คณะรัฐมนตรีเห็นชอบให้สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) เป็นองค์การมหาชนกลุ่มที่ 1 ตามหลักเกณฑ์การกำหนดอัตราเงินเดือนและประโยชน์ตอบแทนอื่นของผู้อำนวยการองค์การมหาชน และหลักเกณฑ์การกำหนดเบี้ยประชุมและประโยชน์ตอบแทนอย่างอื่นของประธานกรรมการ กรรมการที่ปรึกษา และอนุกรรมการขององค์การมหาชน ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2547 ตามที่สำนักงาน ก.พ.ร. เสนอ
สำนักงาน ก.พ.ร. รายงานว่า สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้มีหนังสือ ชี้แจงว่า สวทช. ได้จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พ.ศ. 2534 เป็นองค์กรที่มีความเป็นอิสระและความคล่องตัวสูง ซึ่งไม่ผูกพันกับกฎระเบียบการปฏิบัติและข้อบังคับปกติของราชการและรัฐวิสาหกิจ โดยการกำหนดอัตราเงินเดือนค่าจ้างและเงินเดือนของพนักงานและลูกจ้างเป็นอำนาจของคณะกรรมการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ตามมาตรา 5 (7) แห่งพระราชบัญญัติพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พ.ศ. 2534 ดังนั้น อัตราค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ของ สวทช. จึงมิได้อยู่ในหลักเกณฑ์ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 7 กันยายน 2547 ที่กำหนดให้ สวทช. อยู่ในกลุ่มที่ 2 ซึ่ง ก.พ.ร. ได้พิจารณาหนังสือชี้แจงดังกล่าวแล้ว มีมติในการประชุมครั้งที่ 3/2548 เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2548 ดังนี้
1. มติคณะรัฐมนตรี (7 กันยายน 2547) ได้ครอบคลุมหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติเฉพาะ ซึ่งรวมถึง สวทช. ด้วย ดังนั้น การกำหนดอัตราเงินเดือนฯ เบี้ยประชุมและประโยชน์ตอบแทนอื่นของ สวทช. จึงต้องเป็นไปตามนัยมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว
2. เห็นสมควรปรับเปลี่ยนการจัดกลุ่มให้ สวทช. จากกลุ่มที่ 2 มาอยู่ในกลุ่มที่ 1 เนื่องจากเป็นหน่วยงานหลักที่สำคัญอย่างสูงในการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีบทบาทภารกิจในการกำหนดทิศทางการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับภาคการค้า และอุตสาหกรรมของประเทศ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 12 กรกฎาคม 2548--จบ--
สำนักงาน ก.พ.ร. รายงานว่า สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) ได้มีหนังสือ ชี้แจงว่า สวทช. ได้จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พ.ศ. 2534 เป็นองค์กรที่มีความเป็นอิสระและความคล่องตัวสูง ซึ่งไม่ผูกพันกับกฎระเบียบการปฏิบัติและข้อบังคับปกติของราชการและรัฐวิสาหกิจ โดยการกำหนดอัตราเงินเดือนค่าจ้างและเงินเดือนของพนักงานและลูกจ้างเป็นอำนาจของคณะกรรมการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ ตามมาตรา 5 (7) แห่งพระราชบัญญัติพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี พ.ศ. 2534 ดังนั้น อัตราค่าตอบแทนและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ของ สวทช. จึงมิได้อยู่ในหลักเกณฑ์ตามนัยมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 7 กันยายน 2547 ที่กำหนดให้ สวทช. อยู่ในกลุ่มที่ 2 ซึ่ง ก.พ.ร. ได้พิจารณาหนังสือชี้แจงดังกล่าวแล้ว มีมติในการประชุมครั้งที่ 3/2548 เมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2548 ดังนี้
1. มติคณะรัฐมนตรี (7 กันยายน 2547) ได้ครอบคลุมหน่วยงานของรัฐที่จัดตั้งขึ้นตามพระราชบัญญัติเฉพาะ ซึ่งรวมถึง สวทช. ด้วย ดังนั้น การกำหนดอัตราเงินเดือนฯ เบี้ยประชุมและประโยชน์ตอบแทนอื่นของ สวทช. จึงต้องเป็นไปตามนัยมติคณะรัฐมนตรีดังกล่าว
2. เห็นสมควรปรับเปลี่ยนการจัดกลุ่มให้ สวทช. จากกลุ่มที่ 2 มาอยู่ในกลุ่มที่ 1 เนื่องจากเป็นหน่วยงานหลักที่สำคัญอย่างสูงในการพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มีบทบาทภารกิจในการกำหนดทิศทางการพัฒนาด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีในการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับภาคการค้า และอุตสาหกรรมของประเทศ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 12 กรกฎาคม 2548--จบ--