คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่ กระทรวงการคลัง (กค.) เสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบให้ขยายระยะเวลามาตรการด้านภาษีและค่าธรรมเนียม และมาตรการด้านการเงิน ยกเว้นมาตรการพักชำระหนี้ลูกค้าธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) ออกไปอีก 3 ปี ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 31 ธันวาคม 2560
2. เห็นชอบมาตรการสินเชื่อผ่อนปรนโดยธนาคารออมสินให้ครอบคลุมลูกค้ารายเดิมและลูกค้ารายใหม่
3. เห็นชอบการขยายระยะเวลามาตรการพักชำระหนี้ลูกค้า ธ.ก.ส. ออกไปอีก 3 ปี 3 เดือน ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 31 ธันวาคม 2560 โดยให้รัฐบาลชดเชยดอกเบี้ยเงินกู้ให้ ธ.ก.ส. แทนลูกค้า ธ.ก.ส. ในอัตรา MRR – 1.5 ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2557 ถึงวันที่ 31 ธันวาคม 2560 (ต่อเนื่องจากมาตรการพักหนี้เกษตรกรรายย่อยและประชาชนผู้มีรายได้น้อยที่มีหนี้คงค้างต่ำกว่า 500,000 บาท ซึ่งสิ้นสุดโครงการลงแล้วเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2553)
4. อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกา และเห็นชอบในหลักการร่างประกาศกระทรวงเพื่อขยายระยะเวลามาตรการด้านภาษีและค่าธรรมเนียมออกไปจนถึง วันที่ 31 ธันวาคม 2560 ดังนี้
4.1 ร่างพระราชกฤษฎีกาออกตามความในประมวลรัษฎากรว่าด้วยการลดอัตราและยกเว้นรัษฎากร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. ….
4.2 ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามประมวลกฎหมายที่ดิน กรณีการโอนและการจำนองอสังหาริมทรัพย์ตามมาตรการสนับสนุนเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
4.3 ร่างประกาศกระทรวงมหาดไทย เรื่อง การเรียกเก็บค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิและนิติกรรมตามกฎหมายว่าด้วยอาคารชุด กรณีการโอนและการจำนองห้องชุดตามมาตรการสนับสนุนเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจ ตามหลักเกณฑ์ที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
5. อนุมัติงบประมาณสำหรับแต่ละมาตรการ ดังนี้
5.1 งบประมาณสำหรับมาตรการชดเชยส่วนต่างเบี้ยประกันปีละ 20 ล้านบาท ระยะเวลา 3 ปี โดยให้ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) เป็นหน่วยงานรับการจัดสรรงบประมาณ
5.2 งบประมาณสำหรับการชดเชยส่วนต่างระหว่างต้นทุนเงินกับอัตราผลตอบแทนที่ธนาคารออมสินได้รับจากการปล่อยสินเชื่อตามมาตรการสินเชื่อผ่อนปรน ในวงเงินปีละ 930 ล้านบาท ระยะเวลา 3 ปี โดยให้ธนาคารออมสินเป็นผู้ขอรับการจัดสรรงบประมาณ และให้เบิกจ่ายตามที่เกิดขึ้นจริง
5.3 งบประมาณสำหรับมาตรการพักหนี้เกษตรกรลูกค้า ธ.ก.ส. ในส่วนของเงินต้นที่ไม่เกิน 200,000 บาท ในวงเงินปีละ 330 ล้านบาท ระยะเวลา 3 ปี 3 เดือน โดยให้ ธ.ก.ส. เป็นผู้ขอรับการจัดสรรงบประมาณ และให้เบิกจ่ายตามที่เกิดขึ้นจริง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 16 ธันวาคม 2557--