช 2479 โดยได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาฉบับประกาศทั่วไป เล่ม 115 ตอนที่ 8 ง วันที่ 27 มกราคม 2541 และเปิดดำเนินการเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2541 ได้บรรจุแต่งตั้งข้าราชการเพิ่มใหม่เข้าปฏิบัติงานในเรือนจำดังกล่าว จำนวน 55 อัตราซึ่งกรมบัญชีกลางอนุมัติให้เรือนจำจังหวัดรัตนบุรีเป็นหน่วยเบิกจ่ายกับสำนักงานคลังจังหวัดสุรินทร์ โดยผู้บัญชาการเรือนจำเป็นผู้เบิก ตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2541 และเบิกจ่ายเงินประจำตำแหน่งให้แก่ผู้บัญชาการเรือนจำ นับแต่วันเปิดดำเนินการแล้ว มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องกำหนดให้เรือนจำจังหวัดรัตนบุรีเป็นส่วนราชการเพื่อให้การบริหารงานของเรือนจำเป็นไปอย่างครบถ้วนถูกต้อง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 26 มกราคม 2542--
คณะรัฐมนตรีพิจารณาร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การกำหนดส่วนราชการตามพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการกรมราชทัณฑ์ กระทรวงมหาดไทย พ.ศ. 2539 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ แล้วมีมติ ดังนี้
1. อนุมัติให้จัดตั้งเรือนจำจังหวัดรัตนบุรี ตั้งแต่วันที่ 28 มกราคม 2541 โดยยกเว้นการปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่14 ตุลาคม 2540 (เห็นชอบมาตรการลดภาระค่าใช้จ่ายของรัฐ ให้ระงับหรือชะลอการจัดตั้งหรือขยายหน่วยงานใหม่ของส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจไปพลางก่อน) และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2541 (เห็นชอบหลักการและมาตรการควบคุมค่าใช้จ่ายด้านบุคคลภาครัฐเพื่อให้ทุกส่วนราชการที่เกี่ยวข้องถือปฏิบัติได้อย่างเคร่งครัด โดยในปีงบประมาณ 2541 และ 2542 ให้ส่วนราชการระงับการขอจัดตั้งหน่วยงานใหม่ฯ) เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย สำหรับอัตรากำลังเจ้าหน้าที่ที่ปฏิบัติงาน ให้ถือปฏิบัติตามมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าวอย่างเคร่งครัด
2. อนุมัติหลักการร่างประกาศสำนักนายกรัฐมนตรี เรื่อง การกำหนดส่วนราชการตามพระราชกฤษฎีกาแบ่งส่วนราชการกรมราชทัณฑ์ กระทรวงมหาดไทย พ.ศ. 2539 (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของสำนักงาน ก.พ. ในเรื่องการจัดตั้งเรือนจำจังหวัดรัตนบุรี ต้องจัดสรรอัตรากำลังและงบประมาณที่มีอยู่มาใช้เพื่อมิให้ขัดกับนโยบายรัฐบาล และควรกำหนดให้ชื่อของเรือนจำเป็นเรือนจำรัตนบุรีเพื่อให้แตกต่างจากส่วนราชการประจำ และให้พิจารณาคำสั่งสำนักนายกรัฐมนตรีที่ให้ส่งข้อเสนอของกระทรวงมหาดไทย และข้อพิจารณาของสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีซึ่งเห็นว่าการจัดตั้งเรือนจำตามพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พุทธศักราช 2479 ไม่ได้เป็นการจัดตั้งส่วนราชการตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาก่อนว่า ความเห็นของกระทรวงมหาดไทยถูกต้องหรือไม่ และหากเห็นว่าไม่ถูกต้อง ให้พิจารณากำหนดชื่อและสถานะของเรือนจำที่ได้จัดตั้งขึ้นให้เหมาะสมและสอดคล้องกับการจัดระเบียบบริหารราชการส่วนภูมิภาค ตามพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการแผ่นดิน พ.ศ. 2534 ไปพิจารณาด้วย แล้วดำเนินการต่อไปได้
กระทรวงมหาดไทยเสนอว่า เนื่องจากลักษณะงานกรมราชทัณฑ์เป็นงานที่ต้องปฏิบัติทันที ไม่สามารถปฏิเสธหรือผ่อนผันระยะเวลาการรับตัวผู้ต้องขังไว้ในความควบคุม กรมราชทัณฑ์ไม่อาจกำหนดจำนวนผู้กระทำผิดมิให้เพิ่มขึ้น แม้ว่าเรือนจำ/ทัณฑสถานจะมีอัตรากำลังหรือสถานที่ไม่เพียงพอก็ตาม ประกอบกับการควบคุมหรือการปล่อยตัวผู้ต้องขังจะต้องทำทันทีที่ได้รับหมายศาลหรือคำสั่งของผู้มีอำนาจตามกฎหมาย ปัจจุบันเรือนจำทั่วประเทศมีจำนวน 130 แห่ง มีพื้นที่นอนทั้งสิ้น 140,323.52 ตารางเมตร หากคิดตามความจุมาตรฐาน (พื้นที่นอน 2.25 ตารางเมตรต่อคน) กรมราชทัณฑ์จะสามารถรองรับผู้ต้องขังได้เพียง 62,366 คน เท่านั้น ในขณะที่ปัจจุบัน (ข้อมูล ณ วันที่ 30 กันยายน 2541) กรมราชทัณฑ์มีจำนวนผู้ต้องขังในความควบคุมดูแลทั้งสิ้นสูงถึง 170,490 คน เกิดความจุมาตรฐานที่มีอยู่ถึง 108,124 คน หรืออีกนัยหนึ่งเรือนจำที่มีอยู่ทั่วประเทศในปัจจุบันต้องแบกรับภาระจำนวนผู้ต้องขังในความควบคุม 2.73 เท่าของความจุมาตรฐานที่ควรจะเป็นปัญหาในเรื่องอัตรากำลัง และการควบคุมดังกล่าวย่อมส่งผลกระทบต่อการปฏิบัติให้สอดคล้องตามหลักสิทธิมนุษยชนและตามพันธกรณีแห่งกติการะหว่างประเทศ ว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองของสหประชาชาติในฐานะที่ประเทศไทยเป็นหนึ่งในสมาชิก นอกจากนั้น แนวโน้มปริมาณผู้ต้องขังในปัจจุบันยังมีอัตราเพิ่มสูงขึ้นอย่างมาก และกระทรวงมหาดไทยได้ดำเนินการจัดตั้งเรือนจำจังหวัดรัตนบุรีตามพระราชบัญญัติราชทัณฑ์ พุทธศักราช 2479 โดยได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาฉบับประกาศทั่วไป เล่ม 115 ตอนที่ 8 ง วันที่ 27 มกราคม 2541 และเปิดดำเนินการเมื่อวันที่ 3 เมษายน 2541 ได้บรรจุแต่งตั้งข้าราชการเพิ่มใหม่เข้าปฏิบัติงานในเรือนจำดังกล่าว จำนวน 55 อัตราซึ่งกรมบัญชีกลางอนุมัติให้เรือนจำจังหวัดรัตนบุรีเป็นหน่วยเบิกจ่ายกับสำนักงานคลังจังหวัดสุรินทร์ โดยผู้บัญชาการเรือนจำเป็นผู้เบิก ตั้งแต่วันที่ 17 เมษายน 2541 และเบิกจ่ายเงินประจำตำแหน่งให้แก่ผู้บัญชาการเรือนจำ นับแต่วันเปิดดำเนินการแล้ว มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องกำหนดให้เรือนจำจังหวัดรัตนบุรีเป็นส่วนราชการเพื่อให้การบริหารงานของเรือนจำเป็นไปอย่างครบถ้วนถูกต้อง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 26 มกราคม 2542--