ทำเนียบรัฐบาล--19 ต.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีพิจารณาการร่วมทำข้อตกลงระหว่างองค์การพิทักษ์สิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐอเมริกา และกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมแห่งรัฐบาลไทย สำหรับความร่วมมือด้านเทคนิควิชาการในสาขาการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมเสนอ แล้วมีมติดังนี้
1. เห็นชอบและอนุมัติให้ กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ลงนามในข้อตกลงระหว่างองค์การพิทักษ์สิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐอเมริกา และกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมแห่งรัฐบาลไทย สำหรับความร่วมมือด้านเทคนิควิชาการในสาขาการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม
2. อนุมัติให้ กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ผูกพันงบประมาณเพื่อดำเนินงานตามข้อตกลงฯ นี้ เป็นเวลา 5 ปี ปีละประมาณ 10 ล้านบาท โดยให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณ สำหรับดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ตามประมาณการรายละเอียดงบประมาณ ดังนี้
- ปี พ.ศ.2543 จำนวน 18,076,000 บาท
- ปี พ.ศ.2544 จำนวน 9,104,400 บาท
- ปี พ.ศ.2545 จำนวน 4,650,000 บาท
- ปี พ.ศ.2546 จำนวน 2,500,000 บาท
- ปี พ.ศ.2547 จำนวน 10,000,000 บาท
ทั้งนี้ จะได้มีการลงนามในข้อตกลงฯ ดังกล่าวต่อไป ประมาณปลายเดือนตุลาคม 2542
สำหรับสาระสำคัญในร่างข้อตกลงฯ สรุปได้ดังนี้
1. วัตถุประสงค์ เพื่อประสานความร่วมมือด้านเทคนิควิชาการและแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ งานวิจัยและเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อม
2. ขอบเขตของงาน ประกอบด้วย การฝึกอบรม การแลกเปลี่ยนข้อมูล การทำโครงการวิจัยร่วมกัน และกิจกรรมอื่นๆ ตามแต่จะมีการตกลง และรวมถึงการจัดการสิ่งแวดล้อม การประเมินความเสี่ยง สุขภาพอนามัยของเด้ก การป้องกันมลพิษ การใช้เครื่องส่งเสริมพื้นฐานทางการตลาดสำหรับป้องกันและการควบคุมมลพิษ การประเมินและการติดตามตรวจสอบสิ่งแวดล้อม การจัดการของเสีย การป้องกันสิ่งแวดล้อมชุมชน การให้สาธารณชนรับทราบข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม และเรื่องอื่นๆ โดยแผนการดำเนินงานจะดำเนินการตามกฎหมายของรัฐบาลสหรัฐฯ และรัฐบาลไทย
3. ข้อตกลงนี้จะดำเนินการโดยองค์การพิทักษ์สิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐฯ และ กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม แห่งรัฐบาลไทย
4. งบประมาณดำเนินการนั้น กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายสำหรับผู้เชี่ยวชาญที่จะมาประจำประเทศไทย ส่วนองค์การพิทักษ์สิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐฯ จะให้ความช่วยเหลือในการสรรหาผู้เชี่ยวชาญที่จะมาดำเนินกิจกรรมในโครงการ และจะไม่ตกลงดำเนินกิจกรรมใดๆ ภายใต้ข้อตกลงนี้ หากกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ไม่มีงบประมาณสนับสนุน
5. สำหรับการจัดการภายใต้ข้อตกลงนี้ ทั้งสองฝ่ายจะต้องแต่งตั้งผู้ประสานงานซึ่งรับผิดชอบในการจัดกิจกรรมหรือโครงการภายใต้ข้อตกลงนี้ โดยผู้ประสานงานจะต้องจัดทำรายงานผลการดำเนินงานทุก 2 ปี และรายงานการเงินเสนอต่อปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม แห่งรัฐบาลไทย และเสนอต่อรองผู้ช่วยผู้บริหารสำหรับกิจกรรมระหว่างประเทศขององค์การพิทักษ์สิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐฯ
6. การพิจารณาทรัพย์สินทางปัญญา หมวดนี้จะเสร็จสมบูรณ์ภายหลัง ตามนโยบายของสหรัฐฯ และคำปรึกษากับกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ
7. ข้อตกลงนี้จะไม่มีสิ่งใดที่จะถูกแปลความหมายไปในทางเสียหายต่อข้อตกลงอื่นๆ ที่มีอยู่หรือข้อตกลงที่จะมีขึ้นในอนาคตระหว่างหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ และรัฐบาลไทย
8. ข้อตกลงนี้จะมีผลบังคับใช้เป็นระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่วันที่มีการลงนามในข้อตกลง ซึ่งทั้งสองฝายจะขยายหรือแก้ไขข้อตกลงนี้ได้ และหากต้องการให้ข้อตกลงสิ้นสุด ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะต้องแจ้งให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบล่วงหน้า 6 เดือนก่อนที่ข้อตกลงจะสิ้นสุด โดยที่ไม่มีผลกระทบต่อกิจกรรมหรือโครงการที่ได้ดำเนินการไปแล้วก่อนที่ข้อตกลงนี้จะสิ้นสุด
9. สำหรับความรับผิดชอบ ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะชดใช้ความเสียหายหรือการทำลายของทรัพย์สินที่เกิดขึ้นนอกเหนือหรือเกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ได้ดำเนินงานไปแล้วภายใต้ข้อตกลงนี้ โดยที่ทรัพย์สินนั้นเป็นสมบัติที่ทั้งสองฝ่ายเป็นผู้จัดหา
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 19 ตุลาคม 2542--
คณะรัฐมนตรีพิจารณาการร่วมทำข้อตกลงระหว่างองค์การพิทักษ์สิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐอเมริกา และกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมแห่งรัฐบาลไทย สำหรับความร่วมมือด้านเทคนิควิชาการในสาขาการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม ตามที่กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมเสนอ แล้วมีมติดังนี้
1. เห็นชอบและอนุมัติให้ กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ลงนามในข้อตกลงระหว่างองค์การพิทักษ์สิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐอเมริกา และกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมแห่งรัฐบาลไทย สำหรับความร่วมมือด้านเทคนิควิชาการในสาขาการพิทักษ์สิ่งแวดล้อม
2. อนุมัติให้ กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม ผูกพันงบประมาณเพื่อดำเนินงานตามข้อตกลงฯ นี้ เป็นเวลา 5 ปี ปีละประมาณ 10 ล้านบาท โดยให้สำนักงบประมาณจัดสรรงบประมาณ สำหรับดำเนินการในเรื่องดังกล่าว ตามประมาณการรายละเอียดงบประมาณ ดังนี้
- ปี พ.ศ.2543 จำนวน 18,076,000 บาท
- ปี พ.ศ.2544 จำนวน 9,104,400 บาท
- ปี พ.ศ.2545 จำนวน 4,650,000 บาท
- ปี พ.ศ.2546 จำนวน 2,500,000 บาท
- ปี พ.ศ.2547 จำนวน 10,000,000 บาท
ทั้งนี้ จะได้มีการลงนามในข้อตกลงฯ ดังกล่าวต่อไป ประมาณปลายเดือนตุลาคม 2542
สำหรับสาระสำคัญในร่างข้อตกลงฯ สรุปได้ดังนี้
1. วัตถุประสงค์ เพื่อประสานความร่วมมือด้านเทคนิควิชาการและแลกเปลี่ยนความรู้ ประสบการณ์ งานวิจัยและเทคโนโลยีด้านสิ่งแวดล้อม
2. ขอบเขตของงาน ประกอบด้วย การฝึกอบรม การแลกเปลี่ยนข้อมูล การทำโครงการวิจัยร่วมกัน และกิจกรรมอื่นๆ ตามแต่จะมีการตกลง และรวมถึงการจัดการสิ่งแวดล้อม การประเมินความเสี่ยง สุขภาพอนามัยของเด้ก การป้องกันมลพิษ การใช้เครื่องส่งเสริมพื้นฐานทางการตลาดสำหรับป้องกันและการควบคุมมลพิษ การประเมินและการติดตามตรวจสอบสิ่งแวดล้อม การจัดการของเสีย การป้องกันสิ่งแวดล้อมชุมชน การให้สาธารณชนรับทราบข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อม และเรื่องอื่นๆ โดยแผนการดำเนินงานจะดำเนินการตามกฎหมายของรัฐบาลสหรัฐฯ และรัฐบาลไทย
3. ข้อตกลงนี้จะดำเนินการโดยองค์การพิทักษ์สิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐฯ และ กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม แห่งรัฐบาลไทย
4. งบประมาณดำเนินการนั้น กระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อมจะเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายสำหรับผู้เชี่ยวชาญที่จะมาประจำประเทศไทย ส่วนองค์การพิทักษ์สิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐฯ จะให้ความช่วยเหลือในการสรรหาผู้เชี่ยวชาญที่จะมาดำเนินกิจกรรมในโครงการ และจะไม่ตกลงดำเนินกิจกรรมใดๆ ภายใต้ข้อตกลงนี้ หากกระทรวงวิทยาศาสตร์ฯ ไม่มีงบประมาณสนับสนุน
5. สำหรับการจัดการภายใต้ข้อตกลงนี้ ทั้งสองฝ่ายจะต้องแต่งตั้งผู้ประสานงานซึ่งรับผิดชอบในการจัดกิจกรรมหรือโครงการภายใต้ข้อตกลงนี้ โดยผู้ประสานงานจะต้องจัดทำรายงานผลการดำเนินงานทุก 2 ปี และรายงานการเงินเสนอต่อปลัดกระทรวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและสิ่งแวดล้อม แห่งรัฐบาลไทย และเสนอต่อรองผู้ช่วยผู้บริหารสำหรับกิจกรรมระหว่างประเทศขององค์การพิทักษ์สิ่งแวดล้อมแห่งสหรัฐฯ
6. การพิจารณาทรัพย์สินทางปัญญา หมวดนี้จะเสร็จสมบูรณ์ภายหลัง ตามนโยบายของสหรัฐฯ และคำปรึกษากับกระทรวงการต่างประเทศของสหรัฐฯ
7. ข้อตกลงนี้จะไม่มีสิ่งใดที่จะถูกแปลความหมายไปในทางเสียหายต่อข้อตกลงอื่นๆ ที่มีอยู่หรือข้อตกลงที่จะมีขึ้นในอนาคตระหว่างหน่วยงานของรัฐบาลสหรัฐฯ และรัฐบาลไทย
8. ข้อตกลงนี้จะมีผลบังคับใช้เป็นระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่วันที่มีการลงนามในข้อตกลง ซึ่งทั้งสองฝายจะขยายหรือแก้ไขข้อตกลงนี้ได้ และหากต้องการให้ข้อตกลงสิ้นสุด ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะต้องแจ้งให้อีกฝ่ายหนึ่งทราบล่วงหน้า 6 เดือนก่อนที่ข้อตกลงจะสิ้นสุด โดยที่ไม่มีผลกระทบต่อกิจกรรมหรือโครงการที่ได้ดำเนินการไปแล้วก่อนที่ข้อตกลงนี้จะสิ้นสุด
9. สำหรับความรับผิดชอบ ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะชดใช้ความเสียหายหรือการทำลายของทรัพย์สินที่เกิดขึ้นนอกเหนือหรือเกี่ยวข้องกับกิจกรรมที่ได้ดำเนินงานไปแล้วภายใต้ข้อตกลงนี้ โดยที่ทรัพย์สินนั้นเป็นสมบัติที่ทั้งสองฝ่ายเป็นผู้จัดหา
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 19 ตุลาคม 2542--