ทำเนียบรัฐบาล--7 ก.ย.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหาโสเภณีเด็กระยะที่ 1 (กุมภาพันธ์- เมษายน 2537) และระยะที่ 2 (พฤษภาคม - กรกฎาคม 2537) และรายงานผลการดำเนินการแก้ไข ปัญหาโสเภณีเด็ก ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ - กรกฎาคม 2537 ของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปได้ดังนี้
1. กระทรวงแรงงานและสวัสดิ์การสังคม
1.1 โครงการสร้างชีวิตใหม่ให้สตรีชนบท ได้ดำเนินการจัดฝึกอบรมอาชีพแก้สตรีที่ประกอบ การอาชีพแก่สตรีที่ประกอบอาชีพหญิงบริการที่เดินทางกลับภูมิลำเนาเดิม และเยาวสตรีกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้ได้รับความรู้ด้านวิชาชีพ มีงานทำ และปรับเปลี่ยนอาชีพใหม่ รวมทั้งส่งเสริมผู้สำเร็จการฝึกอบรมให้รวมกลุ่มประกอบอาชีพอยู่ในพื้นที่หรือท้องถิ่นของตนเอง มีผลงาน สะสมเดือนกุมภาพันธ์ - กรกฎาคม 2,027 คน (เป้าหมายทั้งปี 2,240 คน)
1.2 โครงการครอบครัวมั่นคง ซึ่งเป็นโครงการประสานการปฎิบัติในการให้การฝึกอาชีพ แก่หัวหน้าครอบครัวที่ขาดโอกาสในการประกอบอาชีพ จัดหางานให้ทำ คุ้มครองสวัสดิการ แรงงาน ประกันความมั่นคงและให้ความช่วยเหลือตามความเหมาะสมเพื่อให้ครอบครัวเกิดความมั่นคง กระทรวง แรงงาน และสวัสดิการสังคมอนุมัติโครงการแล้ว ขณะนี้ อยู่ระหว่างการเตรียมการ
1.3การส่งเคราะห์ และฝึกอาชีพสตรี ได้ดำเนินการฝึกอาชีพเยาวสตรีชนบทที่มีฐานะ ครอบครัวยากจน ด้อยโอกาสทางการศึกษา เพื่อให้มีความรู้วิชาชีพและป้องกันมีให้ต้องไปประกอบอาชีพที่ ไม่เหมาะสม มีผลงานสะสมเดือนกุมภาพันธ์ - กรกฎาคม 3,929 คน (เป้าหมายทั้งปี 4,350 คน)
1.4 การส่งเสริมอาชีพ ได้ดำเนินการดังนี้
1.4.1 จัดหางานให้ผู้รับการฝึกอาชีพ เพื่อให้มีงานทำ มีรายได้ต่อไปผลงานสะสมเดือน กุมภาพันธ์ - กรกฎาคม 2,138 คน (เป้าหมายทั้งปี 1,500 คน)
1.4.2 ให้บริการกู้ยืมเงินทุนประกอบอาชีพแก่หัวหน้าครอบครัวที่ประสบปัญหาความเดือดร้อน ในวงเงิน 10,000 บาท เพื่อนำไปลงทุนประกอบอาชีพ โดยไม่เสียดอกเบี้ย ผ่อนชำระคืนในระยะยาว 5 ปี ผลงานสะสมเดือนกุมภาพันธ์ - กรกฎาคม 642 คน
1.5 ศูนย์ประสานการให้ความช่วยเหลือผู้ถูกบังคับด้านบริการทางเพศ ดำเนินการรับเรื่อง ในกรณีมีผู้ถูกกักขังหน่วงเหนี่ยวบังคับให้ค้าบริการทางเพศ และประสานงานกับกองปราบปรามกรมตำรวจ เพื่อให้การช่วยเหลือโดยส่งเข้ารับการสงเคราะห์และฝึกอาชีพในศูนย์สงเคราะห์ และคุ้มครองสวัสดิการ ภาพสตรี สำหรับในส่วนภูมิภาค ที่ทำการประชาสงเคราะห์จังหวัดทั่วประเทศเป็นศูนย์ประสานฯ มีผล งานสะสมเดือนกุมภาพันธ์ - กรกฎาคม 142 ราย (เป้าหมายทั้งปี 200 ราย)
1.6 ศูนย์สงเคราะห์และคุ้มครองสวัสดิภาพสตรี จังหวัดนนทบุรี ดำเนินการให้การช่วย เหลือสตรีที่ประสบปัญหาทางสังคม โดยมีบริการต่าง ๆ ให้คำปรึกษา ฝึกอาชีพ มีผลงานสะสมเดือน กุมภาพันธ์ - กรกฎาคม 254 ราย (เป้าหมายทั้งปี 350 ราย)
2 สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
2.1.1 จัดทำโครงการจังหวัดปลอดโสเภณีเด็ก โดยให้จังหวัดนครนายกดำเนินการเป็น โครงการนำร่อง สำหรับใช้ขยายผลในจังหวัดอื่น ๆ
2.1.2 ประสานโครงการ ดังกล่าว ให้จังหวัดนครนายก กระทรวงมหาดไทย กระทรวง แรงงานและสวัสดิการสังคม กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตร และสหกรณ์ และกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อถือปฎิบัติ และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
2.1.3 จังหวัดนครนายกได้ดำเนินการ
(1)จัดตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัด และอำเภอ เพื่อดำเนินการให้จังหวัดนครนายก เป็น เขตปลอดโสเภณีเด็ก
(2) จัดประชุมเจ้าของสถานบริการ เพื่อชี้แจงนโยบายของรัฐบาล โดยมีเจ้าของสถาน บริการไปร่วมประชุม และได้รับความร่วมมือจากตำรวจ สาธารณสุขสำนักงานจังหวัด ไปชี้แจงราย ละเอียด และข้อควรปฎิบัติในส่วนที่เกี่ยวข้อง
(3) จัดทำแผนปฎิบัติการเกี่ยวกับปัญหาโสเภณีเด็ก เพื่อเป็นกรอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำแผนปฎิบัติการในหน่วยงานนั้น ๆ ถือปฎิบัติเป็นของตนเอง
(4) ออกเยี่ยมสถานบริการร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เพื่อสอบรายละเอียดเกี่ยวกับ ประวัติหญิงอาชีพพิเศษทุกอำเภอในจังหวัด ทุกวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ และประสานการดำเนินการร่วมกับ ตำรวจภูธร ในการเก็บรวบรวมสถิติและข้อมูล เพื่อนำเสนอรายงาน
(5) รณรงค์ด้านการค้าประเวณีร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขจังหวัดและหน่วยงานอื่นๆ ตลอด จนจัดทำสื่อที่ใช้ในการเผยแพร่ และประชาสัมพันธ์ทางสื่อมวลชน
(6) จากการดำเนินการรณรงค์ตามแผนปฎิบัติการ โดยการจัดสัมมนาเจ้าของสถานบริการ การออกตรวจเยี่ยมสถานบริการ เพื่อสำรวจหญิงบริการตามสถานบริการต่าง ๆ เพื่อจัดเก็บข้อมูล การ ให้คำปรึกษาแนะนำ การจัดทำประวัติ ตลอดจนการตรวจสอบบัตรประชาชนหรือในแทน ทำให้สามารถ ลดจำนวนหญิงโสเภณีจากเดิม 235 คน เหลือ 196 คน (จังหวัดนครนายก แจ้งเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2537)
2.2 โครงการรณรงค์แก้ปัญหาธุรกิจบริการทางเพศ ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์รณรงค์ให้ ประชาชนทั่วไปเข้าใจนโยบายและเจตนารมณ์ที่แน่วแน่ของรัฐบาล ในอันที่จะป้องกันปราบปราม และ แก้ไขปัญหาธุรกิจบริการทางเพศ โดย/เฉพาะในส่วนของการขจัดปัญหาโสเภณีเด็กการบังคับกักขังเพื่อค้า ประเวณี และการแพร่กระจายของโรคเอดส์ โดยจัดทำเป็นสื่อต่าง ๆ เช่นสื่อภาพยนตร์ทางโทรทัศน์ อัด สำเนาเป็นระบบ VHS จัดทำสปอตวิทยุ จัดทำสติกเกอร์ และแผ่นพับ
2.3 โครงการเผยแพร่ภาพยนตร์รณรงค์แก้ปัญหาธุรกิจบริการทางเพศโทรทัศน์ เป็นการ ดำเนินการต่อเนื่องจากการจัดทำโครงการรณรงค์แก้ปัญหาธุรกิจบริการทางเพศโดยการนำสื่อภาพยนตร์ ทางโทรทัศน์ เผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง และได้เช่าเวลาสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 เป็นแกนหลัก ในการเผยแพร่ โดยให้ออกอากาศมีความถี่มากที่สุด
2.4 แก้ไขพระราชบัญญัติปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2503 คณะกรรมการส่งเสริม และ ประสานงานสตรีแห่งชาติ(กสส.) ร่วมกับกรมประชาสงเคราะห์ ได้เสนอแก้ไขพระราชบัญญัติปรามการ ค้าประเวณี พ.ศ. 2503 เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน ซึ่งได้ผ่านการพิจารณาของคณะ รัฐมนตรีแล้ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 6 กันยายน 2537--
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการดำเนินงานแก้ไขปัญหาโสเภณีเด็กระยะที่ 1 (กุมภาพันธ์- เมษายน 2537) และระยะที่ 2 (พฤษภาคม - กรกฎาคม 2537) และรายงานผลการดำเนินการแก้ไข ปัญหาโสเภณีเด็ก ระหว่างเดือนกุมภาพันธ์ - กรกฎาคม 2537 ของสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี สรุปได้ดังนี้
1. กระทรวงแรงงานและสวัสดิ์การสังคม
1.1 โครงการสร้างชีวิตใหม่ให้สตรีชนบท ได้ดำเนินการจัดฝึกอบรมอาชีพแก้สตรีที่ประกอบ การอาชีพแก่สตรีที่ประกอบอาชีพหญิงบริการที่เดินทางกลับภูมิลำเนาเดิม และเยาวสตรีกลุ่มเสี่ยงในพื้นที่ ภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้ได้รับความรู้ด้านวิชาชีพ มีงานทำ และปรับเปลี่ยนอาชีพใหม่ รวมทั้งส่งเสริมผู้สำเร็จการฝึกอบรมให้รวมกลุ่มประกอบอาชีพอยู่ในพื้นที่หรือท้องถิ่นของตนเอง มีผลงาน สะสมเดือนกุมภาพันธ์ - กรกฎาคม 2,027 คน (เป้าหมายทั้งปี 2,240 คน)
1.2 โครงการครอบครัวมั่นคง ซึ่งเป็นโครงการประสานการปฎิบัติในการให้การฝึกอาชีพ แก่หัวหน้าครอบครัวที่ขาดโอกาสในการประกอบอาชีพ จัดหางานให้ทำ คุ้มครองสวัสดิการ แรงงาน ประกันความมั่นคงและให้ความช่วยเหลือตามความเหมาะสมเพื่อให้ครอบครัวเกิดความมั่นคง กระทรวง แรงงาน และสวัสดิการสังคมอนุมัติโครงการแล้ว ขณะนี้ อยู่ระหว่างการเตรียมการ
1.3การส่งเคราะห์ และฝึกอาชีพสตรี ได้ดำเนินการฝึกอาชีพเยาวสตรีชนบทที่มีฐานะ ครอบครัวยากจน ด้อยโอกาสทางการศึกษา เพื่อให้มีความรู้วิชาชีพและป้องกันมีให้ต้องไปประกอบอาชีพที่ ไม่เหมาะสม มีผลงานสะสมเดือนกุมภาพันธ์ - กรกฎาคม 3,929 คน (เป้าหมายทั้งปี 4,350 คน)
1.4 การส่งเสริมอาชีพ ได้ดำเนินการดังนี้
1.4.1 จัดหางานให้ผู้รับการฝึกอาชีพ เพื่อให้มีงานทำ มีรายได้ต่อไปผลงานสะสมเดือน กุมภาพันธ์ - กรกฎาคม 2,138 คน (เป้าหมายทั้งปี 1,500 คน)
1.4.2 ให้บริการกู้ยืมเงินทุนประกอบอาชีพแก่หัวหน้าครอบครัวที่ประสบปัญหาความเดือดร้อน ในวงเงิน 10,000 บาท เพื่อนำไปลงทุนประกอบอาชีพ โดยไม่เสียดอกเบี้ย ผ่อนชำระคืนในระยะยาว 5 ปี ผลงานสะสมเดือนกุมภาพันธ์ - กรกฎาคม 642 คน
1.5 ศูนย์ประสานการให้ความช่วยเหลือผู้ถูกบังคับด้านบริการทางเพศ ดำเนินการรับเรื่อง ในกรณีมีผู้ถูกกักขังหน่วงเหนี่ยวบังคับให้ค้าบริการทางเพศ และประสานงานกับกองปราบปรามกรมตำรวจ เพื่อให้การช่วยเหลือโดยส่งเข้ารับการสงเคราะห์และฝึกอาชีพในศูนย์สงเคราะห์ และคุ้มครองสวัสดิการ ภาพสตรี สำหรับในส่วนภูมิภาค ที่ทำการประชาสงเคราะห์จังหวัดทั่วประเทศเป็นศูนย์ประสานฯ มีผล งานสะสมเดือนกุมภาพันธ์ - กรกฎาคม 142 ราย (เป้าหมายทั้งปี 200 ราย)
1.6 ศูนย์สงเคราะห์และคุ้มครองสวัสดิภาพสตรี จังหวัดนนทบุรี ดำเนินการให้การช่วย เหลือสตรีที่ประสบปัญหาทางสังคม โดยมีบริการต่าง ๆ ให้คำปรึกษา ฝึกอาชีพ มีผลงานสะสมเดือน กุมภาพันธ์ - กรกฎาคม 254 ราย (เป้าหมายทั้งปี 350 ราย)
2 สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
2.1.1 จัดทำโครงการจังหวัดปลอดโสเภณีเด็ก โดยให้จังหวัดนครนายกดำเนินการเป็น โครงการนำร่อง สำหรับใช้ขยายผลในจังหวัดอื่น ๆ
2.1.2 ประสานโครงการ ดังกล่าว ให้จังหวัดนครนายก กระทรวงมหาดไทย กระทรวง แรงงานและสวัสดิการสังคม กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข กระทรวงเกษตร และสหกรณ์ และกระทรวงอุตสาหกรรม เพื่อถือปฎิบัติ และดำเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้อง
2.1.3 จังหวัดนครนายกได้ดำเนินการ
(1)จัดตั้งคณะกรรมการระดับจังหวัด และอำเภอ เพื่อดำเนินการให้จังหวัดนครนายก เป็น เขตปลอดโสเภณีเด็ก
(2) จัดประชุมเจ้าของสถานบริการ เพื่อชี้แจงนโยบายของรัฐบาล โดยมีเจ้าของสถาน บริการไปร่วมประชุม และได้รับความร่วมมือจากตำรวจ สาธารณสุขสำนักงานจังหวัด ไปชี้แจงราย ละเอียด และข้อควรปฎิบัติในส่วนที่เกี่ยวข้อง
(3) จัดทำแผนปฎิบัติการเกี่ยวกับปัญหาโสเภณีเด็ก เพื่อเป็นกรอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จัดทำแผนปฎิบัติการในหน่วยงานนั้น ๆ ถือปฎิบัติเป็นของตนเอง
(4) ออกเยี่ยมสถานบริการร่วมกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุข เพื่อสอบรายละเอียดเกี่ยวกับ ประวัติหญิงอาชีพพิเศษทุกอำเภอในจังหวัด ทุกวันพฤหัสบดีและวันศุกร์ และประสานการดำเนินการร่วมกับ ตำรวจภูธร ในการเก็บรวบรวมสถิติและข้อมูล เพื่อนำเสนอรายงาน
(5) รณรงค์ด้านการค้าประเวณีร่วมกับกระทรวงสาธารณสุขจังหวัดและหน่วยงานอื่นๆ ตลอด จนจัดทำสื่อที่ใช้ในการเผยแพร่ และประชาสัมพันธ์ทางสื่อมวลชน
(6) จากการดำเนินการรณรงค์ตามแผนปฎิบัติการ โดยการจัดสัมมนาเจ้าของสถานบริการ การออกตรวจเยี่ยมสถานบริการ เพื่อสำรวจหญิงบริการตามสถานบริการต่าง ๆ เพื่อจัดเก็บข้อมูล การ ให้คำปรึกษาแนะนำ การจัดทำประวัติ ตลอดจนการตรวจสอบบัตรประชาชนหรือในแทน ทำให้สามารถ ลดจำนวนหญิงโสเภณีจากเดิม 235 คน เหลือ 196 คน (จังหวัดนครนายก แจ้งเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2537)
2.2 โครงการรณรงค์แก้ปัญหาธุรกิจบริการทางเพศ ได้ดำเนินการประชาสัมพันธ์รณรงค์ให้ ประชาชนทั่วไปเข้าใจนโยบายและเจตนารมณ์ที่แน่วแน่ของรัฐบาล ในอันที่จะป้องกันปราบปราม และ แก้ไขปัญหาธุรกิจบริการทางเพศ โดย/เฉพาะในส่วนของการขจัดปัญหาโสเภณีเด็กการบังคับกักขังเพื่อค้า ประเวณี และการแพร่กระจายของโรคเอดส์ โดยจัดทำเป็นสื่อต่าง ๆ เช่นสื่อภาพยนตร์ทางโทรทัศน์ อัด สำเนาเป็นระบบ VHS จัดทำสปอตวิทยุ จัดทำสติกเกอร์ และแผ่นพับ
2.3 โครงการเผยแพร่ภาพยนตร์รณรงค์แก้ปัญหาธุรกิจบริการทางเพศโทรทัศน์ เป็นการ ดำเนินการต่อเนื่องจากการจัดทำโครงการรณรงค์แก้ปัญหาธุรกิจบริการทางเพศโดยการนำสื่อภาพยนตร์ ทางโทรทัศน์ เผยแพร่ทางสถานีโทรทัศน์ทุกช่อง และได้เช่าเวลาสถานีวิทยุโทรทัศน์แห่งประเทศไทย ช่อง 11 เป็นแกนหลัก ในการเผยแพร่ โดยให้ออกอากาศมีความถี่มากที่สุด
2.4 แก้ไขพระราชบัญญัติปรามการค้าประเวณี พ.ศ. 2503 คณะกรรมการส่งเสริม และ ประสานงานสตรีแห่งชาติ(กสส.) ร่วมกับกรมประชาสงเคราะห์ ได้เสนอแก้ไขพระราชบัญญัติปรามการ ค้าประเวณี พ.ศ. 2503 เพื่อให้เหมาะสมกับสภาพการณ์ในปัจจุบัน ซึ่งได้ผ่านการพิจารณาของคณะ รัฐมนตรีแล้ว
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 6 กันยายน 2537--