ทำเนียบรัฐบาล--11 ก.พ.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. ..... ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณืเสนอ ด้วยเห็นว่า พระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ.2511 ได้ถือปฏิบัติมาเป็นเวลานานแล้ว บทบัญญัติหลายประการไม่เอื้อประโยชน์ต่อการพัฒนาการสหกรณ์ให้ทันต่อสภาพการณ์ปัจจุบันในการแข่งขันกับระบบธรุกิจอื่นทั่วไป สมควรปรับปรุงเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะปัจจุบัน ดังนั้น จึงเห็นสมควรยกเลิกพระราชบัญญัติสหกรณ์ทั้งฉบับ แล้วยกร่างใหม่ เพื่อสามารถสนับสนุนให้สหกรณ์ดำเนินการบรรลุวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งสหกรณ์ และเป็นองค์กรที่สามารถช่วยตนเองทางเศรษฐกิจและสังคมได้โดยลำพัง อันเป็นการพัฒนาระบบสหกรณ์ให้มีความเจริญเติบโตยิ่งขึ้น
สำหรับสาระสำคัญของร่างกฏหมายฉบับดังกล่าว ได้แก่
1. ให้มีคณะกรรมการพัฒนากรสหกรณ์แห่งชาติขึ้น เพื่อทำหน้าที่เสนอความเห็นต่อรัฐบาลเกี่ยวกับนโยบายและแนวทางในการส่งเสริมและพัฒนาสหกรณ์ รวมทั้งแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินการของสหกรณ์
2. จัดให้มีกองทุนพัฒนาสหกรณ์ (กพส.) เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่บรรดาสหกรณ์
3. กำหนดให้มีสหกรณ์มีชนิดเดียว คือ สหกรณ์ที่สมาชิกมีความรับผิดจำกัด เพียงไม่เกินจำนวนเนค่าหุ้นที่ยังใช้ไม่ครบมูลค่าหุ้นที่ตนถือ เพื่อให้มีการพัฒนาสหกรณ์ด้วยความมั่นคง
4. เปิดโอกาสให้สหกรณ์รับบุคคลภายนอกที่มีความสนใจเข้าร่วมในกิจการสหกรณ์ แต่มีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนที่จะเป็นสมาชิกสามารถเข้าเป็นสมาชิกสมทบได้
5. ให้สหกรณ์สามารถแยกออกไปตั้งเป็นสหกรณ์ใหม่ และดำเนินการกิจการได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องเริ่มจัดตั้งขึ้นใหม่
6. ให้นายทะเบียนสหกรณ์สามารถมอบอำนาจต่อแก่พนักงานเจ้าหน้าที่อื่น เพื่อความคล่องตัวในการปฏิบัติงาน
7. ปรับปรุงองค์ประกอบและวาระการดำรงตำแหน่งของคณะกรรมการดำเนินการของสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย
8. ให้มีคณะกรรมการที่ปรึกษาเพื่อให้คำแนะนำแก่สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย
9. ปรับปรุงบทบัญญัติเกี่ยวกับกลุ่มเกษตรกร เพื่อให้มีการพัฒนาไปสู่การจัดตั้งสหกรณ์อย่างเป็นระบบ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2540--
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ. ..... ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณืเสนอ ด้วยเห็นว่า พระราชบัญญัติสหกรณ์ พ.ศ.2511 ได้ถือปฏิบัติมาเป็นเวลานานแล้ว บทบัญญัติหลายประการไม่เอื้อประโยชน์ต่อการพัฒนาการสหกรณ์ให้ทันต่อสภาพการณ์ปัจจุบันในการแข่งขันกับระบบธรุกิจอื่นทั่วไป สมควรปรับปรุงเพื่อให้สอดคล้องกับสภาวะปัจจุบัน ดังนั้น จึงเห็นสมควรยกเลิกพระราชบัญญัติสหกรณ์ทั้งฉบับ แล้วยกร่างใหม่ เพื่อสามารถสนับสนุนให้สหกรณ์ดำเนินการบรรลุวัตถุประสงค์ของการจัดตั้งสหกรณ์ และเป็นองค์กรที่สามารถช่วยตนเองทางเศรษฐกิจและสังคมได้โดยลำพัง อันเป็นการพัฒนาระบบสหกรณ์ให้มีความเจริญเติบโตยิ่งขึ้น
สำหรับสาระสำคัญของร่างกฏหมายฉบับดังกล่าว ได้แก่
1. ให้มีคณะกรรมการพัฒนากรสหกรณ์แห่งชาติขึ้น เพื่อทำหน้าที่เสนอความเห็นต่อรัฐบาลเกี่ยวกับนโยบายและแนวทางในการส่งเสริมและพัฒนาสหกรณ์ รวมทั้งแก้ไขปัญหาและอุปสรรคในการดำเนินการของสหกรณ์
2. จัดให้มีกองทุนพัฒนาสหกรณ์ (กพส.) เพื่อให้ความช่วยเหลือด้านการเงินแก่บรรดาสหกรณ์
3. กำหนดให้มีสหกรณ์มีชนิดเดียว คือ สหกรณ์ที่สมาชิกมีความรับผิดจำกัด เพียงไม่เกินจำนวนเนค่าหุ้นที่ยังใช้ไม่ครบมูลค่าหุ้นที่ตนถือ เพื่อให้มีการพัฒนาสหกรณ์ด้วยความมั่นคง
4. เปิดโอกาสให้สหกรณ์รับบุคคลภายนอกที่มีความสนใจเข้าร่วมในกิจการสหกรณ์ แต่มีคุณสมบัติไม่ครบถ้วนที่จะเป็นสมาชิกสามารถเข้าเป็นสมาชิกสมทบได้
5. ให้สหกรณ์สามารถแยกออกไปตั้งเป็นสหกรณ์ใหม่ และดำเนินการกิจการได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่ต้องเริ่มจัดตั้งขึ้นใหม่
6. ให้นายทะเบียนสหกรณ์สามารถมอบอำนาจต่อแก่พนักงานเจ้าหน้าที่อื่น เพื่อความคล่องตัวในการปฏิบัติงาน
7. ปรับปรุงองค์ประกอบและวาระการดำรงตำแหน่งของคณะกรรมการดำเนินการของสันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย
8. ให้มีคณะกรรมการที่ปรึกษาเพื่อให้คำแนะนำแก่สันนิบาตสหกรณ์แห่งประเทศไทย
9. ปรับปรุงบทบัญญัติเกี่ยวกับกลุ่มเกษตรกร เพื่อให้มีการพัฒนาไปสู่การจัดตั้งสหกรณ์อย่างเป็นระบบ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2540--