คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามที่กระทรวงพาณิชย์ (พณ.) เสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบในหลักการสถาปนาความสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้อง (Sister City) ระหว่างแม่สอดและเมียวดี ทั้งนี้ พณ. เป็นหน่วยงานหลักดำเนินการผลักดันและขับเคลื่อนการค้าชายแดนระหว่างไทยและประเทศเพื่อนบ้านในเขตพัฒนาเขตเศรษฐกิจพิเศษตามนโยบายรัฐบาล โดยบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต่อไป
2. ให้กระทรวงมหาดไทย (มท.) มอบผู้ว่าราชการจังหวัดตากหารือร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัดเมียวดี เพี่อประกาศเจตนารมณ์ร่วมกันในการสถาปนาความสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้อง (Sister City) ระหว่างแม่สอดและเมียวดี ในช่วงที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไทยและเมียนมาเป็นประธานร่วมในงานมหกรรมการค้าชายแดน อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ในวันที่ 29 มกราคม 2558
3. ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ พณ. มท. และกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) บูรณาการการดำเนินการร่วมกันเพื่อให้มีการลงนามสถาปนา Sister City ในการประชุมคณะกรรมการร่วมทางการค้าไทย - เมียนมา ครั้งที่ 7 ในเดือนสิงหาคม 2558 ณ สาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
4. รับทราบผลการเดินทางลงพื้นที่ของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์และมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องพิจารณาใช้ข้อมูลจากการลงพื้นที่ดังกล่าวประกอบการดำเนินการที่เกี่ยวข้องต่อไป
สาระสำคัญของเรื่อง
พณ. รายงานว่า
1. ตามที่คณะรักษาความสงบแห่งชาติได้มีมติเมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2557 และคณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2557 พณ. มีกำหนดจัดงานมหกรรมการค้าชายแดนระหว่างวันที่ 28 มกราคม – 1 กุมภาพันธ์ 2558 ณ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก เพื่อส่งเสริมการค้าชายแดนระหว่างไทย-เมียนมา โดยในช่วงการจัดงานดังกล่าว พณ. ได้เชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของเมียนมา (H.E. U Win Myint) เดินทางมาไทยระหว่างวันที่ 27 - 30 มกราคม 2558 เพื่อพบหารือข้อราชการกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของไทย ณ กรุงเทพมหานคร ซึ่งจะเป็นการกระชับความสัมพันธ์ทางการค้าพัฒนาความร่วมมือการค้าทวิภาคี โดยเฉพาะการเสนอจัดตั้งคณะกรรมการร่วมการค้าชายแดนไทย - เมียนมา เพื่อเป็นกลไกในการขับเคลื่อนการค้าชายแดนของทั้งสองประเทศ พร้อมนี้ได้เชิญรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของเมียนมาร่วมกิจกรรมต่าง ๆ ในช่วงการจัดงานมหกรรมการค้าชายแดน ณ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ได้แก่ 1) การประกาศร่วมกันระหว่างผู้ว่าราชการจังหวัดตากของไทยและผู้ว่าราชการจังหวัดเมียวดีของเมียนมาเกี่ยวกับการสถาปนาความสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้อง (Sister City) ระหว่างแม่สอดและเมียวดี 2) เป็นสักขีพยานการลงนามความร่วมมือการค้าชายแดนของภาคเอกชนของทั้งสองประเทศและ 3) เป็นประธานร่วมเปิดงานมหกรรมการค้าชายแดน เป็นต้น
2. ผลจากการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนแม่สอดและเมียวดีของรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ได้รับทราบว่าการพัฒนาเส้นทางหลักแม่สอด - เมียวดี - กอกะเร็ก จะแล้วเสร็จในเดือนกรกฎาคม 2558 ซึ่งเป็นเส้นทางหลักเข้าสู่ย่างกุ้งและจะสามารถขนส่งสินค้าได้ทุกวันจากเดิมที่เคยต้องสลับวันไปและกลับ จึงเป็นโอกาสที่จะทำให้การค้าชายแดนขยายตัวได้เร็วมากขึ้น
3. เพื่อให้การเสริมสร้างความสัมพันธ์ด้านเศรษฐกิจและการค้าชายแดนระหว่างเมืองแม่สอดของไทยและเมียวดีของเมียนมาเกิดประโยชน์สร้างความอยู่ดีกินดีเป็นรูปธรรมชัดเจน จึงเห็นควรสถาปนาความสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้อง (Sister City) ระหว่างแม่สอดและเมียวดี ซึ่งเป็นเมืองหน้าด่านชายแดนคู่ค้าสำคัญของไทยกับเมียนมาในช่วงการเดินทางเยือนประเทศไทยของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ของเมียนมา ระหว่างวันที่ 27 - 30 มกราคม 2558 ซึ่งเรื่องดังกล่าวจำเป็นต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบในหลักการและการมอบหมายให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ พณ. มท. และ กต. พิจารณาดำเนินการร่วมกัน
4. การสถาปนาความสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้อง (Sister City) ระหว่างแม่สอดและเมียวดี
4.1 โดยที่อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก และจังหวัดเมียวดีของเมียนมามีความสัมพันธ์ทางด้านเศรษฐกิจ การค้า สังคมและวัฒนธรรมระหว่างกันมาอย่างยาวนาน โดยเฉพาะในด้านการค้าชายแดนผ่านด่านศุลกากรแม่สอด จังหวัดตาก มีมูลค่าการส่งออกสูงสุดเมื่อเทียบกับด่านศุลกากรอื่น ๆ ระหว่างไทย - เมียนมา โดยในปี 2557 (มกราคม - พฤศจิกายน) ปริมาณการค้ารวมผ่านด่านแม่สอดมีมูลค่า 57,000 ล้านบาท แยกเป็นการส่งออก 54,300 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 37 และการนำเข้า 2,700 ล้านบาท ขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 13
4.2 การสถาปนาความสัมพันธ์บ้านพี่เมืองน้อง (Sister City) ระหว่างแม่สอดและเมียวดี จะช่วยเสริมสร้างความใกล้ชิดระหว่างสองเมืองเพิ่มมากขึ้น อันจะเป็นส่วนสำคัญในการขยายตัวทางการค้าชายแดนและการลงทุนระหว่างกัน และเป็นประโยชน์ต่อทั้งสองประเทศในภาพรวม รวมทั้งจะสนับสนุนสอดคล้องกับการจัดตั้งนครแม่สอดเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นรูปแบบพิเศษ ตาม
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 20 มกราคม 2558--