ทำเนียบรัฐบาล--29 มี.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ในบันทึกการหารือด้านการบินระหว่างคณะผู้แทนแห่งราชอาณาจักรไทยและญี่ปุ่น ก่อนกระทรวงคมนาคมดำเนินการต่อไป สาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้ 1. แบบอากาศยาน และการจัดความจุบริการ
1.1 เพิ่ม อากาศยานแบบ A330 เข้าไว้ในสัมประสิทธิ์เทียบแบบอากาศยาน โดยกำหนดค่า ดังนี้
1 A330 (ขนาดไม่เกิน 300 ที่นั่ง) = 1.5 หน่วยความจุ
1 A330 (ขนาดเกิน 300 ที่นั่ง) = 2.0 หน่วยความจุ
1.2 ปรับปรุงสิทธิความจุระหว่างกันเพิ่มขึ้นฝ่ายละ 5.0 หน่วยความจุ รวมเป็นฝ่ายละ 70.25 หน่วยความจุ2. การทำการบินร่วมกัน
ตกลงให้บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) และสายการบินของญี่ปุ่นมีสิทธิทำการบินร่วมกัน (Joint services) ไปยังและมาจาก โอซากา นาโกยา และฟูกูโอกะ ได้ ดังนี้ โอซากา 14 เที่ยว/สัปดาห์ นาโกยา 4 เที่ยว/สัปดาห์ ฟูกูโอกะ 3 เที่ยว/สัปดาห์ เมื่อมีการทำการบินร่วมกันไปยังและมาจากนาโกยา และฟูกูโอกะแล้วหากได้ผลเป็นที่ไม่น่าพอใจ สายการบินของไทยมีสิทธิขอบอกเลิกการบินร่วมกันได้ ส่วนการบินร่วมกันไปยังและมาจากโอซากานั้น ทั้งสองฝ่ายมีสิทธิบอกเลิกการบินร่วมกันได้โดยไม่มีเงื่อนไข 3. การรับขนการจราจรแวะพักค้าง
คณะผู้แทนญี่ปุ่นขอสิทธิรับขนการจราจรแวะพักค้างของตนเอง (own stop over traffic)ระหว่างกรุงเทพฯ- ภูเก็ต เมื่อสายการบินของญี่ปุ่นเปิดทำการบินในเส้นทางมายังกรุงเทพฯ แล้วบินพ้นไปภูเก็ต ทั้งสอง ฝ่ายตกลงและจะหารือในเรื่องนี้ในการเจรจารอบต่อไป4. การจัดสรรเวลาเข้า/ออกสนามบินนาริตะ
คณะผู้แทนญี่ปุ่นแจ้งแก่คณะผู้แทนไทยให้ทราบถึงปัญหาความคับคั่งของสนามบินนาริตะที่โตเกียวและขอความร่วมมือว่าการขอจัดสรรเวลาเข้า/ออกของเที่ยวบิน ณ สนามบินดังกล่าว ขอให้ขอผ่านสมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศเพื่อบรรเทาปัญหาดังกล่าว ซึ่งคณะผู้แทนไทยได้ตอบรับทราบ 5. ผลการเจรจาฯ ดังกล่าว คณะผู้แทนของทั้งสองฝ่ายได้จัดทำเป็นบันทึกการหารือและลงนามร่วมกันเมื่อวันที่ 20 มกราคม 25386. ผลการเจราจรทั้งสองฝ่ายรับทราบแผนของบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่จะนำอากาศยานแบบ A330 ซึ่งทันสมัยมาใช้ในการบินบริการไปยังและมาจากญี่ปุ่น ตั้งแต่กำหนดการบินประจำฤดูร้อน 2538 นี้ และได้ปรับปรุงความตกลงฯ เพื่อให้การนำอากาศยานดังกล่าวมาใช้ทำการบินสามารถกระทำได้ตามแผน อันทำให้สายการบินของทั้งสองฝ่ายได้รับประโยชน์โดยตรงจากความร่วมมือด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 28 มีนาคม 2538--
คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบตามที่กระทรวงคมนาคมเสนอ ในบันทึกการหารือด้านการบินระหว่างคณะผู้แทนแห่งราชอาณาจักรไทยและญี่ปุ่น ก่อนกระทรวงคมนาคมดำเนินการต่อไป สาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้ 1. แบบอากาศยาน และการจัดความจุบริการ
1.1 เพิ่ม อากาศยานแบบ A330 เข้าไว้ในสัมประสิทธิ์เทียบแบบอากาศยาน โดยกำหนดค่า ดังนี้
1 A330 (ขนาดไม่เกิน 300 ที่นั่ง) = 1.5 หน่วยความจุ
1 A330 (ขนาดเกิน 300 ที่นั่ง) = 2.0 หน่วยความจุ
1.2 ปรับปรุงสิทธิความจุระหว่างกันเพิ่มขึ้นฝ่ายละ 5.0 หน่วยความจุ รวมเป็นฝ่ายละ 70.25 หน่วยความจุ2. การทำการบินร่วมกัน
ตกลงให้บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) และสายการบินของญี่ปุ่นมีสิทธิทำการบินร่วมกัน (Joint services) ไปยังและมาจาก โอซากา นาโกยา และฟูกูโอกะ ได้ ดังนี้ โอซากา 14 เที่ยว/สัปดาห์ นาโกยา 4 เที่ยว/สัปดาห์ ฟูกูโอกะ 3 เที่ยว/สัปดาห์ เมื่อมีการทำการบินร่วมกันไปยังและมาจากนาโกยา และฟูกูโอกะแล้วหากได้ผลเป็นที่ไม่น่าพอใจ สายการบินของไทยมีสิทธิขอบอกเลิกการบินร่วมกันได้ ส่วนการบินร่วมกันไปยังและมาจากโอซากานั้น ทั้งสองฝ่ายมีสิทธิบอกเลิกการบินร่วมกันได้โดยไม่มีเงื่อนไข 3. การรับขนการจราจรแวะพักค้าง
คณะผู้แทนญี่ปุ่นขอสิทธิรับขนการจราจรแวะพักค้างของตนเอง (own stop over traffic)ระหว่างกรุงเทพฯ- ภูเก็ต เมื่อสายการบินของญี่ปุ่นเปิดทำการบินในเส้นทางมายังกรุงเทพฯ แล้วบินพ้นไปภูเก็ต ทั้งสอง ฝ่ายตกลงและจะหารือในเรื่องนี้ในการเจรจารอบต่อไป4. การจัดสรรเวลาเข้า/ออกสนามบินนาริตะ
คณะผู้แทนญี่ปุ่นแจ้งแก่คณะผู้แทนไทยให้ทราบถึงปัญหาความคับคั่งของสนามบินนาริตะที่โตเกียวและขอความร่วมมือว่าการขอจัดสรรเวลาเข้า/ออกของเที่ยวบิน ณ สนามบินดังกล่าว ขอให้ขอผ่านสมาคมการขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศเพื่อบรรเทาปัญหาดังกล่าว ซึ่งคณะผู้แทนไทยได้ตอบรับทราบ 5. ผลการเจรจาฯ ดังกล่าว คณะผู้แทนของทั้งสองฝ่ายได้จัดทำเป็นบันทึกการหารือและลงนามร่วมกันเมื่อวันที่ 20 มกราคม 25386. ผลการเจราจรทั้งสองฝ่ายรับทราบแผนของบริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ที่จะนำอากาศยานแบบ A330 ซึ่งทันสมัยมาใช้ในการบินบริการไปยังและมาจากญี่ปุ่น ตั้งแต่กำหนดการบินประจำฤดูร้อน 2538 นี้ และได้ปรับปรุงความตกลงฯ เพื่อให้การนำอากาศยานดังกล่าวมาใช้ทำการบินสามารถกระทำได้ตามแผน อันทำให้สายการบินของทั้งสองฝ่ายได้รับประโยชน์โดยตรงจากความร่วมมือด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 28 มีนาคม 2538--