ทำเนียบรัฐบาล--2 มิ.ย.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีพิจารณาตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ เรื่อง บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด ขอรับความเห็นชอบจัดตั้งบริษัทจำกัด เพื่อแยกธุรกิจประกันชีวิตและธุรกิจประกันวินาศภัยออกจากกัน แล้วมีมติดังนี้
1. อนุมัติให้บริษัทเมืองไทยประกันชีวิต จำกัด ไปดำเนินการจัดตั้งบริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด เพื่อรับโอนบรรดาทรัพย์สิน หนี้สิน ภาระความรับผิดชอบตามกรมธรรม์และต่อบุคคลภายนอก รวมทั้งพนักงาน ลูกจ้างในส่วนกิจการประกันวินาศภัยจากบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด
2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยแก่บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด ได้ เมื่อบริษัทฯ ได้ปฏิบัติครบถ้วนตามเงื่อนไขแห่งประกาศกระทรวงพาณิชย์แล้ว
ทั้งนี้ เนื่องจากกระทรวงพาณิชย์รายงานว่า
1. มาตรา 127 วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ. 2535 และมาตรา 121 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 กำหนดให้บริษัทที่ประกอบธุรกิจประกันชีวิตและธุรกิจประกันวินาศภัย จะต้องจัดตั้งบริษัทขึ้นใหม่เพื่อแยกธุรกิจประกันชีวิตและธุรกิจประกันวินาศภัยออกจากกันให้แล้วเสร็จภายในแปดปี นับแต่วันที่พระราชบัญญัติดังกล่าวมีผลใช้บังคับ ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 10 เมษายน 2543
2. ปัจจุบันบริษัทประกันภัยที่จะต้องแยกธุรกิจประกันชีวิตและธุรกิจประกันวินาศภัยออกจากกันมีจำนวน 6 บริษัท เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศไทย 5 บริษัท และเป็นสาขาของบริษัทต่างประเทศ 1 บริษัท คือ 1) บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด2) บริษัท ไทยประสิทธิประกันภัย จำกัด 3) บริษัท ไทยสมุทรพาณิชย์ประกันภัย จำกัด 4) บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด5) บริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ จำกัด (มหาชน) 6) บริษัท อเมริกันอินเตอร์แนชชั่นแนลแอสชัวรันส์ จำกัด (สาขาประเทศไทย)
3. กระทรวงพาณิชย์ได้ออกประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง เงื่อนไขในการจัดตั้งบริษัทจำกัด หรือบริษัทมหาชนจำกัดเพื่อแยกธุรกิจประกันชีวิตและธุรกิจประกันวินาศภัยออกจากกัน และประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง เงื่อนไขในการจัดตั้งสาขาของบริษัทประกันชีวิตต่างประเทศและบริษัทประกันวินาศภัยต่างประเทศ เพื่อแยกธุรกิจประกันชีวิตและธุรกิจประกันวินาศภัยออกจากกัน ซึ่งประกาศดังกล่าวได้กำหนดเงื่อนไขและวิธีปฏิบัติ เพื่อให้บริษัทปฏิบัติเป็นบรรทัดฐานเดียวกันในการแยกธุรกิจประกันชีวิตและธุรกิจประกันวินาศภัยออกจากกัน ตามที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2540 และลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่25 พฤศจิกายน 2540
4. บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด ได้ยื่นคำขอตามแบบแนบท้ายประกาศกระทรวงพาณิชย์ เพื่อขอจัดตั้งบริษัทใหม่เพื่อแยกธุรกิจประกันวินาศภัยออกจากบริษัทเดิม เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2540 โดยจะนำกำไรสะสมของธุรกิจประกันวินาศภัย จำนวน 390ล้านบาท โอนไปเป็นทุนจดทะเบียนและชำระแล้วของบริษัทใหม่ ในชื่อ "บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด" โดยขอโอนกิจการประกันวินาศภัยไปสู่บริษัทที่จัดตั้งขึ้นใหม่ โดยใช้งบการเงิน ณ 31 ธันวาคม 2539 เป็นฐาน สำหรับผลประกอบการปี 2540 และผลประกอบการของปี 2541 จนถึงวันที่บริษัทได้โอนกิจการจริงในส่วนของธุรกิจประกันวินาศภัยจะโอนไปเป็นกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรของบริษัทเมืองไทยประกันภัย จำกัด ที่จัดตั้งใหม่
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 2 มิถุนายน 2541--
คณะรัฐมนตรีพิจารณาตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ เรื่อง บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด ขอรับความเห็นชอบจัดตั้งบริษัทจำกัด เพื่อแยกธุรกิจประกันชีวิตและธุรกิจประกันวินาศภัยออกจากกัน แล้วมีมติดังนี้
1. อนุมัติให้บริษัทเมืองไทยประกันชีวิต จำกัด ไปดำเนินการจัดตั้งบริษัท เมืองไทยประกันภัย จำกัด เพื่อรับโอนบรรดาทรัพย์สิน หนี้สิน ภาระความรับผิดชอบตามกรมธรรม์และต่อบุคคลภายนอก รวมทั้งพนักงาน ลูกจ้างในส่วนกิจการประกันวินาศภัยจากบริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด
2. อนุมัติให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ออกใบอนุญาตประกอบธุรกิจประกันวินาศภัยแก่บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด ได้ เมื่อบริษัทฯ ได้ปฏิบัติครบถ้วนตามเงื่อนไขแห่งประกาศกระทรวงพาณิชย์แล้ว
ทั้งนี้ เนื่องจากกระทรวงพาณิชย์รายงานว่า
1. มาตรา 127 วรรคสองแห่งพระราชบัญญัติประกันชีวิต พ.ศ. 2535 และมาตรา 121 วรรคสอง แห่งพระราชบัญญัติประกันวินาศภัย พ.ศ. 2535 กำหนดให้บริษัทที่ประกอบธุรกิจประกันชีวิตและธุรกิจประกันวินาศภัย จะต้องจัดตั้งบริษัทขึ้นใหม่เพื่อแยกธุรกิจประกันชีวิตและธุรกิจประกันวินาศภัยออกจากกันให้แล้วเสร็จภายในแปดปี นับแต่วันที่พระราชบัญญัติดังกล่าวมีผลใช้บังคับ ซึ่งจะครบกำหนดในวันที่ 10 เมษายน 2543
2. ปัจจุบันบริษัทประกันภัยที่จะต้องแยกธุรกิจประกันชีวิตและธุรกิจประกันวินาศภัยออกจากกันมีจำนวน 6 บริษัท เป็นบริษัทที่จดทะเบียนในประเทศไทย 5 บริษัท และเป็นสาขาของบริษัทต่างประเทศ 1 บริษัท คือ 1) บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด2) บริษัท ไทยประสิทธิประกันภัย จำกัด 3) บริษัท ไทยสมุทรพาณิชย์ประกันภัย จำกัด 4) บริษัท อาคเนย์ประกันภัย จำกัด5) บริษัท ไทยรับประกันภัยต่อ จำกัด (มหาชน) 6) บริษัท อเมริกันอินเตอร์แนชชั่นแนลแอสชัวรันส์ จำกัด (สาขาประเทศไทย)
3. กระทรวงพาณิชย์ได้ออกประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง เงื่อนไขในการจัดตั้งบริษัทจำกัด หรือบริษัทมหาชนจำกัดเพื่อแยกธุรกิจประกันชีวิตและธุรกิจประกันวินาศภัยออกจากกัน และประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง เงื่อนไขในการจัดตั้งสาขาของบริษัทประกันชีวิตต่างประเทศและบริษัทประกันวินาศภัยต่างประเทศ เพื่อแยกธุรกิจประกันชีวิตและธุรกิจประกันวินาศภัยออกจากกัน ซึ่งประกาศดังกล่าวได้กำหนดเงื่อนไขและวิธีปฏิบัติ เพื่อให้บริษัทปฏิบัติเป็นบรรทัดฐานเดียวกันในการแยกธุรกิจประกันชีวิตและธุรกิจประกันวินาศภัยออกจากกัน ตามที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 สิงหาคม 2540 และลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เมื่อวันที่25 พฤศจิกายน 2540
4. บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด ได้ยื่นคำขอตามแบบแนบท้ายประกาศกระทรวงพาณิชย์ เพื่อขอจัดตั้งบริษัทใหม่เพื่อแยกธุรกิจประกันวินาศภัยออกจากบริษัทเดิม เมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2540 โดยจะนำกำไรสะสมของธุรกิจประกันวินาศภัย จำนวน 390ล้านบาท โอนไปเป็นทุนจดทะเบียนและชำระแล้วของบริษัทใหม่ ในชื่อ "บริษัท เมืองไทยประกันชีวิต จำกัด" โดยขอโอนกิจการประกันวินาศภัยไปสู่บริษัทที่จัดตั้งขึ้นใหม่ โดยใช้งบการเงิน ณ 31 ธันวาคม 2539 เป็นฐาน สำหรับผลประกอบการปี 2540 และผลประกอบการของปี 2541 จนถึงวันที่บริษัทได้โอนกิจการจริงในส่วนของธุรกิจประกันวินาศภัยจะโอนไปเป็นกำไรสะสมที่ยังไม่ได้จัดสรรของบริษัทเมืองไทยประกันภัย จำกัด ที่จัดตั้งใหม่
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 2 มิถุนายน 2541--