คณะรัฐมนตรีพิจารณาเรื่อง การโอนอัตราเงินเดือนของกองบังคับการสืบสวนสอบสวนคดีเศรษฐกิจไปให้กรมสอบสวนคดีพิเศษตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอแล้วมีมติอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (ฝ่ายกฎหมาย) ซึ่งมีนายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานครั้งที่ 2/2548 วันที่ 27 มกราคม 2548 ดังนี้
1. เห็นชอบให้โอนอัตรากำลังของกองบังคับการสืบสวนสอบสวนคดีเศรษฐกิจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 378 อัตรา ไปให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม ตามพระราชกฤษฎีกาโอนกิจการบริหารและอำนาจ หน้าที่ของส่วนราชการฯ และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2547 โดยให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติแจ้งเลขที่ตำแหน่งและอัตราเงินเดือนที่จะต้องตัดโอนไปให้สำนักงาน ก.พ. และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตามความเห็นของสำนักงาน ก.พ. ให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลา 15 วัน เพื่อสำนักงบประมาณ และกรมบัญชีกลางจะได้ดำเนินการต่อไป
2. ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับไปพิจารณาดำเนินการตามประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (ฝ่ายกฎหมาย) ดังนี้
1. ปัจจุบันคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้ถ่ายโอนภารกิจการป้องกันและระงับอัคคีภัยของกองบังคับการตำรวจดับเพลิง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไปสังกัดกรุงเทพมหานครแล้ว ดังนั้น อัตรากำลังในส่วนนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ควรปรับเปลี่ยนให้ไปอยู่ในตำแหน่งงานอื่นที่เหมาะสม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจดับเพลิงให้ยุบและย้ายให้ไปดำรงตำแหน่งอื่นต่อไป ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับการยุบเลิกกองบังคับการตำรวจดับเพลิง ดังกล่าว
2. โดยที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2548 อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาแบ่งและจัดตั้งส่วนราชการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงแบ่งและจัดตั้งส่วนราชการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ ซึ่งได้มีการปรับปรุงโครงสร้างของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เช่น การโอนภารกิจของกองทะเบียน กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ไปยังส่วนราชการอื่นตามมาตรา 56 แห่งพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ.2545 และการโอนภารกิจด้านการดับเพลิงไปสังกัดกรุงเทพมหานคร ฯลฯ ทั้งนี้ เพื่อให้หน่วยงานอื่นที่รับผิดชอบโดยตรงเป็นผู้ดำเนินการจะเหมาะสมกว่า ซึ่งผลจากการปรับเปลี่ยนโครงสร้างภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน นั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติควรจะได้ดำเนินการจัดการเกี่ยวกับอัตรากำลังที่มีอยู่ในภาพรวมทั้งระบบของโครงสร้างใหม่ให้มีความเหมาะสมต่อไป และหากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเห็นว่า หน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นใหม่ตามร่างพระราชกฤษฎีกาและร่างกฎกระทรวงดังกล่าวข้างต้น ยังมีความจำเป็นต้องใช้อัตรากำลังพลเพิ่มขึ้นอีก เห็นควรให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการตามขั้นตอนขอรับการจัดสรรอัตรากำลังจากคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) ตามความจำเป็น และขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป
ทั้งนี้ ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งรัดการดำเนินการเกี่ยวกับการถ่ายโอนภารกิจ การป้องกันและระงับอัคคีภัยของกองบังคับการตำรวจดับเพลิง รวมทั้งการเกลี่ยอัตรากำลังที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จโดยเร็วภายใน 1 เดือน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2548--จบ--
1. เห็นชอบให้โอนอัตรากำลังของกองบังคับการสืบสวนสอบสวนคดีเศรษฐกิจ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 378 อัตรา ไปให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ กระทรวงยุติธรรม ตามพระราชกฤษฎีกาโอนกิจการบริหารและอำนาจ หน้าที่ของส่วนราชการฯ และมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายน 2547 โดยให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติแจ้งเลขที่ตำแหน่งและอัตราเงินเดือนที่จะต้องตัดโอนไปให้สำนักงาน ก.พ. และกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตามความเห็นของสำนักงาน ก.พ. ให้เสร็จสิ้นภายในระยะเวลา 15 วัน เพื่อสำนักงบประมาณ และกรมบัญชีกลางจะได้ดำเนินการต่อไป
2. ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติรับไปพิจารณาดำเนินการตามประเด็นอภิปรายของคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 7 (ฝ่ายกฎหมาย) ดังนี้
1. ปัจจุบันคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบให้ถ่ายโอนภารกิจการป้องกันและระงับอัคคีภัยของกองบังคับการตำรวจดับเพลิง สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ไปสังกัดกรุงเทพมหานครแล้ว ดังนั้น อัตรากำลังในส่วนนี้สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ควรปรับเปลี่ยนให้ไปอยู่ในตำแหน่งงานอื่นที่เหมาะสม และโดยเฉพาะอย่างยิ่งตำแหน่งผู้บัญชาการตำรวจดับเพลิงให้ยุบและย้ายให้ไปดำรงตำแหน่งอื่นต่อไป ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับการยุบเลิกกองบังคับการตำรวจดับเพลิง ดังกล่าว
2. โดยที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 11 มกราคม 2548 อนุมัติหลักการร่างพระราชกฤษฎีกาแบ่งและจัดตั้งส่วนราชการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. .... และร่างกฎกระทรวงแบ่งและจัดตั้งส่วนราชการในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ ตามที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติเสนอ ซึ่งได้มีการปรับปรุงโครงสร้างของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เช่น การโอนภารกิจของกองทะเบียน กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ไปยังส่วนราชการอื่นตามมาตรา 56 แห่งพระราชบัญญัติปรับปรุงกระทรวง ทบวง กรม พ.ศ.2545 และการโอนภารกิจด้านการดับเพลิงไปสังกัดกรุงเทพมหานคร ฯลฯ ทั้งนี้ เพื่อให้หน่วยงานอื่นที่รับผิดชอบโดยตรงเป็นผู้ดำเนินการจะเหมาะสมกว่า ซึ่งผลจากการปรับเปลี่ยนโครงสร้างภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบัน นั้น สำนักงานตำรวจแห่งชาติควรจะได้ดำเนินการจัดการเกี่ยวกับอัตรากำลังที่มีอยู่ในภาพรวมทั้งระบบของโครงสร้างใหม่ให้มีความเหมาะสมต่อไป และหากสำนักงานตำรวจแห่งชาติเห็นว่า หน่วยงานที่จัดตั้งขึ้นใหม่ตามร่างพระราชกฤษฎีกาและร่างกฎกระทรวงดังกล่าวข้างต้น ยังมีความจำเป็นต้องใช้อัตรากำลังพลเพิ่มขึ้นอีก เห็นควรให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติดำเนินการตามขั้นตอนขอรับการจัดสรรอัตรากำลังจากคณะกรรมการกำหนดเป้าหมายและนโยบายกำลังคนภาครัฐ (คปร.) ตามความจำเป็น และขอตั้งงบประมาณรายจ่ายประจำปีต่อไป
ทั้งนี้ ให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเร่งรัดการดำเนินการเกี่ยวกับการถ่ายโอนภารกิจ การป้องกันและระงับอัคคีภัยของกองบังคับการตำรวจดับเพลิง รวมทั้งการเกลี่ยอัตรากำลังที่เกี่ยวข้องให้แล้วเสร็จโดยเร็วภายใน 1 เดือน
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2548--จบ--