ทำเนียบรัฐบาล--10 มี.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีพิจารณาการปรับปรุงการมอบอำนาจบริหารราชการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และเห็นชอบให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมอบอำนาจบริหารราชการจากส่วนกลางไปสู่ส่วนภูมิภาค ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดน เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารราชการและเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาพื้นที่ชายแดน ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว และรับทราบข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการปฏิรูประบบราชการ (ปรร.) และสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ดังนี้
1. ปรร. แจ้งว่า
1) ปรร. และ ก.พ. กำลังดำเนินการให้ราชการส่วนกลางกระจายอำนาจไปสู่หน่วยปฏิบัติในระดับจังหวัด
2) ให้ส่วนราชการเร่งปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ โดยมีการกำหนดตัวชี้วัดที่ชัดเจน ทั้งนี้ จะเร่งให้เสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2541
3) กำหนดแนวทางการปฏิรูประบบราชการโดยจัดทำเป็นแผนแม่บทว่า ภารกิจใดควรเป็นของรัฐ ภารกิจใดควรให้เอกชนดำเนินการ หรือจัดตั้งเป็นหน่วยงานพิเศษขึ้นมารองรับ
2. สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอว่า ควรเร่งดำเนินการเพื่อกระจายอำนาจจากส่วนกลางไปสู่ส่วนภูมิภาค โดยเฉพาะจังหวัดชายแดน ทั้งนี้ จะเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เน้นให้เกิดระบบ One Stop Service และสิ่งที่สำคัญควรให้ความรู้แก่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และกำหนดบทบาทของ อบต. ให้ชัดเจน นอกจากนี้ ควรเน้นให้มีการกำกับดูแลผลการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบอย่างจริงจัง เช่น การอนุมัติให้เปิดโรงงานอุตสาหกรรม ควรดูแลให้มีการใช้ระบบบำบัดน้ำเสียอย่างจริงจัง
3. ให้ความเห็นชอบประเด็นข้อเสนอของกระทรวงมหาดไทย คือ การขออนุญาตสินค้าที่อยู่ในข่ายควบคุมการส่งออกและนำเข้ามาในราชอาณาจักร โดยเห็นชอบในหลักการให้มอบอำนาจได้ แต่รายละเอียดเกี่ยวกับประเภทสินค้าและพื้นที่นั้น กระทรวงพาณิชย์ชี้แจงว่าต้องพิจารณาให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลด้วย โดยมอบให้กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงพาณิชย์ ตกลงในรายละเอียดเกี่ยวกับชนิดสินค้าและพื้นที่ว่าจะเป็นประเภทใด และในจังหวัดใดบ้าง
4. เห็นชอบการมอบอำนาจในการอนุมัติจัดตั้ง การโอน การย้ายโรงงาน และเป็นผู้อนุมัติจัดตั้งโรงงานขนาด 2,000 แรงม้า ให้จังหวัดชายแดน โดยให้กระทรวงอุตสาหกรรมจัดส่งบุคลากรที่สามารถพิจารณาได้ไปอยู่จังหวัดชายแดน แล้วแจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดรับทราบ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 10 มีนาคม 2541--
คณะรัฐมนตรีพิจารณาการปรับปรุงการมอบอำนาจบริหารราชการให้ผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดน ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ และเห็นชอบให้ส่วนราชการที่เกี่ยวข้องมอบอำนาจบริหารราชการจากส่วนกลางไปสู่ส่วนภูมิภาค ให้ผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดน เพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการบริหารราชการและเพื่อประโยชน์ในการพัฒนาพื้นที่ชายแดน ทั้งทางด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว และรับทราบข้อสังเกตของสำนักงานคณะกรรมการปฏิรูประบบราชการ (ปรร.) และสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ ดังนี้
1. ปรร. แจ้งว่า
1) ปรร. และ ก.พ. กำลังดำเนินการให้ราชการส่วนกลางกระจายอำนาจไปสู่หน่วยปฏิบัติในระดับจังหวัด
2) ให้ส่วนราชการเร่งปรับปรุงเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ โดยมีการกำหนดตัวชี้วัดที่ชัดเจน ทั้งนี้ จะเร่งให้เสร็จภายในเดือนกุมภาพันธ์ 2541
3) กำหนดแนวทางการปฏิรูประบบราชการโดยจัดทำเป็นแผนแม่บทว่า ภารกิจใดควรเป็นของรัฐ ภารกิจใดควรให้เอกชนดำเนินการ หรือจัดตั้งเป็นหน่วยงานพิเศษขึ้นมารองรับ
2. สำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติเสนอว่า ควรเร่งดำเนินการเพื่อกระจายอำนาจจากส่วนกลางไปสู่ส่วนภูมิภาค โดยเฉพาะจังหวัดชายแดน ทั้งนี้ จะเป็นสิ่งที่สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ เน้นให้เกิดระบบ One Stop Service และสิ่งที่สำคัญควรให้ความรู้แก่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และกำหนดบทบาทของ อบต. ให้ชัดเจน นอกจากนี้ ควรเน้นให้มีการกำกับดูแลผลการดำเนินการให้เป็นไปตามกฎหมายและระเบียบอย่างจริงจัง เช่น การอนุมัติให้เปิดโรงงานอุตสาหกรรม ควรดูแลให้มีการใช้ระบบบำบัดน้ำเสียอย่างจริงจัง
3. ให้ความเห็นชอบประเด็นข้อเสนอของกระทรวงมหาดไทย คือ การขออนุญาตสินค้าที่อยู่ในข่ายควบคุมการส่งออกและนำเข้ามาในราชอาณาจักร โดยเห็นชอบในหลักการให้มอบอำนาจได้ แต่รายละเอียดเกี่ยวกับประเภทสินค้าและพื้นที่นั้น กระทรวงพาณิชย์ชี้แจงว่าต้องพิจารณาให้สอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาลด้วย โดยมอบให้กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงพาณิชย์ ตกลงในรายละเอียดเกี่ยวกับชนิดสินค้าและพื้นที่ว่าจะเป็นประเภทใด และในจังหวัดใดบ้าง
4. เห็นชอบการมอบอำนาจในการอนุมัติจัดตั้ง การโอน การย้ายโรงงาน และเป็นผู้อนุมัติจัดตั้งโรงงานขนาด 2,000 แรงม้า ให้จังหวัดชายแดน โดยให้กระทรวงอุตสาหกรรมจัดส่งบุคลากรที่สามารถพิจารณาได้ไปอยู่จังหวัดชายแดน แล้วแจ้งให้ผู้ว่าราชการจังหวัดรับทราบ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 10 มีนาคม 2541--