สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ
1. กำหนดให้มีคณะกรรมการกำกับคลังสินค้า ไซโล และห้องเย็น ซึ่งมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์เป็นประธานกรรมการ มีอำนาจหน้าที่ออกประกาศกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขเพื่อดำเนินการตามพระราชบัญญัตินี้ กำหนดอัตราค่าบำเหน็จในการเก็บรักษาสินค้าหรือให้บริการเกี่ยวกับสินค้าไม่ให้สูงเกินสมควร ให้ความเห็นชอบการกำหนดพื้นที่ ขนาด ความจุของคลังสินค้า ไซโล หรือห้องเย็นที่เก็บรักษาสินค้าของตนเองตามที่อธิบดีกรมการค้าภายในกำหนด
2. กำหนดให้คลังสินค้า ไซโล หรือห้องเย็นที่อยู่ภายใต้บังคับพระราชบัญญัตินี้ มี 3 ประเภท ดังนี้
2.1 กรณีการประกอบกิจการคลังสินค้า กิจการไซโล และกิจการห้องเย็น
1) กำหนดให้กิจการคลังสินค้า ไซโล ห้องเย็น เพื่อบำเหน็จเป็นทางการค้าปกติ ต้องได้รับใบอนุญาตจากอธิบดีกรมการค้าภายใน ยกเว้นกรณีเก็บรักษาสินค้าเฉพาะแก่บริษัทในเครือ และกรณีประสงค์จะตั้งสำนักงานสาขา ต้องได้รับใบอนุญาตจากอธิบดีกรมการค้าภายใน
2) กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการประกอบกิจการ เช่น กำหนดหลักเกณฑ์การออกใบรับของคลังสินค้าซึ่งบังคับให้ต้องออกเมื่อได้รับสินค้าในทุกกรณี ส่วนประทวนสินค้าให้ออกเมื่อผู้ฝากร้องขอ และต้องออกโดยถูกต้องตามความจริง มีรายการครบถ้วนตามที่กำหนดและลงลายมือชื่อนายคลังสินค้าและห้ามออกโดยมิได้ยกเลิกของเดิม
3) กำหนดให้ผู้ประกอบกิจการต้องมีทุนตามที่กำหนด ต้องส่งมอบสินค้าที่ฝากให้แก่ผู้ทรงใบรับของคลังสินค้าหรือประทวนสินค้าโดยเวนคืนเอกสารดังกล่าว จัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายและรายงานประจำปี ส่งรายงานฐานะการเงินหรือการประกอบกิจการเมื่ออธิบดีกรมการค้าภายในสั่ง จัดให้มีการตรวจสอบสินค้าทั้งหมดที่เก็บไว้ในคลังสินค้า ไซโล และห้องเย็นอย่างน้อยปีละสองครั้ง
4) กำหนดสิทธิและหน้าที่ของผู้ฝากและผู้รับฝาก เช่น กำหนดให้ผู้รับฝากต้องรับผิดต่อผู้ฝาก กรณีสินค้าที่ฝากสูญหาย เสียหาย มีการผสมปลอมปน หรือปริมาณน้ำหนักสินค้าไม่ตรงกับที่ระบุในใบรับของคลังสินค้า ออกใบรับของในคลังสินค้าหรือประทวนสินค้ามากกว่าหนึ่งฉบับโดยไม่ยกเลิกฉบับเดิม
2.2 กรณีคลังสินค้า ไซโล และห้องเย็นที่เก็บรักษาสินค้าเฉพาะแก่บริษัทในเครือ
1) กำหนดให้ผู้มีคลังสินค้า ไซโล และห้องเย็นที่เก็บรักษาสินค้าเฉพาะแก่บริษัทในเครือไม่ต้องขอรับใบอนุญาต แต่ต้องแจ้งข้อมูลเกี่ยวกับชื่อ ที่อยู่ของตน พร้อมสถานที่เก็บ พื้นที่ ขนาด ความจุ รวมทั้งชื่อและสถานที่ทำการของบริษัทในเครือที่ฝากเก็บ ต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่เริ่มประกอบกิจการ
2) กรณีมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลที่ได้แจ้งไว้หรือประสงค์จะเลิกหรือโอนกิจการต้องแจ้งต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ภายในสามสิบวันนับแต่วันที่มีการเปลี่ยนแปลง หรือเลิกกิจการ หรือโอนกิจการ
3) กำหนดให้ผู้มีคลังสินค้า ไซโล หรือห้องเย็นที่เก็บรักษาสินค้าเฉพาะแก่บริษัทในเครือ จัดทำบัญชีคุมสินค้าเก็บไว้ ณ สถานที่ทำการ พร้อมให้พนักงานเจ้าหน้าที่ตรวจสอบได้และจัดส่งรายงานประจำปีแสดงข้อมูลสินค้าที่เก็บรักษาตามแบบ วิธีการ ภายในระยะเวลาที่อธิบดีกรมการค้าภายในกำหนด
4) กำหนดห้ามออกใบรับของคลังสินค้าหรือประทวนสินค้าสำหรับสินค้าที่เก็บรักษาในคลังสินค้า ไซโล หรือห้องเย็นที่เก็บรักษาสินค้าเฉพาะแก่บริษัทในเครือ
2.3 กรณีคลังสินค้า ไซโล และห้องเย็นที่เก็บรักษาสินค้าของตนเอง
1) กำหนดให้ผู้มีคลังสินค้า ไซโล และห้องเย็นที่เก็บรักษาสินค้าของตนเอง ซึ่งมีพื้นที่ ขนาด หรือความจุของคลังสินค้า ไซโล ห้องเย็นตามที่กำหนดไว้ ต้องแจ้งข้อมูลตามที่กฎหมายกำหนดต่อพนักงานเจ้าหน้าที่
2) กรณีจำเป็นเพื่อประโยชน์ในการรักษาความมั่นคงทางเศรษฐกิจของประเทศ อธิบดีกรมการค้าภายในมีอำนาจสั่งให้แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าที่เก็บรักษา ภายในกำหนดเวลาตามที่เห็นสมควรก็ได้
3) ห้ามออกใบรับของคลังสินค้าหรือประทวนสินค้าสำหรับสินค้าที่เก็บรักษาในคลังสินค้า ไซโล หรือห้องเย็นที่เก็บรักษาสินค้าของตนเอง
3. กำหนดบทกำหนดโทษ โดยพิจารณาตามสัดส่วนของความร้ายแรงในการกระทำความผิดในแต่ละกรณีเป็นสำคัญ ดังนี้
3.1 โทษทางปกครอง กำหนดโทษปรับทางปกครอง ในกรณีดังต่อไปนี้
1) กรณีผู้มีคลังสินค้า ไซโล หรือห้องเย็นที่เก็บรักษาสินค้าเฉพาะแก่บริษัทในเครือ ไม่แจ้งกรณีมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลหรือเลิกหรือโอนกิจการ หรือไม่แก้ไขข้อมูลตามที่สั่งให้แก้ไข หรือไม่จัดทำบัญชีคุมสินค้า หรือไม่ปฏิบัติตามคำสั่งอธิบดีกรมการค้าภายในที่ให้ส่งรายงานประจำปี
2) กรณีผู้มีคลังสินค้า ไซโล หรือห้องเย็นที่เก็บรักษาสินค้าของตนเองไม่แจ้งข้อมูลต่อพนักงานเจ้าหน้าที่ หรือไม่แจ้งกรณีมีการเปลี่ยนแปลงข้อมูลหรือเลิกหรือโอนคลังสินค้า ไซโล ห้องเย็น หรือไม่แก้ไขข้อมูลตามที่สั่งให้แก้ไข หรือไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไขที่กำหนด
3.2 โทษทางอาญา กำหนดโทษจำคุกหรือปรับ ในกรณีดังต่อไปนี้
1) กรณีผู้มีคลังสินค้า ไซโล หรือห้องเย็นที่เก็บรักษาสินค้าเฉพาะแก่บริษัทในเครือไม่แจ้งข้อมูลเกี่ยวกับคลังสินค้า ไซโล หรือห้องเย็น หรือออกใบรับของคลังสินค้าหรือประทวนสินค้า
2) กรณีผู้มีคลังสินค้า ไซโล หรือห้องเย็นที่เก็บรักษาสินค้าของตนเองออกใบรับของคลังสินค้าหรือประทวนสินค้า
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 10 มีนาคม 2558--