คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามมติคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี คณะที่ 3 (ฝ่ายความมั่นคง) ซึ่งมี พล.ต.อ. ชิดชัย วรรณสถิตย์ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานฯ ที่เห็นชอบในหลักการของร่างพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ
ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทย ชี้แจงว่า ปัจจุบันการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยเป็นไปอย่างรวดเร็วประกอบกับการเกิดธรณีพิบัติภัยทางธรรมชาติ ทำให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะความเสียหายเกี่ยวกับอาคาร แต่เจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานท้องถิ่นไม่สามารถอาศัยอำนาจตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารเข้าไปเยียวยาภายหลังจากเกิดภัยพิบัตินั้นได้ จึงสมควรแก้ไขพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้
1. ให้มีการกำหนดเขตภัยพิบัติทางธรรมชาติเพื่อให้ทางราชการสามารถดำเนินการปรับปรุงเขตที่ประสบภัยพิบัติได้
2. การจัดทำประกันภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลภายนอกที่เข้าใช้สอยอาคาร
3. ปรับปรุงกระบวนการการขออนุญาตเกี่ยวกับการแจ้งการก่อสร้าง ดัดแปลงรื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายอาคารโดยไม่ต้องยื่นคำขอเพื่อก่อให้เกิดความสะดวกรวดเร็วแก่ประชาชนมากยิ่งขึ้น
4. ปรับปรุงบทกำหนดโทษสำหรับผู้ฝ่าฝืนที่ไม่จัดทำประกันภัยอาคารเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยแก่ผู้ใช้อาคาร
จากสถานการณ์และความเสียหายที่เกิดขึ้นดังกล่าว กระทรวงมหาดไทยเห็นสมควรให้แก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 มีสาระสำคัญโดยสรุป ดังนี้
1. เพิ่มบทนิยามคำว่า “เขตภัยพิบัติทางธรรมชาติ” และ “ประมวลข้อบังคับอาคาร”
2. กำหนดชนิดหรือประเภทและวงเงินที่เอาประกันภัยของอาคารที่เจ้าของอาคารหรือผู้ครอบครองอาคาร หรือผู้ดำเนินการ ต้องทำประกันภัยความรับผิดชอบต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
3. กำหนดหลักเกณฑ์การขออนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายอาคารโดยไม่ต้องยื่นคำขอรับใบอนุญาต เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการก่อสร้างอาคารทั่วไป
4. กำหนดให้มีการประกาศเขตภัยพิบัติทางธรรมชาติเพื่อให้ทางราชการสามารถเข้าดำเนินการปรับปรุงพื้นที่ในเขตภัยพิบัติทางธรรมชาติได้
5. เพิ่มเติมบทกำหนดโทษเกี่ยวกับผู้ฝ่าฝืนไม่จัดทำประกันภัยอาคารเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยแก่ผู้ใช้อาคารตามที่กฎหมายกำหนด
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 6 ธันวาคม 2548--จบ--
ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทย ชี้แจงว่า ปัจจุบันการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยเป็นไปอย่างรวดเร็วประกอบกับการเกิดธรณีพิบัติภัยทางธรรมชาติ ทำให้เกิดความเสียหายแก่ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะความเสียหายเกี่ยวกับอาคาร แต่เจ้าหน้าที่หรือเจ้าพนักงานท้องถิ่นไม่สามารถอาศัยอำนาจตามกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารเข้าไปเยียวยาภายหลังจากเกิดภัยพิบัตินั้นได้ จึงสมควรแก้ไขพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ในประเด็นต่าง ๆ ดังนี้
1. ให้มีการกำหนดเขตภัยพิบัติทางธรรมชาติเพื่อให้ทางราชการสามารถดำเนินการปรับปรุงเขตที่ประสบภัยพิบัติได้
2. การจัดทำประกันภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของบุคคลภายนอกที่เข้าใช้สอยอาคาร
3. ปรับปรุงกระบวนการการขออนุญาตเกี่ยวกับการแจ้งการก่อสร้าง ดัดแปลงรื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายอาคารโดยไม่ต้องยื่นคำขอเพื่อก่อให้เกิดความสะดวกรวดเร็วแก่ประชาชนมากยิ่งขึ้น
4. ปรับปรุงบทกำหนดโทษสำหรับผู้ฝ่าฝืนที่ไม่จัดทำประกันภัยอาคารเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยแก่ผู้ใช้อาคาร
จากสถานการณ์และความเสียหายที่เกิดขึ้นดังกล่าว กระทรวงมหาดไทยเห็นสมควรให้แก้ไขเพิ่มเติม พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 มีสาระสำคัญโดยสรุป ดังนี้
1. เพิ่มบทนิยามคำว่า “เขตภัยพิบัติทางธรรมชาติ” และ “ประมวลข้อบังคับอาคาร”
2. กำหนดชนิดหรือประเภทและวงเงินที่เอาประกันภัยของอาคารที่เจ้าของอาคารหรือผู้ครอบครองอาคาร หรือผู้ดำเนินการ ต้องทำประกันภัยความรับผิดชอบต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของบุคคลภายนอก
3. กำหนดหลักเกณฑ์การขออนุญาตก่อสร้าง ดัดแปลง รื้อถอน หรือเคลื่อนย้ายอาคารโดยไม่ต้องยื่นคำขอรับใบอนุญาต เพื่อเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ประชาชนในการก่อสร้างอาคารทั่วไป
4. กำหนดให้มีการประกาศเขตภัยพิบัติทางธรรมชาติเพื่อให้ทางราชการสามารถเข้าดำเนินการปรับปรุงพื้นที่ในเขตภัยพิบัติทางธรรมชาติได้
5. เพิ่มเติมบทกำหนดโทษเกี่ยวกับผู้ฝ่าฝืนไม่จัดทำประกันภัยอาคารเพื่อคุ้มครองความปลอดภัยแก่ผู้ใช้อาคารตามที่กฎหมายกำหนด
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 6 ธันวาคม 2548--จบ--