คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของสถานพยาบาลและลักษณะการให้บริการของสถานพยาบาล พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เสนอ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาอีกครั้งหนึ่ง แล้วดำเนินการต่อไปได้
สธ. เสนอว่า ได้พิจารณาร่างกฎกระทรวงกำหนดลักษณะของสถานพยาบาลและลักษณะการให้บริการของสถานพยาบาล พ.ศ. .... แล้ว ยืนยันให้ดำเนินการต่อไป แต่ขอปรับปรุงแก้ไขร่างกฎกระทรวงที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้ว โดยเพิ่มเติมคำนิยาม ข้อ 2 “โรงพยาบาลเฉพาะประเภทผู้ป่วย” ซึ่งเดิมกำหนดให้ดำเนินการได้เฉพาะผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมที่ได้รับวุฒิบัตรหรืออนุมัติบัตรจากแพทยสภาเท่านั้น ซึ่งบางสาขายังไม่ได้มีการกำหนดวุฒิบัตรหรืออนุมัติบัตรจากแพทยสภา จึงควรกำหนดให้ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมทั่วไป สามารถดำเนินการโรงพยาบาลเฉพาะประเภทผู้ป่วยได้ ดังนี้ จึงเพิ่มข้อความคำว่า “ผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมหรือ” ในคำนิยาม “โรงพยาบาลเฉพาะประเภทผู้ป่วย” ดังนี้
ข้อ 2 “โรงพยาบาลเฉพาะประเภทผู้ป่วย” หมายความว่า โรงพยาบาลที่จัดให้มีการประกอบวิชาชีพตามลักษณะเฉพาะประเภทผู้ป่วย ซึ่งดำเนินการโดยผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมหรือผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมที่ได้รับวุฒิบัตรหรืออนุมัติบัตรจากแพทยสภา เช่น โรงพยาบาลผู้ป่วยเรื้อรัง โรงพยาบาลผู้ป่วยจิตเวช โรงพยาบาลผู้สูงอายุ โรงพยาบาลแม่และเด็ก และโรงพยาบาลบำบัดยาเสพติด เป็นต้น
สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง
1. กำหนดให้มีบทนิยามคำว่า “สถานพยาบาลประเภทที่ไม่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน” ให้หมายความรวมถึงสถานพยาบาลประเภทคลินิก และ “สถานพยาบาลประเภทที่รับผู้ป่วยไว้ค้างคืน” ให้หมายความรวมถึงสถานพยาบาลประเภทโรงพยาบาล และได้กำหนดให้มีคลินิกและโรงพยาบาลลักษณะต่าง ๆ ไว้ในบทนิยามด้วย เพื่อให้มีความชัดเจนว่าสถานพยาบาลมีลักษณะและลักษณะการให้บริการประเภทใดบ้าง
2. กำหนดให้คลินิกต้องมีลักษณะโดยทั่วไปและมีลักษณะการให้บริการแยกออกจากกัน รวมทั้งกำหนดเพิ่มเติมให้คลินิกจะต้องไม่ตั้งอยู่ในสถานที่เดียวกับสถานพยาบาลของรัฐหรือสภากาชาดไทยซึ่งให้บริการในลักษณะเดียวกัน เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการบังคับใช้กฎหมาย
3. กำหนดให้โรงพยาบาลต้องมีลักษณะโดยทั่วไปและมีลักษณะการให้บริการแยกออกจากกัน เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการบังคับใช้กฎหมาย
4. กำหนดให้โรงพยาบาลต้องประกอบด้วยหน่วยบริการและระบบสนับสนุนการให้บริการตามประเภทของโรงพยาบาลที่กำหนดไว้ในบทนิยาม และเพิ่มเติมให้มีข้อยกเว้นสำหรับโรงพยาบาลขนาดเล็กที่อาจไม่มีหน่วยบริการบางหน่วยแต่จะต้องจัดให้มีบริการเท่าที่จำเป็นได้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 30 ธันวาคม 2557--