แท็ก
สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา
ธนาคารอาคารสงเคราะห์
ร่างพระราชบัญญัติ
กระทรวงการคลัง
สภาผู้แทนราษฎร
คณะรัฐมนตรี
ทำเนียบรัฐบาล--15 ม.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ.... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา และได้เคยเสนอสภาผู้แทนราษฎรชุดก่อนพิจารณาแล้ว แต่ต้องตกไป เพราะมีการยุบสภาผู้แทนราษฎร ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งมีสาระสำคัญ ดังนี้
1. ยกเลิกบทนิยาม "ที่ดิน" และ "อาคาร" และแก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ของธนาคารเพื่อขยายขอบเขตการดำเนินงานของธนาคารให้มีความคล่องตัวขึ้น และสามารถดำเนินกิจการอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับที่อยู่อาศัยได้
2.ขยายวัตถุประสงค์ของธนาคารได้สามารถดำเนินการสนับสนุนให้ประชาชนมีสิ่งอำนวยความสะดวกภายในที่อยู่อาศัย และช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น
3. กำหนดให้ธนาคารสามารถตั้งสาขาหรือตัวแทนในหรือนอกราชอาณาจักรได้
4.ปรับปรุงองค์ประกอบ เพิ่มจำนวน และขยายวาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการ ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง และเปลี่ยนแปลงผู้มีอำนาจแต่งตั้งผู้จัดการให้เหมาะสมยิ่งขึ้น
5. ปรับปรุงเรื่องการมอบอำนาจในการปฏิบัติกิจการธนาคารของผู้จัดการให้มีความคล่องตัวมากขึ้น
6. ปรับปรุงอำนาจหน้าที่ของธนาคารเพื่อให้ธนาคารมีความคล่องตัวในการดำเนินการ และจัดหาเงินทุนให้รวดเร็วทันต่อสภาวการณ์ในปัจจุบัน
ทั้งนี้ตามแผนพัฒนาระบบการเงิน (ปี 2538 - 2543) ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2538 ซึ่งในแผนพัฒนาระบบการเงินดังกล่าวได้กำหนดให้มีการปรับปรุงแนวทางและการขยายขอบเขตในการดำเนินงานของธนาคารอาคารสงเคราะห์ให้เหมาะสม ประกอบกับในปัจจุบันเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศได้มีการเปลี่ยนแปลงและขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยรวมถึงภาคเศรษฐกิจทางด้านที่อยู่อาศัย รวมทั้งระบบเศรษฐกิจการเงินของโลกมีความเชื่อมโยงและใกล้ชิดกันมากขึ้นส่งผลให้ระบบการเงินมีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับกระแสโลกาภิวัฒน์ จากภายใต้สภาพแวดล้อมดังกล่าว ทำให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์จำต้องเผชิญกับภาวะการแข่งขันที่ทวีรุนแรงมากขึ้นในสภาพตลาดการให้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งการดำเนินงานของธนาคารมีขอบเขตจำกัด ดังนั้น เพื่อให้ธนาคารสามารถดำเนินการตามแผนพัฒนาระบบการเงินได้อย่างสมบูรณ์ และเพื่อให้ธนาคารมีความคล่องตัวและสามารถดำรงอยู่ได้โดยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน เพื่อที่จะรักษาหน้าที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ในการสนับสนุนให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยได้ต่อไป จึงสมควรขยายขอบเขตการดำเนินงานให้มีความคล่องตัวมากขึ้น เพื่อขยายการให้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยได้เพิ่มขึ้น และสามารถลงทุนหรือประกอบธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับที่อยู่อาศัยได้ รวมถึงการรองรับการพัฒนาระบบตลาดรองเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย และเพื่อให้การระดมเงินทุนมีความคล่องตัว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 14 มกราคม 2540--
คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ.... ที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา และได้เคยเสนอสภาผู้แทนราษฎรชุดก่อนพิจารณาแล้ว แต่ต้องตกไป เพราะมีการยุบสภาผู้แทนราษฎร ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ซึ่งมีสาระสำคัญ ดังนี้
1. ยกเลิกบทนิยาม "ที่ดิน" และ "อาคาร" และแก้ไขเพิ่มเติมวัตถุประสงค์ของธนาคารเพื่อขยายขอบเขตการดำเนินงานของธนาคารให้มีความคล่องตัวขึ้น และสามารถดำเนินกิจการอื่นที่เกี่ยวเนื่องกับที่อยู่อาศัยได้
2.ขยายวัตถุประสงค์ของธนาคารได้สามารถดำเนินการสนับสนุนให้ประชาชนมีสิ่งอำนวยความสะดวกภายในที่อยู่อาศัย และช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้ดีขึ้น
3. กำหนดให้ธนาคารสามารถตั้งสาขาหรือตัวแทนในหรือนอกราชอาณาจักรได้
4.ปรับปรุงองค์ประกอบ เพิ่มจำนวน และขยายวาระการดำรงตำแหน่งของกรรมการ ซึ่งคณะรัฐมนตรีแต่งตั้ง และเปลี่ยนแปลงผู้มีอำนาจแต่งตั้งผู้จัดการให้เหมาะสมยิ่งขึ้น
5. ปรับปรุงเรื่องการมอบอำนาจในการปฏิบัติกิจการธนาคารของผู้จัดการให้มีความคล่องตัวมากขึ้น
6. ปรับปรุงอำนาจหน้าที่ของธนาคารเพื่อให้ธนาคารมีความคล่องตัวในการดำเนินการ และจัดหาเงินทุนให้รวดเร็วทันต่อสภาวการณ์ในปัจจุบัน
ทั้งนี้ตามแผนพัฒนาระบบการเงิน (ปี 2538 - 2543) ที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบแล้วเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2538 ซึ่งในแผนพัฒนาระบบการเงินดังกล่าวได้กำหนดให้มีการปรับปรุงแนวทางและการขยายขอบเขตในการดำเนินงานของธนาคารอาคารสงเคราะห์ให้เหมาะสม ประกอบกับในปัจจุบันเศรษฐกิจ และสังคมของประเทศได้มีการเปลี่ยนแปลงและขยายตัวอย่างต่อเนื่อง โดยรวมถึงภาคเศรษฐกิจทางด้านที่อยู่อาศัย รวมทั้งระบบเศรษฐกิจการเงินของโลกมีความเชื่อมโยงและใกล้ชิดกันมากขึ้นส่งผลให้ระบบการเงินมีการปรับเปลี่ยนให้เข้ากับกระแสโลกาภิวัฒน์ จากภายใต้สภาพแวดล้อมดังกล่าว ทำให้ธนาคารอาคารสงเคราะห์จำต้องเผชิญกับภาวะการแข่งขันที่ทวีรุนแรงมากขึ้นในสภาพตลาดการให้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย ซึ่งการดำเนินงานของธนาคารมีขอบเขตจำกัด ดังนั้น เพื่อให้ธนาคารสามารถดำเนินการตามแผนพัฒนาระบบการเงินได้อย่างสมบูรณ์ และเพื่อให้ธนาคารมีความคล่องตัวและสามารถดำรงอยู่ได้โดยเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน เพื่อที่จะรักษาหน้าที่ธนาคารอาคารสงเคราะห์ในการสนับสนุนให้ประชาชนได้มีที่อยู่อาศัยได้ต่อไป จึงสมควรขยายขอบเขตการดำเนินงานให้มีความคล่องตัวมากขึ้น เพื่อขยายการให้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยได้เพิ่มขึ้น และสามารถลงทุนหรือประกอบธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับที่อยู่อาศัยได้ รวมถึงการรองรับการพัฒนาระบบตลาดรองเงินกู้เพื่อที่อยู่อาศัย และเพื่อให้การระดมเงินทุนมีความคล่องตัว และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 14 มกราคม 2540--