ทำเนียบรัฐบาล--14 ต.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบหลักการมาตรการภาษีสรรพสามิต และภาษีศุลกากร ตามที่กระทรวงการคลังเสนอดังนี้
1. มาตรการภาษีสรรพสามิต
1) เพิ่มภาษีน้ำมันเบนซิน และดีเซลลิตรละ 1 บาท
2) เพิ่มภาษีเบียร์จากอัตราร้อยละ 48 เป็นร้อยละ 50 ตามมูลค่า
3) เพิ่มภาษีไวน์และแชมเปญจากร้อยละ 40 เป็นร้อยละ 50 ตามมูลค่า
4) เพิ่มภาษีสุราแช่อื่น ๆ นอกจากเบียร์ ไวน์ และแชมเปญ จากร้อยละ 20 เป็นร้อยละ 25 ตามมูลค่า
5) เพิ่มภาษีสุราประเภทวิสกี้จากร้อยละ 28 ตามมูลค่า หรือลิตรละ 100 บาท แห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์เป็นร้อยละ 35 ตามมูลค่า หรือลิตรละ 150 บาท แห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์
6) เพิ่มภาษีสุราประเภทบรั่นดี จากร้อยละ 20 ตามมูลค่า หรือลิตรละ 100 บาท แห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ เป็นร้อยละ 25 ตามมูลค่า หรือลิตรละ 150 บาท แห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์
7) เพิ่มภาษีสุรากลั่นประเภทอื่น ๆ นอกจากวิสกี้และบรั่นดี จากร้อยละ 28 ตามมูลค่า หรือลิตรละ 100 บาท แห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ เป็นร้อยละ 35 ตามมูลค่า หรือลิตรละ 150 บาท แห่ง แอลกอฮอล์บริสุทธิ์
8) เพิ่มภาษียาสูบจากร้อยละ 68 เป็นร้อยละ 70 ตามมูลค่า
9) เก็บภาษีจากสนามกอล์ฟในอัตราร้อยละ 10 ของค่าสมาชิกและบริการสนามกอล์ฟ (Green Fee) ไม่รวมค่า Caddy
10) ขยายฐานภาษีที่เก็บจากสนามม้า ให้รวมถึงเงินรายรับที่ผู้ประกอบการหักจากผู้เล่นการพนันแข่งม้าในอัตราร้อยละ 20 ตามมูลค่า
ทั้งนี้ ให้มาตรการที่เสนอข้างต้นมีผลบังคับตามกฎหมายในวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
2. มาตรการภาษีศุลกากร
1) เพิ่มอัตราอากรขาเข้าของรถยนต์นั่งสำเร็จรูป CBU จากร้อยละ 42 และ 68.5 เป็นร้อยละ 80
2) เพิ่มอัตราอากรขาเข้าสินค้าฟุ่มเฟือย 11 รายการ ได้แก่
2.1) น้ำหอมและเครื่องสำอาง อัตราปัจจุบันร้อยละ 20 เพิ่มเป็นร้อยละ 30
2.2) กระเป๋าหนัง เข็มขัดหนัง อัตราปัจจุบันร้อยละ 20 เพิ่มเป็นร้อยละ 30
2.3) รองเท้าหนังและรองเท้าผ้าใบ อัตราปัจจุบันร้อยละ 20 เพิ่มเป็นร้อยละ 30
2.4) เครื่องแก้วชนิดใช้บนโต๊ะอาหาร ใช้ตกแต่งภายใน ที่ทำด้วยคริสตัล อัตราปัจจุบันร้อยละ 20 เพิ่มเป็นร้อยละ 30
2.5) เครื่องเพ็ชรพลอยและรูปพรรณที่เป็นของเทียม อัตราปัจจุบันร้อยละ 20 เพิ่มเป็นร้อยละ 30
2.6) เลนส์ อัตราปัจจุบันร้อยละ 5 เพิ่มเป็นร้อยละ 30
2.7) แว่นตา และกรอบแว่นตา อัตราปัจจุบันร้อยละ 5 เพิ่มเป็นร้อยละ 30
2.8) กล้องถ่ายรูป อัตราปัจจุบันร้อยละ 5 เพิ่มเป็นร้อยละ 30
2.9) นาฬิกา อัตราปัจจุบันร้อยละ 5 เพิ่มเป็นร้อยละ 30
2.10) ปากกา อัตราปัจจุบันร้อยละ 5 เพิ่มเป็นร้อยละ 30
2.11) ไฟแช็ค อัตราปัจจุบันร้อยละ 5 เพิ่มเป็นร้อยละ 30
3) เรียกเก็บอากรพิเศษในอัตราร้อยละ 10 ของเงินอากรอันพึงต้องเสีย เว้นแต่สินค้าดังต่อไปนี้
3.1) สินค้าที่เสียอากรในอัตราตั้งแต่ร้อยละ 5 ลงมา
3.2) สินค้าตามข้อ 1) - 2) ข้างต้น
3.3) วัตถุดิบตามมาตรา 19 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2482
3.4)สินค้าที่เรียกเก็บอากรพิเศษอยู่ก่อนแล้ว
3.5) สินค้าที่อยู่ในบัญชีข้อผูกพันที่ประเทศไทยมีอยู่ตามกฎหมายระหว่างประเทศ หรือตามสัญญากับนานาประเทศ
4) มาตรการเพิ่มอากรดังกล่าวข้างต้น เป็นมาตรการชั่วคราวเพื่อมุ่งหารายได้ โดยกำหนดให้ยกเลิกมาตรการดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2543
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 14 ตุลาคม 2540--
คณะรัฐมนตรีเห็นชอบหลักการมาตรการภาษีสรรพสามิต และภาษีศุลกากร ตามที่กระทรวงการคลังเสนอดังนี้
1. มาตรการภาษีสรรพสามิต
1) เพิ่มภาษีน้ำมันเบนซิน และดีเซลลิตรละ 1 บาท
2) เพิ่มภาษีเบียร์จากอัตราร้อยละ 48 เป็นร้อยละ 50 ตามมูลค่า
3) เพิ่มภาษีไวน์และแชมเปญจากร้อยละ 40 เป็นร้อยละ 50 ตามมูลค่า
4) เพิ่มภาษีสุราแช่อื่น ๆ นอกจากเบียร์ ไวน์ และแชมเปญ จากร้อยละ 20 เป็นร้อยละ 25 ตามมูลค่า
5) เพิ่มภาษีสุราประเภทวิสกี้จากร้อยละ 28 ตามมูลค่า หรือลิตรละ 100 บาท แห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์เป็นร้อยละ 35 ตามมูลค่า หรือลิตรละ 150 บาท แห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์
6) เพิ่มภาษีสุราประเภทบรั่นดี จากร้อยละ 20 ตามมูลค่า หรือลิตรละ 100 บาท แห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ เป็นร้อยละ 25 ตามมูลค่า หรือลิตรละ 150 บาท แห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์
7) เพิ่มภาษีสุรากลั่นประเภทอื่น ๆ นอกจากวิสกี้และบรั่นดี จากร้อยละ 28 ตามมูลค่า หรือลิตรละ 100 บาท แห่งแอลกอฮอล์บริสุทธิ์ เป็นร้อยละ 35 ตามมูลค่า หรือลิตรละ 150 บาท แห่ง แอลกอฮอล์บริสุทธิ์
8) เพิ่มภาษียาสูบจากร้อยละ 68 เป็นร้อยละ 70 ตามมูลค่า
9) เก็บภาษีจากสนามกอล์ฟในอัตราร้อยละ 10 ของค่าสมาชิกและบริการสนามกอล์ฟ (Green Fee) ไม่รวมค่า Caddy
10) ขยายฐานภาษีที่เก็บจากสนามม้า ให้รวมถึงเงินรายรับที่ผู้ประกอบการหักจากผู้เล่นการพนันแข่งม้าในอัตราร้อยละ 20 ตามมูลค่า
ทั้งนี้ ให้มาตรการที่เสนอข้างต้นมีผลบังคับตามกฎหมายในวันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
2. มาตรการภาษีศุลกากร
1) เพิ่มอัตราอากรขาเข้าของรถยนต์นั่งสำเร็จรูป CBU จากร้อยละ 42 และ 68.5 เป็นร้อยละ 80
2) เพิ่มอัตราอากรขาเข้าสินค้าฟุ่มเฟือย 11 รายการ ได้แก่
2.1) น้ำหอมและเครื่องสำอาง อัตราปัจจุบันร้อยละ 20 เพิ่มเป็นร้อยละ 30
2.2) กระเป๋าหนัง เข็มขัดหนัง อัตราปัจจุบันร้อยละ 20 เพิ่มเป็นร้อยละ 30
2.3) รองเท้าหนังและรองเท้าผ้าใบ อัตราปัจจุบันร้อยละ 20 เพิ่มเป็นร้อยละ 30
2.4) เครื่องแก้วชนิดใช้บนโต๊ะอาหาร ใช้ตกแต่งภายใน ที่ทำด้วยคริสตัล อัตราปัจจุบันร้อยละ 20 เพิ่มเป็นร้อยละ 30
2.5) เครื่องเพ็ชรพลอยและรูปพรรณที่เป็นของเทียม อัตราปัจจุบันร้อยละ 20 เพิ่มเป็นร้อยละ 30
2.6) เลนส์ อัตราปัจจุบันร้อยละ 5 เพิ่มเป็นร้อยละ 30
2.7) แว่นตา และกรอบแว่นตา อัตราปัจจุบันร้อยละ 5 เพิ่มเป็นร้อยละ 30
2.8) กล้องถ่ายรูป อัตราปัจจุบันร้อยละ 5 เพิ่มเป็นร้อยละ 30
2.9) นาฬิกา อัตราปัจจุบันร้อยละ 5 เพิ่มเป็นร้อยละ 30
2.10) ปากกา อัตราปัจจุบันร้อยละ 5 เพิ่มเป็นร้อยละ 30
2.11) ไฟแช็ค อัตราปัจจุบันร้อยละ 5 เพิ่มเป็นร้อยละ 30
3) เรียกเก็บอากรพิเศษในอัตราร้อยละ 10 ของเงินอากรอันพึงต้องเสีย เว้นแต่สินค้าดังต่อไปนี้
3.1) สินค้าที่เสียอากรในอัตราตั้งแต่ร้อยละ 5 ลงมา
3.2) สินค้าตามข้อ 1) - 2) ข้างต้น
3.3) วัตถุดิบตามมาตรา 19 ทวิ แห่งพระราชบัญญัติศุลกากร (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2482
3.4)สินค้าที่เรียกเก็บอากรพิเศษอยู่ก่อนแล้ว
3.5) สินค้าที่อยู่ในบัญชีข้อผูกพันที่ประเทศไทยมีอยู่ตามกฎหมายระหว่างประเทศ หรือตามสัญญากับนานาประเทศ
4) มาตรการเพิ่มอากรดังกล่าวข้างต้น เป็นมาตรการชั่วคราวเพื่อมุ่งหารายได้ โดยกำหนดให้ยกเลิกมาตรการดังกล่าวตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม 2543
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 14 ตุลาคม 2540--