คณะรัฐมนตรีมีมติรับทราบการออกพันธบัตรออมทรัพย์โดยกระทรวงการคลังและธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตรเพื่อนักลงทุนรายย่อยตามที่กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ
สาระสำคัญของเรื่อง
กค. รายงานว่า เนื่องจากสภาวการณ์เศรษฐกิจโลกในช่วงปีที่ผ่านมามีแนวโน้มชะลอตัว ส่งผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจในประเทศ นอกจากนี้ อัตราดอกเบี้ยในประเทศที่อยู่ในระดับต่ำและมีแนวโน้มปรับตัวลดลงส่งผลกระทบต่อประชาชนและผู้มีรายได้น้อยโดยทั่วไป รวมถึงผู้เกษียณอายุและผู้มีรายได้ประจำจากการรับผลตอบแทนจากการฝากเงินและการลงทุนในตราสารทางการเงิน
กระทรวงการคลังจึงได้ออกพันธบัตรออมทรัพย์เพื่อเป็นทางเลือกในการลงทุนและการออมให้แก่ประชาชนทั่วไป และนิติบุคคลที่ไม่มีวัตถุประสงค์ในการแสวงหากำไร โดยเป็นตราสารหนี้ของกระทรวงการคลังและสถาบันการเงินภาครัฐที่มีความมั่นคงสูง และมีผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากเงินในสถาบันการเงินและธนาคารพาณิชย์ในปัจจุบัน โดยมีวงเงินเสนอขายไม่เกิน 100,000 ล้านบาท เพื่อเป็นการส่งความสุขในช่วงเทศกาลปีใหม่ (ปี 2558) ของกระทรวงการคลัง ซึ่งถือเป็นการออกพันธบัตรออมทรัพย์วงเงินสูงที่สุดในรอบ 3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งประกอบด้วยพันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง อายุ 10 ปี วงเงิน 50,000 ล้านบาท และพันธบัตรออมทรัพย์ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) อายุ 5 ปี วงเงิน 50,000 ล้านบาท ซึ่งจะเสนอขายในเดือนมกราคม 2558 โดยมีรายละเอียดดังนี้
พันธบัตรออมทรัพย์เพื่อนักลงทุนรายย่อย ผู้ออกพันธบัตร กระทรวงการคลัง ธนาคารเพื่อการเกษตร และสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) รุ่นอายุ 10 ปี 5 ปี วงเงินรวม ไม่เกิน 50,000 ล้านบาท ไม่เกิน 50,000 ล้านบาท ผู้รับภาระชำระคืน รัฐบาล รัฐบาลโดยกระทรวงการคลังค้ำประกัน ต้นเงินและดอกเบี้ย อัตราดอกเบี้ย อัตราดอกเบี้ยอ้างอิงอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาล + ส่วนต่าง การชำระดอกเชี้ย ชำระปีละ 2 งวด คือ ในวันที่ 12 มกราคม และ 12 กรกฎาคม ของทุกปี กำหนดการจำหน่าย 12 - 13 มกราคม 2558 ช่วงที่ 1 : 12 - 16 มกราคม 2558 (วงเงินซื้อขั้นต่ำ - สูง : 1,000 บาท - 2,000,000 บาท) ช่วงที่ 2 : 19 - 23 มกราคม 2558 (ไม่จำกัดวงเงินซื้อขั้นสูง) ตัวแทนจำหน่าย ธนาคารตัวแทนจำหน่ายที่ได้รับการแต่งตั้ง ผู้มีสิทธิ์ซื้อ บุคคลธรรมดาที่ถือสัญชาติไทย หรือมีถิ่นที่อยู่ในประเทศไทย สภากาชาดไทย มูลนิธิ สมาคม สหกรณ์ วัด สถานศึกษาของรัฐ โรงพยาบาลของรัฐ นิติบุคคล ที่ไม่มีวัตถุประสงค์ในการแสวงหากำไร
ประโยชน์ที่คาดว่าจะได้รับ
1. ประชาชนทั่วไปมีทางเลือกเพิ่มขึ้นในการลงทุนและการออมผ่านพันธบัตรของภาครัฐระยะยาวที่มีความมั่นคงสูงและได้รับอัตราผลตอบแทนที่สูงกว่าการฝากเงินกับสถาบันการเงินในปัจจุบัน
2. การออกพันธบัตรออมทรัพย์จะส่งเสริมให้เกิดการสร้างวินัยในการลงทุนและการออมเงินของประชาชน รวมทั้งสร้างการเรียนรู้ในการลงทุนพันธบัตรภาครัฐ และเป็นเครื่องมือในการระดมทุนและปรับโครงสร้างหนี้ของภาครัฐได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. นอกจากนี้ การออกพันธบัตรออมทรัพย์ของกระทรวงการคลัง และ ธ.ก.ส. ในครั้งนี้ นับเป็นการขยายฐานนักลงทุนในตราสารหนี้ภาครัฐ โดยระดมทุนจากกลุ่มนักลงทุนรายย่อยและนิติบุคคลที่ไม่มีวัตถุประสงค์ในการแสวงหากำไร ซึ่งจะทำให้การระดมทุนของภาครัฐมีความสมดุลและมีเสถียรภาพมากขึ้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 9 ธันวาคม 2557--