ทำเนียบรัฐบาล--24 ก.พ.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา พร้อมข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรี แล้วเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง
ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว มีหลักการให้ยกเลิกกฎหมายภาษีโรงเรือนและที่ดินที่ปัจจุบันจัดเก็บบนฐานของค่าเช่ารายปีของทรัพย์สินซึ่งมีความซ้ำซ้อนกับภาษีเงินได้ และยกเลิกกฎหมายภาษีบำรุงท้องที่ที่ปัจจุบันจัดเก็บบนพื้นฐานที่ดินอย่างเดียว แล้วยกร่างกฎหมายภาษีบำรุงท้องที่ฉบับใหม่ให้เป็นภาษีที่จัดเก็บจากการถือครองอสังหาริมทรัพย์ทั้งที่ดิน โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ บนที่ดินนั้น โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. ให้ยกเลิกพระราชบัญญัติภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ. 2508 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติกำหนดราคาปานกลางของที่ดินสำหรับการประเมินภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ. 2529 และพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ. 2475 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม
2. ให้ภาษีบำรุงท้องที่เป็นภาษีของราชการส่วนท้องถิ่น รายได้จากการจัดเก็บภาษีบำรุงท้องที่ที่จัดเก็บได้ในเขตราชการส่วนท้องถิ่นใด ให้เป็นรายได้ของราชการส่วนท้องถิ่นนั้น เช่นเดียวกับภาษีโรงเรือนและที่ดิน และภาษีบำรุงท้องที่ปัจจุบัน
3. ให้เจ้าของทรัพย์สินมีหน้าที่เสียภาษีบำรุงท้องที่ ในกรณีทรัพย์สินของรัฐให้ผู้ครอบครองหรือผู้ทำประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งมีหน้าที่เสียภาษี
4. ให้กำหนดฐานภาษีดังต่อไปนี้
4.1 สำหรับที่ดินที่ไม่มีสิ่งปลูกสร้างให้ถือราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินเป็นฐานภาษี โดยถ้าเป็นที่ดินว่างเปล่าซึ่งไม่ได้ใช้ประโยชน์ตามควรแก่สภาพที่ดิน ให้เสียเพิ่มขึ้นอีก 1 เท่า
4.2 สำหรับที่ดินที่มีสิ่งปลูกสร้างให้ถือราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินและราคาประเมินทุนทรัพย์โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างเป็นฐานภาษี
4.3 สำหรับห้องชุดให้ถือราคาประเมินทุนทรัพย์ห้องชุดเป็นฐานภาษี ทั้งนี้ ราคาประเมินทุนทรัพย์ดังกล่าวไม่รวมถึงเครื่องจักร
5. ให้มีโครงสร้างภาษีรวม 5 โครงสร้าง และมีอัตราภาษีทั้งหมด 15 อัตราภาษี
6. ให้ยกเว้นภาษีตามพระราชบัญญัตินี้ สำหรับทรัพย์สินตามที่กำหนดไว้ในร่างมาตรา 12
7. ให้ผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินมีหน้าที่ในการชำระภาษีค้างไม่เกินสองปีร่วมกับเจ้าของทรัพย์สินเดิม
8. ให้ผู้บริหารท้องถิ่นมีอำนาจยึด อายัด หรือขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ค้างชำระภาษีโดยไม่ต้องขอให้ศาลสั่งหรือออกหมายึด
9. ผู้ใดฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้ มีอัตราโทษทั้งจำคุกและปรับ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2541--
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา พร้อมข้อสังเกตของคณะรัฐมนตรี แล้วเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้ง
ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว มีหลักการให้ยกเลิกกฎหมายภาษีโรงเรือนและที่ดินที่ปัจจุบันจัดเก็บบนฐานของค่าเช่ารายปีของทรัพย์สินซึ่งมีความซ้ำซ้อนกับภาษีเงินได้ และยกเลิกกฎหมายภาษีบำรุงท้องที่ที่ปัจจุบันจัดเก็บบนพื้นฐานที่ดินอย่างเดียว แล้วยกร่างกฎหมายภาษีบำรุงท้องที่ฉบับใหม่ให้เป็นภาษีที่จัดเก็บจากการถือครองอสังหาริมทรัพย์ทั้งที่ดิน โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างอื่น ๆ บนที่ดินนั้น โดยมีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. ให้ยกเลิกพระราชบัญญัติภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ. 2508 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติกำหนดราคาปานกลางของที่ดินสำหรับการประเมินภาษีบำรุงท้องที่ พ.ศ. 2529 และพระราชบัญญัติภาษีโรงเรือนและที่ดิน พ.ศ. 2475 และฉบับแก้ไขเพิ่มเติม
2. ให้ภาษีบำรุงท้องที่เป็นภาษีของราชการส่วนท้องถิ่น รายได้จากการจัดเก็บภาษีบำรุงท้องที่ที่จัดเก็บได้ในเขตราชการส่วนท้องถิ่นใด ให้เป็นรายได้ของราชการส่วนท้องถิ่นนั้น เช่นเดียวกับภาษีโรงเรือนและที่ดิน และภาษีบำรุงท้องที่ปัจจุบัน
3. ให้เจ้าของทรัพย์สินมีหน้าที่เสียภาษีบำรุงท้องที่ ในกรณีทรัพย์สินของรัฐให้ผู้ครอบครองหรือผู้ทำประโยชน์อย่างใดอย่างหนึ่งมีหน้าที่เสียภาษี
4. ให้กำหนดฐานภาษีดังต่อไปนี้
4.1 สำหรับที่ดินที่ไม่มีสิ่งปลูกสร้างให้ถือราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินเป็นฐานภาษี โดยถ้าเป็นที่ดินว่างเปล่าซึ่งไม่ได้ใช้ประโยชน์ตามควรแก่สภาพที่ดิน ให้เสียเพิ่มขึ้นอีก 1 เท่า
4.2 สำหรับที่ดินที่มีสิ่งปลูกสร้างให้ถือราคาประเมินทุนทรัพย์ที่ดินและราคาประเมินทุนทรัพย์โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้างเป็นฐานภาษี
4.3 สำหรับห้องชุดให้ถือราคาประเมินทุนทรัพย์ห้องชุดเป็นฐานภาษี ทั้งนี้ ราคาประเมินทุนทรัพย์ดังกล่าวไม่รวมถึงเครื่องจักร
5. ให้มีโครงสร้างภาษีรวม 5 โครงสร้าง และมีอัตราภาษีทั้งหมด 15 อัตราภาษี
6. ให้ยกเว้นภาษีตามพระราชบัญญัตินี้ สำหรับทรัพย์สินตามที่กำหนดไว้ในร่างมาตรา 12
7. ให้ผู้รับโอนกรรมสิทธิ์ในทรัพย์สินมีหน้าที่ในการชำระภาษีค้างไม่เกินสองปีร่วมกับเจ้าของทรัพย์สินเดิม
8. ให้ผู้บริหารท้องถิ่นมีอำนาจยึด อายัด หรือขายทอดตลาดทรัพย์สินของผู้ค้างชำระภาษีโดยไม่ต้องขอให้ศาลสั่งหรือออกหมายึด
9. ผู้ใดฝ่าฝืนบทบัญญัติแห่งพระราชบัญญัตินี้ มีอัตราโทษทั้งจำคุกและปรับ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2541--