ทำเนียบรัฐบาล--27 ต.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการกู้เงินภายใต้โครงการเงินกู้เงินเยนจากรัฐบาลญี่ปุ่น ครั้งที่ 23 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ได้มีการลงนามในหนังสือแลกเปลี่ยนฯ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้ลงนามในนามรัฐบาลไทย และเอกอัคร-ราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยเป็นผู้ลงนามในนามรัฐบาลญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2541 โดยมีวงเงินให้กู้ผ่านกองทุนฯ จำนวน 67,737 ล้านเยน สำหรับใช้ในโครงการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมต่าง ๆ รวมทั้งสิ้น 7 โครงการ และต่อมาได้มีการลงนามในสัญญาเงินกู้สัญญาค้ำประกันเงินกู้ และเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกู้เงินภายใต้โครงการเงินกู้เงินเยนจากรัฐบาลญี่ปุ่น ครั้งที่ 23 กับกองทุนฯเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2541 โดยเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้รับมอบอำนาจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้ลงนามในนามรัฐบาลไทย ประธานกองทุนฯ เป็นผู้ลงนามในนามกองทุนฯ ดังต่อไปนี้
1. สัญญาเงินกู้ สำหรับโครงการเงินกู้ของรัฐบาล จำนวน 4 โครงการ คือ
1.1 แผนงานเงินกู้เพื่อพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยว OECF ระยะที่ 3 ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย วงเงิน3,602 ล้านเยน
1.2 โครงการเงินกู้รัฐบาลญี่ปุ่นสาขาการวางแผนและจัดระบบจราจร ของสำนักงานคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก วงเงิน 4,148 ล้านเยน
1.3 โครงการจัดตั้งศูนย์พัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่ออุตสาหกรรม ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย วงเงิน2,573 ล้านเยน
1.4 โครงการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมที่เสื่อมโทรมในเขตปฏิรูปที่ดินด้วยการพัฒนาการเกษตรแบบผสมผสาน (ระยะที่ 1) ของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม วงเงิน 3,617 ล้านเยน
2. สัญญาค้ำประกันเงินกู้ สำหรับโครงการเงินกู้ของรัฐวิสาหกิจ และสถาบันการเงินที่มีกฎหมายจัดตั้งโดยเฉพาะ จำนวน3 โครงการ คือ
2.1 โครงการรถไฟฟ้ามหานคร ระยะแรก สายหัวลำโพง - ศูนย์ประชุมสิริกิติ์ บางซื่อ (สายสีน้ำเงิน) ขององค์การรถไฟฟ้ามหานคร วงเงิน 23,343 ล้านเยน
2.2 โครงการสินเชื่อเพื่อพัฒนาชนบท ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร วงเงิน 18,360 ล้านเยน
2.3 โครงการเงินกู้จาก OECF ของบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย วงเงิน 12,094 ล้านเยน
นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ให้ลงประกาศกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการกู้เงินสำหรับโครงการรัฐบาลจำนวน 4 ฉบับ ในราชกิจจานุเบกษา ภายในวันที่ 30 ตุลาคม 2541 และให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจัดทำความเห็นทางกฎหมายสำหรับสัญญาเงินกู้ทั้ง 7 โครงการต่อไปโดยด่วนด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 27 ตุลาคม 2541--
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการกู้เงินภายใต้โครงการเงินกู้เงินเยนจากรัฐบาลญี่ปุ่น ครั้งที่ 23 ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ได้มีการลงนามในหนังสือแลกเปลี่ยนฯ โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้ลงนามในนามรัฐบาลไทย และเอกอัคร-ราชทูตญี่ปุ่นประจำประเทศไทยเป็นผู้ลงนามในนามรัฐบาลญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2541 โดยมีวงเงินให้กู้ผ่านกองทุนฯ จำนวน 67,737 ล้านเยน สำหรับใช้ในโครงการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมต่าง ๆ รวมทั้งสิ้น 7 โครงการ และต่อมาได้มีการลงนามในสัญญาเงินกู้สัญญาค้ำประกันเงินกู้ และเอกสารต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการกู้เงินภายใต้โครงการเงินกู้เงินเยนจากรัฐบาลญี่ปุ่น ครั้งที่ 23 กับกองทุนฯเมื่อวันที่ 30 กันยายน 2541 โดยเอกอัครราชทูตไทยประจำประเทศญี่ปุ่น ซึ่งได้รับมอบอำนาจจากรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเป็นผู้ลงนามในนามรัฐบาลไทย ประธานกองทุนฯ เป็นผู้ลงนามในนามกองทุนฯ ดังต่อไปนี้
1. สัญญาเงินกู้ สำหรับโครงการเงินกู้ของรัฐบาล จำนวน 4 โครงการ คือ
1.1 แผนงานเงินกู้เพื่อพัฒนาและส่งเสริมการท่องเที่ยว OECF ระยะที่ 3 ของการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย วงเงิน3,602 ล้านเยน
1.2 โครงการเงินกู้รัฐบาลญี่ปุ่นสาขาการวางแผนและจัดระบบจราจร ของสำนักงานคณะกรรมการจัดระบบการจราจรทางบก วงเงิน 4,148 ล้านเยน
1.3 โครงการจัดตั้งศูนย์พัฒนาทรัพยากรมนุษย์เพื่ออุตสาหกรรม ของการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย วงเงิน2,573 ล้านเยน
1.4 โครงการฟื้นฟูสภาพแวดล้อมที่เสื่อมโทรมในเขตปฏิรูปที่ดินด้วยการพัฒนาการเกษตรแบบผสมผสาน (ระยะที่ 1) ของสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม วงเงิน 3,617 ล้านเยน
2. สัญญาค้ำประกันเงินกู้ สำหรับโครงการเงินกู้ของรัฐวิสาหกิจ และสถาบันการเงินที่มีกฎหมายจัดตั้งโดยเฉพาะ จำนวน3 โครงการ คือ
2.1 โครงการรถไฟฟ้ามหานคร ระยะแรก สายหัวลำโพง - ศูนย์ประชุมสิริกิติ์ บางซื่อ (สายสีน้ำเงิน) ขององค์การรถไฟฟ้ามหานคร วงเงิน 23,343 ล้านเยน
2.2 โครงการสินเชื่อเพื่อพัฒนาชนบท ของธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร วงเงิน 18,360 ล้านเยน
2.3 โครงการเงินกู้จาก OECF ของบรรษัทเงินทุนอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย วงเงิน 12,094 ล้านเยน
นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ให้ลงประกาศกระทรวงการคลังเกี่ยวกับการกู้เงินสำหรับโครงการรัฐบาลจำนวน 4 ฉบับ ในราชกิจจานุเบกษา ภายในวันที่ 30 ตุลาคม 2541 และให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาจัดทำความเห็นทางกฎหมายสำหรับสัญญาเงินกู้ทั้ง 7 โครงการต่อไปโดยด่วนด้วย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 27 ตุลาคม 2541--