ทำเนียบรัฐบาล-- 25 มี.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งปรับปรุงอำนาจหน้าที่ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา แต่ได้ตกไปเนื่องจากได้มีพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2539 ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอและให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
เนื่องจากพระราชบัญญัติการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค พ.ศ. 2503 ได้ใช้บังคับเป็นเวลานาน มีบทบัญญัติบางมาตราที่ไม่เหมาะสมกับสภาพการณ์ในปัจจุบันที่ความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้ามีเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการให้บริการเกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้า สมควรแก้ไขเพิ่มเติมให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมีอำนาจออกพันธบัตรหรือตราสารอื่นใดเพื่อการลงทุน จัดตั้งบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด หรือเข้าร่วมทุนกับบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์แก่กิจการของการไฟฟ้า รวมทั้งสมควรปรับปรุงหลักเกณฑ์การเข้าใช้สอยและครอบครองอสังหาริมทรัพย์ การจ่ายเงินค่าทดแทนขยายวงเงินกู้ยืม กิจการที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี และหลักเกณฑ์การนำส่งรายได้แก่รัฐให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ซึ่งร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมีสาระสำคัญเพื่อแก้ไขปรับปรุงบทบัญญัติเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ดังนี้
1. กำหนดชื่อย่อของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ชื่อและชื่อย่อภาษาอังกฤษ
2. กำหนดให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอาจตั้งสำนักงานใหญ่ในจังหวัดใกล้เคียง นอกจากกรุงเทพมหานครได้
3. เพิ่มให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมีอำนาจในการออกพันธบัตรหรือตราสารอื่นใดเพื่อการลงทุน จัดตั้งบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด เข้าร่วมกิจการกับผู้อื่นหรือถือหุ้นในบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด
4. แก้ไขเพิ่มเติมข้อยกเว้นของลักษณะต้องห้ามมิให้เป็นประธานกรรมการหรือกรรมการ หรือมิให้แต่งตั้งเป็นผู้ว่าการ ให้ชัดเจนว่า ประธานกรรมการ กรรมการ หรือผู้ว่าการ อาจเป็นประธานกรรมการ กรรมการ ผู้จัดการ หรือผู้ดำเนินกิจการ โดยการมอบหมายของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในกิจการตามมาตรา 13 (10) ได้
5. แก้ไขเพิ่มเติมให้คณะกรรมการมีอำนาจในการวางข้อบังคับว่าด้วยเครื่องแบบพนักงาน และจำหน่ายทรัพย์สินและหนี้สูญออกจากบัญชี
6. แก้ไขเพิ่มเติมคำว่า “สับสเตชั่น” เป็น “สถานีไฟฟ้า” เพื่อให้มีความชัดเจน และมีความหมายกว้างขึ้นและตัดหลักการเกี่ยวกับการมอบข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัยในกรณีไม่สามารถตกลงกันในจำนวนค่าตอบแทนในมาตรา 34 ออก และบัญญัติหลักเกณฑ์ในเรื่องการจ่ายเงินค่าทดแทนขึ้นใหม่
7. ปรับปรุงบทบัญญัติว่าด้วยวัตถุประสงค์ในการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคให้ครอบคลุมถึงการเวนคืนเพื่อใช้ในการก่อสร้างระบบการจำหน่ายพลังงานไฟฟ้าหรือตั้งสถานีไฟฟ้า
8. ให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมีอำนาจรื้อถอนป้าย โครงสร้างสำหรับติดตั้งป้าย โครงสร้างป้าย สิ่งอำนวยความสะดวกหรือป้องกันอันตรายในการก่อสร้างที่ติดหรือตั้งยื่นล้ำเข้ามาอยู่ใกล้สายส่งศักย์สูงย่อยหรือสายส่งศักย์ต่ำ เสาสถานีไฟฟ้า หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ หรือสิ่งอื่นใดที่ปิดหุ้มคลุมทับสายส่งศักย์ต่ำ หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ที่อยู่ใต้หรือบนกันสาดอาคาร เพื่อป้องกันอันตรายอันอาจจะเกิดขึ้น
9. แก้ไขเพิ่มเติมวงเงินกู้ยืมที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อน และเพิ่มให้การออกพันธบัตรหรือตราสารอื่นใดเพื่อการลงทุน การจัดตั้งบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด หรือการเข้าร่วมกิจการกับหน่วยงานอื่นเป็นกิจการที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อน จึงจะดำเนินกิจการได้
10. แก้ไขเพิ่มเติมให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคนำส่งรายได้แก่รัฐตามหลักเกณฑ์ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 25 มีนาคม 2540--
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ซึ่งปรับปรุงอำนาจหน้าที่ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว ซึ่งอยู่ระหว่างสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา แต่ได้ตกไปเนื่องจากได้มีพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร พ.ศ. 2539 ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอและให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
เนื่องจากพระราชบัญญัติการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค พ.ศ. 2503 ได้ใช้บังคับเป็นเวลานาน มีบทบัญญัติบางมาตราที่ไม่เหมาะสมกับสภาพการณ์ในปัจจุบันที่ความต้องการใช้พลังงานไฟฟ้ามีเพิ่มมากขึ้น ดังนั้น เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพในการให้บริการเกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้า สมควรแก้ไขเพิ่มเติมให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมีอำนาจออกพันธบัตรหรือตราสารอื่นใดเพื่อการลงทุน จัดตั้งบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด หรือเข้าร่วมทุนกับบุคคลอื่นเพื่อประโยชน์แก่กิจการของการไฟฟ้า รวมทั้งสมควรปรับปรุงหลักเกณฑ์การเข้าใช้สอยและครอบครองอสังหาริมทรัพย์ การจ่ายเงินค่าทดแทนขยายวงเงินกู้ยืม กิจการที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี และหลักเกณฑ์การนำส่งรายได้แก่รัฐให้เหมาะสมยิ่งขึ้น ซึ่งร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมีสาระสำคัญเพื่อแก้ไขปรับปรุงบทบัญญัติเกี่ยวกับอำนาจหน้าที่ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ดังนี้
1. กำหนดชื่อย่อของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ชื่อและชื่อย่อภาษาอังกฤษ
2. กำหนดให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคอาจตั้งสำนักงานใหญ่ในจังหวัดใกล้เคียง นอกจากกรุงเทพมหานครได้
3. เพิ่มให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมีอำนาจในการออกพันธบัตรหรือตราสารอื่นใดเพื่อการลงทุน จัดตั้งบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด เข้าร่วมกิจการกับผู้อื่นหรือถือหุ้นในบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด
4. แก้ไขเพิ่มเติมข้อยกเว้นของลักษณะต้องห้ามมิให้เป็นประธานกรรมการหรือกรรมการ หรือมิให้แต่งตั้งเป็นผู้ว่าการ ให้ชัดเจนว่า ประธานกรรมการ กรรมการ หรือผู้ว่าการ อาจเป็นประธานกรรมการ กรรมการ ผู้จัดการ หรือผู้ดำเนินกิจการ โดยการมอบหมายของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคในกิจการตามมาตรา 13 (10) ได้
5. แก้ไขเพิ่มเติมให้คณะกรรมการมีอำนาจในการวางข้อบังคับว่าด้วยเครื่องแบบพนักงาน และจำหน่ายทรัพย์สินและหนี้สูญออกจากบัญชี
6. แก้ไขเพิ่มเติมคำว่า “สับสเตชั่น” เป็น “สถานีไฟฟ้า” เพื่อให้มีความชัดเจน และมีความหมายกว้างขึ้นและตัดหลักการเกี่ยวกับการมอบข้อพิพาทให้อนุญาโตตุลาการวินิจฉัยในกรณีไม่สามารถตกลงกันในจำนวนค่าตอบแทนในมาตรา 34 ออก และบัญญัติหลักเกณฑ์ในเรื่องการจ่ายเงินค่าทดแทนขึ้นใหม่
7. ปรับปรุงบทบัญญัติว่าด้วยวัตถุประสงค์ในการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาคให้ครอบคลุมถึงการเวนคืนเพื่อใช้ในการก่อสร้างระบบการจำหน่ายพลังงานไฟฟ้าหรือตั้งสถานีไฟฟ้า
8. ให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคมีอำนาจรื้อถอนป้าย โครงสร้างสำหรับติดตั้งป้าย โครงสร้างป้าย สิ่งอำนวยความสะดวกหรือป้องกันอันตรายในการก่อสร้างที่ติดหรือตั้งยื่นล้ำเข้ามาอยู่ใกล้สายส่งศักย์สูงย่อยหรือสายส่งศักย์ต่ำ เสาสถานีไฟฟ้า หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ หรือสิ่งอื่นใดที่ปิดหุ้มคลุมทับสายส่งศักย์ต่ำ หรืออุปกรณ์ต่าง ๆ ที่อยู่ใต้หรือบนกันสาดอาคาร เพื่อป้องกันอันตรายอันอาจจะเกิดขึ้น
9. แก้ไขเพิ่มเติมวงเงินกู้ยืมที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อน และเพิ่มให้การออกพันธบัตรหรือตราสารอื่นใดเพื่อการลงทุน การจัดตั้งบริษัทจำกัดหรือบริษัทมหาชนจำกัด หรือการเข้าร่วมกิจการกับหน่วยงานอื่นเป็นกิจการที่ต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อน จึงจะดำเนินกิจการได้
10. แก้ไขเพิ่มเติมให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคนำส่งรายได้แก่รัฐตามหลักเกณฑ์ที่ได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรี
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 25 มีนาคม 2540--