บันทึกความเข้าใจว่าด้วยโครงการพัฒนาโรงพยาบาลเมืองปากซอง แขวงจำปาสัก สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว

ข่าวการเมือง Tuesday January 20, 2015 18:14 —มติคณะรัฐมนตรี

คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติการจัดทำบันทึกความเข้าใจว่าด้วยโครงการพัฒนาโรงพยาบาลเมืองปากซอง แขวงจำปาสัก ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ตามที่กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เสนอ โดยให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายเป็นผู้ลงนามในนามในบันทึกความเข้าใจฉบับนี้ ทั้งนี้ หากมีความจำเป็นต้องปรับแก้ถ้อยคำในร่างบันทึกความเข้าใจดังกล่าวในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดต่อผลประโยชน์ของไทย ให้ กต. ดำเนินการได้โดยไม่ต้องเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีก

สาระสำคัญของเรื่อง

กต. รายงานว่า

1. โครงการความร่วมมือเพื่อการพัฒนานี้ นอกจากจะเป็นการให้ความช่วยเหลือรัฐบาล สปป. ลาว ในการยกระดับการให้บริการทางการแพทย์และสาธารณสุขแก่ประชาชนให้ได้มาตรฐานและครอบคลุมทั่วถึงยิ่งขึ้น ซึ่งจะเป็นปัจจัยสำคัญต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแล้ว ยังช่วยลดและป้องกันปัญหาด้านสาธารณสุขต่างๆ ที่เกิดขึ้นตามแนวชายแดนเข้ามายังฝั่งประเทศไทย เช่น การป้องกันโรคติดต่อข้ามแดน การลดภาระของโรงพยาบาลไทยในการให้การรักษาประชาชน สปป. ลาว เป็นต้น อีกทั้ง ยังเป็นการช่วยลดช่องว่างในการพัฒนาระหว่างไทยกับ สปป. ลาว ซึ่งจะมีส่งเสริมให้เกิดความมั่นคงและความมั่งคั่งแก่ประเทศไทยและประชาชน และเป็นการกระชับความสัมพันธ์ด้านการต่างประเทศของไทยกับ สปป.ลาว นอกจากนี้ยังจะเป็นโอกาสประชาสัมพันธ์บทบาทด้านการต่างประเทศของรัฐบาลด้วย

2. ร่างบันทึกความเข้าใจฉบับนี้จัดทำขึ้นในระดับรัฐบาลโดยมีรูปแบบและถ้อยคำที่แสดงเจตนาที่จะก่อให้เกิดพันธกรณีภายใต้บังคับกฎหมายระหว่างประเทศแก่คู่ภาคีในการร่วมมือเพื่อพัฒนาเศรษฐกิจ สังคมและสาธารณสุขของกันและกัน โดยฝ่ายไทยจะให้การสนับสนุนการดำเนินโครงการพัฒนาโรงพยาบาลเมืองปากซองดังกล่าวในแผนงานต่าง ๆ ซึ่งรวมถึงการกำหนดกรอบความร่วมมือและการอำนวยความสะดวกในด้านต่าง ๆ จึงเป็นสนธิสัญญาตามกฎหมายระหว่างประเทศ และเข้าข่ายเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 23 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557 ซึ่งจะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะรัฐมนตรีก่อนลงนาม แต่ไม่มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตไทย หรือเขตพื้นที่นอกอาณาเขต ซึ่งประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตยหรือมีเขตอำนาจตามหนังสือสัญญาหรือตามกฎหมายระหว่างประเทศหรือจะต้องออกพระราชบัญญัติเพื่อให้การเป็นไปตามหนังสือสัญญา หรือที่กระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจหรือสังคมของประเทศอย่างกว้างขวาง จึงไม่เข้าข่ายเป็นหนังสือสัญญาที่จะต้องขอรับความเห็นชอบของสภานิติบัญญัติแห่งชาติตามมาตรา 23 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญ ฯ ซึ่ง สธ. และองค์การสวนพฤกษศาสตร์ ได้แจ้งตอบรับการสนับสนุนการให้ความร่วมมือในการดำเนินโครงการตามรายละเอียดในบันทึกความเข้าใจทั้งสองฉบับดังกล่าวแล้ว

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 20 มกราคม 2558--


เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว และ ข้อตกลงการใช้บริการ รับทราบ