ยธ. เสนอว่า เพื่อส่งเสริมการให้บริการด้านนิติวิทยาศาสตร์ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและส่งเสริมให้หน่วยงานภาครัฐ ตลอดจนบุคคลทั่วไปสามารถเข้าถึงบริการด้านนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อประโยชน์ในกระบวนการยุติธรรมหรือเพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งอย่างใดได้อย่างมีระบบและมาตรฐาน และเพื่อส่งเสริมและพัฒนาการให้บริการด้านนิติวิทยาศาสตร์ของภาคเอกชนเจริญก้าวหน้ายิ่ง ๆ ขึ้น จึงได้เสนอร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ
1. กำหนดให้ร่างพระราชบัญญัตินี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป
2. กำหนดให้มีคำนิยามคำว่า “การให้บริการนิติวิทยาศาสตร์” “ข้อมูล” “สถาบัน” “คณะกรรมการ” และ “รัฐมนตรี”
3. กำหนดให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรมรักษาการตามพระราชบัญญัตินี้
4. กำหนดให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์มีหน้าที่ในการให้บริการ และส่งเสริมงานด้านนิติวิทยาศาสตร์ โดยให้รวมถึงงานดังต่อไปนี้
(1) ช่วยเหลือและสนับสนุนการสืบสวนสอบสวนและการดำเนินคดีอาญาตามที่เจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจตามกฎหมายร้องขอ
(2) ให้บริการด้านนิติวิทยาศาสตร์เพื่อการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน การอำนวยความยุติธรรม และการทะเบียนราษฎรตามที่เจ้าหน้าที่ของรัฐร้องขอ
(3) ให้บริการด้านนิติวิทยาศาสตร์เพื่อประโยชน์แก่การป้องกันการกระทำความผิดในเด็กและเยาวชนที่อยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่ของรัฐซึ่งได้ร้องขอ
(4) ให้บริการด้านนิติวิทยาศาสตร์เพื่อพิสูจน์ข้อเท็จจริงอย่างหนึ่งอย่างใดตามที่บุคคลหนึ่งบุคคลใดร้องขอ
(5) ส่งเสริมและพัฒนาการให้บริการด้านนิติวิทยาศาสตร์ของภาคเอกชน
5. กำหนดให้มีหลักเกณฑ์และวิธีการในการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ของสถาบันนิติวิทยาศาสตร์และอัตราค่าธรรมเนียมในการให้บริการด้านนิติวิทยาศาสตร์ ตลอดจนการเก็บรักษา ทำลาย หรือการเปิดเผยข้อมูลซึ่งได้มาจากการให้บริการด้านนิติวิทยาศาสตร์
6. กำหนดให้มีคณะกรรมการส่งเสริมการให้บริการด้านนิติวิทยาศาสตร์ ประกอบด้วย ปลัดกระทรวงยุติธรรมเป็นประธานกรรมการ ผู้อำนวยการสถาบันนิติวิทยาศาสตร์ และผู้ทรงคุณวุฒิซึ่งรัฐมนตรีแต่งตั้งจำนวน 5 คนเป็นกรรมการ ซึ่งมีผู้อำนวยการสำนักมาตรฐานนิติวิทยาศาสตร์ของสถาบันเป็นเลขานุการ โดยให้คณะกรรมการมีอำนาจหน้าที่ดังต่อไปนี้
(1) กำหนดมาตรฐานการให้บริการด้านนิติวิทยาศาสตร์ของสถาบัน
(2) กำหนดการเรียกเก็บ งด หรือลดค่าธรรมเนียมการให้บริการด้านนิติวิทยาศาสตร์ของสถาบัน
(3) กำหนดหลักเกณฑ์และวิธีการในการเก็บรักษาและทำลายข้อมูล
(4) กำหนดวิธีการเปิดเผยข้อมูล
(5) กำหนดแนวทางในการส่งเสริมการให้บริการด้านนิติวิทยาศาสตร์ของภาคเอกชน
7. กำหนดให้คณะกรรมการส่งเสริมการให้บริการด้านนิติวิทยาศาสตร์อาจแต่งตั้งคณะอนุกรรมการหรือคณะทำงานเพื่อพิจารณาหรือปฏิบัติการตามที่คณะกรรมการฯ มอบหมายได้ และให้กรรมการ อนุกรรมการ คณะทำงาน เลขานุการ และผู้ช่วยเลขานุการได้รับค่าตอบแทนตามที่คณะรัฐมนตรีกำหนด
8. กำหนดให้มีบทเฉพาะกาล โดยกำหนดให้ภายในระยะเวลา 180 วัน นับแต่วันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ ให้สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ปฏิบัติงานไปตามมาตรฐานเดิมไปพลางก่อน และกำหนดให้พระราชบัญญัตินี้ไม่มีผลกระทบต่อการปฏิบัติงานหรือการให้บริการที่สถาบันได้ดำเนินการค้างอยู่ก่อนวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บังคับ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 28 เมษายน 2558--