คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงพาณิชย์รายงานผลการดำเนินการส่งเสริมเพื่อให้มีการใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้ความตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) กับประเทศต่าง ๆ สรุปได้ดังนี้
1. ในการขอหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าเพื่อใช้ประโยชน์ในการขอรับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร ภายใต้ความตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) ผู้ส่งออกต้องดำเนินการตามขั้นตอน คือ 1) ตรวจสอบรายการสินค้าภายใต้ความตกลงฯ 2) ยื่นขอตรวจสอบต้นทุนการผลิตสินค้าตามกฎแหล่งกำเนิดฯ 3) ยื่นขอหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า ดังนั้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการตามขั้นตอนดังกล่าว กระทรวงพาณิชย์ได้นำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการให้บริการตรวจสอบรายการสินค้าภายใต้ความตกลงฯ โดยผ่านทาง Website และได้นำระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Data Interchange : EDI) ผ่านทาง Internet มาใช้ให้บริการตรวจสอบต้นทุนการผลิตสินค้า ตั้งแต่ 1 มกราคม 2548 ทำให้ลดระยะเวลาการให้บริการจากเดิม 5-10 วัน เป็น 1 วัน สำหรับการออกหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า ได้แก่ FORM A, D, GSTP, E, FTA และ C/O ทั่วไป ได้ให้บริการในระบบดังกล่าวตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2546 ทำให้ลดระยะเวลาการให้บริการจากเดิม 1 วันเหลือเพียงภายใน 20 นาที รวมทั้งได้ขยายการให้บริการในระบบดังกล่าวไปยังหน่วยงานในส่วนภูมิภาค
2. เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการขอหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าเพื่อใช้ประโยชน์ภายใต้ความตกลงฯ อย่างเต็มที่ กระทรวงพาณิชย์ได้จัดฝึกอบรม/สัมมนาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการทั่วไปรวมทั้งได้ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมการค้า หอการค้าและนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ จัดฝึกอบรม/สัมมนาสมาชิกของหน่วยงานดังกล่าวทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค นอกจากนี้ยังได้เผยแพร่และประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่าง ๆ เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ และเชิญชวนให้มีการใช้สิทธิพิเศษฯ อย่างต่อเนื่อง
3. จากการดำเนินการดังกล่าวตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2546 ถึง 4 กุมภาพันธ์ 2548 ได้ออกหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าภายใต้ความตกลงฯ กับสาธารณรัฐประชาชนจีน อินเดีย และออสเตรเลีย จำนวนรวมทั้งสิ้น 19,508 ฉบับ มูลค่า 546.65 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 21,785.01 ล้านบาท ส่งผลทำให้มูลค่าการค้าของไทยกับประเทศดังกล่าวขยายตัวเพิ่มขึ้นและไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้าในสินค้าที่เปิดเสรีภายใต้ FTA เพิ่มมากขึ้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2548--จบ--
1. ในการขอหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าเพื่อใช้ประโยชน์ในการขอรับสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร ภายใต้ความตกลงเขตการค้าเสรี (FTA) ผู้ส่งออกต้องดำเนินการตามขั้นตอน คือ 1) ตรวจสอบรายการสินค้าภายใต้ความตกลงฯ 2) ยื่นขอตรวจสอบต้นทุนการผลิตสินค้าตามกฎแหล่งกำเนิดฯ 3) ยื่นขอหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า ดังนั้นเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการให้บริการตามขั้นตอนดังกล่าว กระทรวงพาณิชย์ได้นำระบบเทคโนโลยีสารสนเทศมาใช้ในการให้บริการตรวจสอบรายการสินค้าภายใต้ความตกลงฯ โดยผ่านทาง Website และได้นำระบบการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางอิเล็กทรอนิกส์ (Electronic Data Interchange : EDI) ผ่านทาง Internet มาใช้ให้บริการตรวจสอบต้นทุนการผลิตสินค้า ตั้งแต่ 1 มกราคม 2548 ทำให้ลดระยะเวลาการให้บริการจากเดิม 5-10 วัน เป็น 1 วัน สำหรับการออกหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า ได้แก่ FORM A, D, GSTP, E, FTA และ C/O ทั่วไป ได้ให้บริการในระบบดังกล่าวตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2546 ทำให้ลดระยะเวลาการให้บริการจากเดิม 1 วันเหลือเพียงภายใน 20 นาที รวมทั้งได้ขยายการให้บริการในระบบดังกล่าวไปยังหน่วยงานในส่วนภูมิภาค
2. เพื่อส่งเสริมให้ผู้ประกอบการขอหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าเพื่อใช้ประโยชน์ภายใต้ความตกลงฯ อย่างเต็มที่ กระทรวงพาณิชย์ได้จัดฝึกอบรม/สัมมนาให้ความรู้แก่ผู้ประกอบการทั่วไปรวมทั้งได้ร่วมกับสภาอุตสาหกรรมและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สมาคมการค้า หอการค้าและนิคมอุตสาหกรรมต่าง ๆ จัดฝึกอบรม/สัมมนาสมาชิกของหน่วยงานดังกล่าวทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค นอกจากนี้ยังได้เผยแพร่และประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อต่าง ๆ เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ และเชิญชวนให้มีการใช้สิทธิพิเศษฯ อย่างต่อเนื่อง
3. จากการดำเนินการดังกล่าวตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2546 ถึง 4 กุมภาพันธ์ 2548 ได้ออกหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าภายใต้ความตกลงฯ กับสาธารณรัฐประชาชนจีน อินเดีย และออสเตรเลีย จำนวนรวมทั้งสิ้น 19,508 ฉบับ มูลค่า 546.65 ล้านเหรียญสหรัฐ หรือ 21,785.01 ล้านบาท ส่งผลทำให้มูลค่าการค้าของไทยกับประเทศดังกล่าวขยายตัวเพิ่มขึ้นและไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้าในสินค้าที่เปิดเสรีภายใต้ FTA เพิ่มมากขึ้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2548--จบ--