ทำเนียบรัฐบาล--15 มี.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลของกระทรวงศึกษา งวดที่ 2 ของปีงบประมาณ 2537 ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ สรุปได้ดังนี้
1. ด้านการศึกษา ได้ดำเนินการ คือ
1.1 เร่งขยายโอกาสการศึกษาในระดับก่อนประถมศึกษาในทุกรูปแบบให้ทั่วถึง โดยมุ่งเน้นการพัฒนาความพร้อมทุกด้านให้แก่เด็กก่อนเข้าชั้นประถมศึกษา ได้แก่ การจัดการศึกษาระดับก่อนประถมศึกษาเพื่อจัดให้เด็กอายุ 4 - 6 ปี ได้รับการสร้างเสริมพัฒนาการทุกด้านให้เจริญเติบโตตามศักยภาพ ซึ่งมีปัญหาอุปสรรคด้านการจัดเตรียมความพร้อมแก่เด็กยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ เนื่องจากขาดแคลนครูผู้สอนและอาคารสถานที่
1.2 เร่งขยายการศึกษาขั้นพื้นฐานจาก 6 ปี เป็น 9 ปี ให้ทั่วถึงโดยเร็วอย่างมีคุณภาพทั้งในระบบและนอกระบบโรงเรียน รวมทั้งสนับสนุนการจัดการศึกษาให้แก่ผู้บกพร่องทางร่างกาย จิตใจ และผู้ด้อยโอกาสกลุ่มอื่น ๆ ได้แก่ การขยายโอกาสทางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งมีปัญหาอุปสรรคด้านขาดแคลนห้องเรียนห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ สนามกีฬา อุปกรณ์ผลิตเอกสาร การขยายโอกาสทางการศึกษาของเด็กผิดปกติและผู้ด้อยโอกาสด้านเศรษฐกิจและสังคม เพื่อให้โอกาสเด็กที่มีความผิดปกติทั้งทางร่างกายและจิตใจ รวมทั้งเด็กที่จำเป็นต้องให้การสงเคราะห์ลักษณะต่าง ๆ ได้เข้ารับการศึกษามากขึ้น ซึ่งมีปัญหาอุปสรรคด้านสถานที่จัดตั้งโรงเรียน และยังมีผู้ด้อย-โอกาสจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับการศึกษา
1.3 พัฒนาคุณภาพการศึกษาทุกระดับ ทุกประเภท ทั้งในด้านเนื้อหาสาระและกระบวนการเรียนรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษาด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อันเป็นฐานสำคัญต่อการ และเหมาะสมต่อการพัฒนาประเทศ ได้แก่ การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนการฟื้นฟู อนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การวิจัยพัฒนาหลักสูตรสื่อ วัสดุอุปกรณ์ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี การจัดส่งเยาวชนไทยไปแข่งขันคณิตศาสตร์วิทยาศาสตร์โอลิมปิก ระหว่างประเทศ การพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การจัดตั้งโรงเรียนจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย การส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การปรับปรุงคุณภาพการศึกษาระดับอาชีวศึกษา การส่งเสริมความสามารถด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ในโรงเรียนมัธยมศึกษร และการพัฒนาการเรียนการสอนในโรงเรียนศึกษาพิเศษและการศึกษาสงเคราะห์
1.4 เร่งอบรมปลูกฝังให้ประชาชนมีจิตสำนึกถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของสังคมประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ปฏิบัติตนให้เป็นตัวอย่างที่ดีแก่เด็กและเยาวชนในด้านคุณธรรม ศิลธรรม และค่านิยมที่เน้นประโยชน์ส่วนรวม โดยเน้นความร่วมมืออย่างจริงจังและใกล้ชิดของสถาบันการศึกษา ศาสนา สังคมและครอบครัว ได้แก่ การส่งเสริมประชาธิปไตยและความมั่นคงของชาติ การปลูกฝังวินัย ค่านิยมไทย และเอกลักษณ์ของชาติ และการส่งเสริมและพัฒนาคุณธรรมและจริยธรรมของนักเรียน
1.5 จัดให้มีการศึกษาและฝึกอบรมอาชีพทั้งในและนอกระบบโรงเรียน เพื่อพัฒนาคุณภาพฝีมือแรงงานทุกระดับ รวมทั้งส่งเสริมให้เอกชนและสถานประกอบการเข้ามามีบทบาทในการจัดการศึกษาและฝึกอบรมให้มากและกว้างขวางยิ่งขึ้น ได้แก่ การส่งเสริมการเรียนการสอนวิชาชีพในโรงเรียน การฝึกอบรมอาชีพแก่ประชาชนตามแนวชายแดน การศึกษาตามหลักสูตรพิเศษ เพื่อจัดการศึกษาด้านวิชาชีพในระยะสั้นให้สอดคล้องกับความต้องการของสังคมและท้องถิ่น การจัดตั้งวิทยาลัยใหม่ เพื่อจัดตั้งวิทยาลัยสารพัดช่าง และวิทยาลัยการอาชีพใหม่สำหรับสอนวิชาชีพระยะสั้น และการส่งเสริมกิจกรรมธนาคารนักเรียน เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้และคุ้นเคยกับระบบธนาคาร เรียนรู้ค่าของเงิน และรู้จักวางแผน
1.6 ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการใช้ทรัพยากรจากองค์กรภาครัฐและเอกชน สถานประกอบการชุมชน และแหล่งภูมิปัญญาท้องถิ่นให้มีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา และแลกเปลี่ยนข่าวสารการเรียนรู้ ได้แก่ การจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการจัดการศึกษาทั้งในระบบโรงเรียนและนอกระบบโรงเรียนให้ได้รับการ-ศึกษาอย่างทั่วถึง ซึ่งมีปัญหาอุปสรรคด้านอุปกรณ์จานรับสัญญาณดาวเทียม และเครื่องรับโทรทัศน์มีจำนวนจำกัดไม่เพียงพอ
1.7 การกระจายอำนาจการบริหารการศึกษาจากส่วนกลางไปสู่ส่วนภูมิภาค และไปสู่สถานศึกษาให้มากขึ้น โดยการกำหนดขอบข่ายความรับผิดชอบของหน่วยงานทุกระดับอย่างชัดเจน ให้สถานศึกษามีความคล่องตัวในการเลือกวิธีการจัดดำเนินงานตามนโยบาย รวมทั้งสนับสนุนให้บุคคลและองค์กรในชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของชุมชนในรูปคณะกรรมการการศึกษา ได้แก่ การร่างพระราชบัญญัติการกระจายอำนาจ เพื่อกระจายอำนาจการ-บริหารการศึกษาจากส่วนกลางไปยังสถานศึกษาให้มากที่สุด
1.8 ส่งเสริมให้สถาบันอุดมศึกษาทุกสังกัดมีความคล่องตัว และมีความเป็นอิสระเพื่อความเป็นเลิศทางวิชาการ ได้แก่ การพัฒนาหลักสูตร การพัฒนาโครงการนำร่องจัดตั้งคณะวิชาสิ่งแวดล้อมที่วิทยาลัยครูเพชรบุรี และการจัดตั้งศูนย์ฝึกหัดครูปฐมวัย ซึ่งมีปัญหาอุปสรรคไม่ได้รับการสนับสนุนจากวิทยาลัยในด้านพัฒนาบุคลากร
1.9 ส่งเสริมให้สถาบันการศึกษาทั้งของรัฐและเอกชนมีบทบาทในการพัฒนาท้องถิ่นและประเทศชาติ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในท้องถิ่น โดยเฉพาะสถาบันการ-ศึกษาที่ตั้งอยู่ในท้องถิ่นนั้น ๆ ได้แก่การพัฒนาอาชีพในชนบท การพัฒนาการศึกษาพิเศษในวิทยาลัยครู เพื่อจัดตั้งศูนย์สารสนเทศทางการศึกษาพิเศษเพื่อให้บริหารข้อมูลและการศึกษาพิเศษ การจัดการศึกษาในหมู่บ้านป้องกันตนเองชายแดน (ปชด.) และโครงการอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง (อพป.) การจัดตั้งโรงเรียนมัธยมศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและสังคมซึ่งมีปัญหาอุปสรรคในด้านงบประมาณที่ได้รับน้อย ไม่เพียงพอสำหรับการจัดกิจกรรมที่สามารถตอบ-สนองความต้องการของท้องถิ่น การพัฒนาการศึกษาชุมชนบทพื้นที่สูง เพื่อให้ประชาชนบนพื้นที่สูงได้รับการฝึกอาชีพสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพภาคเกษตรให้มากขึ้น และโครงการปลูกไม้ยืนต้น เพื่อให้โรงเรียนและหน่วยงานทางการศึกษาเป็นผู้นำในการอนุรักษ์รักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนและชุมชน
1.10 ส่งเสริมบทบาทเอกชนในการร่วมจัดการศึกษาในทุกระดับให้มากยิ่งขึ้น ได้แก่ การพัฒนาและส่งเสริมการศึกษาเอกชน การพัฒนาโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม การส่งเสริมโรงเรียนเอกชนอาชีวศึกษา การพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์สาขาวิชาที่ขาดแคลน การรับรองมาตรฐานคุณภาพการศึกษาโรงเรียนเอกชน การวัดผลเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาโรงเรียนเอกชน การวัดผลเพื่อพัฒนากระบวนการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การพัฒนาเทคนิคการวัดผลและประเมินผลการศึกษา การส่งเสิรมการจัดกิจกรรมนักเรียนโรงเรียนเอกชนอาชีวศึกษา การส่งเสริมโภชนาการ พลานามัยและกีฬา และการพัฒนางานแนะแนวและระบบงานทะเบียนโรงเรียนเอกชน
1.11 พัฒนามาตรฐานวิชาชีพครูและมาตรฐานบุคลากรทางการศึกษาให้เป็นวิชาชีพอย่างแท้ริง โดยการปรับกระบวนการผลิตและการใช้ ตลอดจนการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ได้แก่ การฝึกอบรมครูผู้สอนระดับประถมศึกษา โครงการคุรุทายาท เพื่อให้ได้บุคลากรที่มีจริยธรรม คุณธรรม และเจตคติต่อวิชาชีพครูมาเป็นครู การฝึกอบรมครูผู้สอนระดับมัธยมศึกษา ซึ่งมีปัญหาอุปสรรคด้านงบประมาณไม่เพียงพอ การพัฒนาครูโรงเรียนเอกชน การพัฒนาข้าราชการและครูสายอาชีวศึกษา การพัฒนา บุคลากรและครูระดับอุดมศึกษา การส่งเสริมและพัฒนาการจัดทำผลงานทางวิชาการเพื่อปรับปรุงการเรียนการสอน การพัฒนาระบบประชาสัมพันธ์ด้านการบริหารงานบุคคลสำหรับข้าราชการครู การพัฒนาวินัยและจริยธรรมข้าราชการครู และการพัฒนาบุคลากรทางการศึกษานอกโรงเรียน
1.12 ปรับปรุงสวัสดิการที่เหมาะสมให้แก่บุคลากรในสถาบันการศึกษาทุกระดับเพื่อสร้างขวัญ กำลังใจ และความภาคภูมิใจในอาชีพ ได้แก่ การปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดสวัสดิการและการจัดเงินทุนหมุนเวียนสำหรับข้าราชการครู
1.13 ขยายกองทุนอาหารกลางวันให้ทั่วถึงในระดับก่อนประถมศึกษาและระดับประถมศึกษาเพื่อให้ผู้ที่อยู่ในวัยศึกษาเหล่านั้นได้มีการพัฒนาด้านสุขภาพอนามัยอย่างสมบูรณ์ รวมทั้งสนับสนุนให้มีกองทุนการศึกษาเพื่อช่วยเหลือนักเรียน และนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ได้แก่ โครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนการควบคุมสารไอโอดีนในสถานศึกษาเพื่อให้นักเรียนมัธยมศึกษาได้รับความรู้ และสามารถป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากโรค และงานอนามัยโรงเรียน ซึ่งมีปัญหาอุปสรรคคือ สำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดจัดสรรเงินให้สำนักงานการประถมศึกษาอำเภอหรือโรงเรียนจัดซื้อผงโซเดียมฟลูออไรด์เอง ซึ่งไม่สะดวก เนื่องจากมีบริษัทที่มีคุณสมบัติถูกต้องเพียงบริษัทเดียวในประเทศ จึงสมควรให้จัดซื้อในส่วนกลาง
2. ด้านศาสนา และศิลปวัฒนธรรม ได้ดำเนินการ คือ
2.1 ทำนุบำรุงศาสนาและส่งเสริมสถาบันทางศาสนา โดยการพัฒนาการศึกษาของสงฆ์ และการฝึกอบรมบุคลากรทางศาสนาให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น เพื่อให้เป็นผู้นำในการพัฒนาจิตใจ จริยธรรม และคุณธรรมของประชาชน ได้แก่ การบูรณะและพัฒนาวัด การพัฒนาการศาสนาศึกษา การส่งเสริมเผยแพร่พระพุทธศาสนาการประสานกิจกรรมศาสนาและอุปถัมภ์ศาสนาอื่น การพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมของประชาชน และการดำเนินการความร่วมือทางการศึกษาระหว่างกรมการฝึกหัดครู กรมการศาสนา และคณะสงฆ์ เพื่อพัฒนาท้องถิ่น
2.2 รณรงค์ให้ประชาชน องค์กร สถาบันต่าง ๆ และชุมชนเข้าร่วมในกิจกรรมการอนุรักษ์ส่งเสริมและเผยแพร่ศิลปวัฒนาธรรมไทยให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ได้แก่ การอนุรักษ์มรดกไทย การอนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นบ้าน การส่งเสริมอนุรักษ์ ศิปวัฒนธรรม การพัฒนาเยาวชนอาสาสมัครเพื่อสนับสนุนองค์กรเอกชนการจัดตั้งอาสาสมัครท้องถิ่นในการดูแลรักษามรดกทางศิลปวัฒนธรรม โครงการหอจดหมายเหตุแห่งชาติ ปีรณรงค์วัฒนธรรมไทย และโครงการหอไทยนิทัศน์ เพื่อเป็นแหล่งกลางในการจัดแสดงและใช้ข้อมูลสารสนเทศเกี่ยวกับวัฒนธรรมไทย นับแต่อดีตถึงปัจจุบัน
2.3 ดำเนินการให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางความร่วมมือทางการศึกษา การค้นคว้า วิจัย การฝึกอบรม การอนุรักษ์โบราณสถาน โบราณวัตถุของชาติ รวมทั้งการพัฒนาศิลปวัฒนธรรมไทยในภูมิภาค ได้แก่ การส่งเสิรมทำนุบำรุงศิลปและวัฒนธรรม การศึกษาค้นคว้าประวัติศาสตร์โบราณคดีในภูมิภาคอินโดจีน การจัดตั้งพิพิธภัณฑสถานแห่ง-ชาติ การพาณิชย์นาวี การก่อสร้างพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ศิลปหัตถกรรมอีสานจังหวัดร้อยเอ็ด การปรับปรุงพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพระนคร เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ครบ 100 ปี การดูแลทรัพย์สินทางศิลปวัฒน-ธรรมของชาติ ของพระสังฆาธิการ และการประชุมระดมความคิดเรื่องการจัดตั้งและพัฒนาหอวัฒนธรรมนิทัศน์
3. ด้านการกีฬา ได้ดำเนินการ คือ
3.1 ส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็ก เยาวชน และประชาชนพัฒนาสุขภาพอนามัย โดยการออกกำลังกาย การเล่นกีฬา เพื่อเป็นพื้นฐานของการพัฒนาคุณภาพชีวิตและเพื่อความเป็นเลิศในการแข่งขันทั้งในระดับชาติและระดับนานาชาติ ได้แก่ การอบรมเยาวชนผู้นำทางการกีฬาในระดับหมู่บ้าน ซึ่งมีปัญหาอุปสรรคด้านชายแดนไทย - มาเลเซีย มักมีปัญหาการก่อการร้าย มีการแย่งชิงมวลชน ทำให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติมีอัตราการเสี่ยงสูง และในพื้นที่ที่การคมนาคมไม่สะดวก การติดตามผลทำได้ยาก การส่งเสริมการออกกำลังกายสำหรับประชาชน และการส่งเสริมและพัฒนาการกีฬา
3.2 เร่งพัฒนามาตรฐานการกีฬาของประเทศอย่างเป็นระบบ และเสริมสร้างสนามกีฬา และอุปกรณ์การกีฬาให้เพียงพอแก่การที่จะเอื้ออำนวยให้นักกีฬาสามารถฝึกซ้อมและเล่นกีฬาได้อย่างเต็มความสามารถ ได้แก่ การก่อสร้างสนามกีฬาจังหวัด สนามกีฬาอำเภอ และสนามกีฬาชานเมือง และการพัฒนาการกีฬาและสุขภาพอนามัย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 14 มีนาคม 2538--
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานผลการดำเนินการตามนโยบายของรัฐบาลของกระทรวงศึกษา งวดที่ 2 ของปีงบประมาณ 2537 ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเสนอ สรุปได้ดังนี้
1. ด้านการศึกษา ได้ดำเนินการ คือ
1.1 เร่งขยายโอกาสการศึกษาในระดับก่อนประถมศึกษาในทุกรูปแบบให้ทั่วถึง โดยมุ่งเน้นการพัฒนาความพร้อมทุกด้านให้แก่เด็กก่อนเข้าชั้นประถมศึกษา ได้แก่ การจัดการศึกษาระดับก่อนประถมศึกษาเพื่อจัดให้เด็กอายุ 4 - 6 ปี ได้รับการสร้างเสริมพัฒนาการทุกด้านให้เจริญเติบโตตามศักยภาพ ซึ่งมีปัญหาอุปสรรคด้านการจัดเตรียมความพร้อมแก่เด็กยังไม่ครอบคลุมทุกพื้นที่ เนื่องจากขาดแคลนครูผู้สอนและอาคารสถานที่
1.2 เร่งขยายการศึกษาขั้นพื้นฐานจาก 6 ปี เป็น 9 ปี ให้ทั่วถึงโดยเร็วอย่างมีคุณภาพทั้งในระบบและนอกระบบโรงเรียน รวมทั้งสนับสนุนการจัดการศึกษาให้แก่ผู้บกพร่องทางร่างกาย จิตใจ และผู้ด้อยโอกาสกลุ่มอื่น ๆ ได้แก่ การขยายโอกาสทางการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งมีปัญหาอุปสรรคด้านขาดแคลนห้องเรียนห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ สนามกีฬา อุปกรณ์ผลิตเอกสาร การขยายโอกาสทางการศึกษาของเด็กผิดปกติและผู้ด้อยโอกาสด้านเศรษฐกิจและสังคม เพื่อให้โอกาสเด็กที่มีความผิดปกติทั้งทางร่างกายและจิตใจ รวมทั้งเด็กที่จำเป็นต้องให้การสงเคราะห์ลักษณะต่าง ๆ ได้เข้ารับการศึกษามากขึ้น ซึ่งมีปัญหาอุปสรรคด้านสถานที่จัดตั้งโรงเรียน และยังมีผู้ด้อย-โอกาสจำนวนมากที่ยังไม่ได้รับการศึกษา
1.3 พัฒนาคุณภาพการศึกษาทุกระดับ ทุกประเภท ทั้งในด้านเนื้อหาสาระและกระบวนการเรียนรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการศึกษาด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี อันเป็นฐานสำคัญต่อการ และเหมาะสมต่อการพัฒนาประเทศ ได้แก่ การพัฒนารูปแบบการเรียนการสอนการฟื้นฟู อนุรักษ์และพัฒนาทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม การวิจัยพัฒนาหลักสูตรสื่อ วัสดุอุปกรณ์ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี การจัดส่งเยาวชนไทยไปแข่งขันคณิตศาสตร์วิทยาศาสตร์โอลิมปิก ระหว่างประเทศ การพัฒนาและส่งเสริมผู้มีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การจัดตั้งโรงเรียนจุฬาภรณ์ราชวิทยาลัย การส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การปรับปรุงคุณภาพการศึกษาระดับอาชีวศึกษา การส่งเสริมความสามารถด้านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ในโรงเรียนมัธยมศึกษร และการพัฒนาการเรียนการสอนในโรงเรียนศึกษาพิเศษและการศึกษาสงเคราะห์
1.4 เร่งอบรมปลูกฝังให้ประชาชนมีจิตสำนึกถึงความสำคัญของการมีส่วนร่วมในกิจกรรมของสังคมประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ปฏิบัติตนให้เป็นตัวอย่างที่ดีแก่เด็กและเยาวชนในด้านคุณธรรม ศิลธรรม และค่านิยมที่เน้นประโยชน์ส่วนรวม โดยเน้นความร่วมมืออย่างจริงจังและใกล้ชิดของสถาบันการศึกษา ศาสนา สังคมและครอบครัว ได้แก่ การส่งเสริมประชาธิปไตยและความมั่นคงของชาติ การปลูกฝังวินัย ค่านิยมไทย และเอกลักษณ์ของชาติ และการส่งเสริมและพัฒนาคุณธรรมและจริยธรรมของนักเรียน
1.5 จัดให้มีการศึกษาและฝึกอบรมอาชีพทั้งในและนอกระบบโรงเรียน เพื่อพัฒนาคุณภาพฝีมือแรงงานทุกระดับ รวมทั้งส่งเสริมให้เอกชนและสถานประกอบการเข้ามามีบทบาทในการจัดการศึกษาและฝึกอบรมให้มากและกว้างขวางยิ่งขึ้น ได้แก่ การส่งเสริมการเรียนการสอนวิชาชีพในโรงเรียน การฝึกอบรมอาชีพแก่ประชาชนตามแนวชายแดน การศึกษาตามหลักสูตรพิเศษ เพื่อจัดการศึกษาด้านวิชาชีพในระยะสั้นให้สอดคล้องกับความต้องการของสังคมและท้องถิ่น การจัดตั้งวิทยาลัยใหม่ เพื่อจัดตั้งวิทยาลัยสารพัดช่าง และวิทยาลัยการอาชีพใหม่สำหรับสอนวิชาชีพระยะสั้น และการส่งเสริมกิจกรรมธนาคารนักเรียน เพื่อให้นักเรียนได้เรียนรู้และคุ้นเคยกับระบบธนาคาร เรียนรู้ค่าของเงิน และรู้จักวางแผน
1.6 ส่งเสริมและสนับสนุนให้มีการใช้ทรัพยากรจากองค์กรภาครัฐและเอกชน สถานประกอบการชุมชน และแหล่งภูมิปัญญาท้องถิ่นให้มีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา และแลกเปลี่ยนข่าวสารการเรียนรู้ ได้แก่ การจัดการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพการจัดการศึกษาทั้งในระบบโรงเรียนและนอกระบบโรงเรียนให้ได้รับการ-ศึกษาอย่างทั่วถึง ซึ่งมีปัญหาอุปสรรคด้านอุปกรณ์จานรับสัญญาณดาวเทียม และเครื่องรับโทรทัศน์มีจำนวนจำกัดไม่เพียงพอ
1.7 การกระจายอำนาจการบริหารการศึกษาจากส่วนกลางไปสู่ส่วนภูมิภาค และไปสู่สถานศึกษาให้มากขึ้น โดยการกำหนดขอบข่ายความรับผิดชอบของหน่วยงานทุกระดับอย่างชัดเจน ให้สถานศึกษามีความคล่องตัวในการเลือกวิธีการจัดดำเนินงานตามนโยบาย รวมทั้งสนับสนุนให้บุคคลและองค์กรในชุมชนมีส่วนร่วมในการจัดการศึกษาของชุมชนในรูปคณะกรรมการการศึกษา ได้แก่ การร่างพระราชบัญญัติการกระจายอำนาจ เพื่อกระจายอำนาจการ-บริหารการศึกษาจากส่วนกลางไปยังสถานศึกษาให้มากที่สุด
1.8 ส่งเสริมให้สถาบันอุดมศึกษาทุกสังกัดมีความคล่องตัว และมีความเป็นอิสระเพื่อความเป็นเลิศทางวิชาการ ได้แก่ การพัฒนาหลักสูตร การพัฒนาโครงการนำร่องจัดตั้งคณะวิชาสิ่งแวดล้อมที่วิทยาลัยครูเพชรบุรี และการจัดตั้งศูนย์ฝึกหัดครูปฐมวัย ซึ่งมีปัญหาอุปสรรคไม่ได้รับการสนับสนุนจากวิทยาลัยในด้านพัฒนาบุคลากร
1.9 ส่งเสริมให้สถาบันการศึกษาทั้งของรัฐและเอกชนมีบทบาทในการพัฒนาท้องถิ่นและประเทศชาติ ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม และการยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในท้องถิ่น โดยเฉพาะสถาบันการ-ศึกษาที่ตั้งอยู่ในท้องถิ่นนั้น ๆ ได้แก่การพัฒนาอาชีพในชนบท การพัฒนาการศึกษาพิเศษในวิทยาลัยครู เพื่อจัดตั้งศูนย์สารสนเทศทางการศึกษาพิเศษเพื่อให้บริหารข้อมูลและการศึกษาพิเศษ การจัดการศึกษาในหมู่บ้านป้องกันตนเองชายแดน (ปชด.) และโครงการอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง (อพป.) การจัดตั้งโรงเรียนมัธยมศึกษาเพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตและสังคมซึ่งมีปัญหาอุปสรรคในด้านงบประมาณที่ได้รับน้อย ไม่เพียงพอสำหรับการจัดกิจกรรมที่สามารถตอบ-สนองความต้องการของท้องถิ่น การพัฒนาการศึกษาชุมชนบทพื้นที่สูง เพื่อให้ประชาชนบนพื้นที่สูงได้รับการฝึกอาชีพสร้างโอกาสในการประกอบอาชีพภาคเกษตรให้มากขึ้น และโครงการปลูกไม้ยืนต้น เพื่อให้โรงเรียนและหน่วยงานทางการศึกษาเป็นผู้นำในการอนุรักษ์รักษาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในโรงเรียนและชุมชน
1.10 ส่งเสริมบทบาทเอกชนในการร่วมจัดการศึกษาในทุกระดับให้มากยิ่งขึ้น ได้แก่ การพัฒนาและส่งเสริมการศึกษาเอกชน การพัฒนาโรงเรียนเอกชนสอนศาสนาอิสลาม การส่งเสริมโรงเรียนเอกชนอาชีวศึกษา การพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาเอกชน การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์สาขาวิชาที่ขาดแคลน การรับรองมาตรฐานคุณภาพการศึกษาโรงเรียนเอกชน การวัดผลเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาโรงเรียนเอกชน การวัดผลเพื่อพัฒนากระบวนการเรียนการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี การพัฒนาเทคนิคการวัดผลและประเมินผลการศึกษา การส่งเสิรมการจัดกิจกรรมนักเรียนโรงเรียนเอกชนอาชีวศึกษา การส่งเสริมโภชนาการ พลานามัยและกีฬา และการพัฒนางานแนะแนวและระบบงานทะเบียนโรงเรียนเอกชน
1.11 พัฒนามาตรฐานวิชาชีพครูและมาตรฐานบุคลากรทางการศึกษาให้เป็นวิชาชีพอย่างแท้ริง โดยการปรับกระบวนการผลิตและการใช้ ตลอดจนการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาอย่างเป็นระบบและต่อเนื่อง ได้แก่ การฝึกอบรมครูผู้สอนระดับประถมศึกษา โครงการคุรุทายาท เพื่อให้ได้บุคลากรที่มีจริยธรรม คุณธรรม และเจตคติต่อวิชาชีพครูมาเป็นครู การฝึกอบรมครูผู้สอนระดับมัธยมศึกษา ซึ่งมีปัญหาอุปสรรคด้านงบประมาณไม่เพียงพอ การพัฒนาครูโรงเรียนเอกชน การพัฒนาข้าราชการและครูสายอาชีวศึกษา การพัฒนา บุคลากรและครูระดับอุดมศึกษา การส่งเสริมและพัฒนาการจัดทำผลงานทางวิชาการเพื่อปรับปรุงการเรียนการสอน การพัฒนาระบบประชาสัมพันธ์ด้านการบริหารงานบุคคลสำหรับข้าราชการครู การพัฒนาวินัยและจริยธรรมข้าราชการครู และการพัฒนาบุคลากรทางการศึกษานอกโรงเรียน
1.12 ปรับปรุงสวัสดิการที่เหมาะสมให้แก่บุคลากรในสถาบันการศึกษาทุกระดับเพื่อสร้างขวัญ กำลังใจ และความภาคภูมิใจในอาชีพ ได้แก่ การปรับปรุงประสิทธิภาพการจัดสวัสดิการและการจัดเงินทุนหมุนเวียนสำหรับข้าราชการครู
1.13 ขยายกองทุนอาหารกลางวันให้ทั่วถึงในระดับก่อนประถมศึกษาและระดับประถมศึกษาเพื่อให้ผู้ที่อยู่ในวัยศึกษาเหล่านั้นได้มีการพัฒนาด้านสุขภาพอนามัยอย่างสมบูรณ์ รวมทั้งสนับสนุนให้มีกองทุนการศึกษาเพื่อช่วยเหลือนักเรียน และนักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์ ได้แก่ โครงการอาหารกลางวันในโรงเรียนการควบคุมสารไอโอดีนในสถานศึกษาเพื่อให้นักเรียนมัธยมศึกษาได้รับความรู้ และสามารถป้องกันตนเองให้ปลอดภัยจากโรค และงานอนามัยโรงเรียน ซึ่งมีปัญหาอุปสรรคคือ สำนักงานการประถมศึกษาจังหวัดจัดสรรเงินให้สำนักงานการประถมศึกษาอำเภอหรือโรงเรียนจัดซื้อผงโซเดียมฟลูออไรด์เอง ซึ่งไม่สะดวก เนื่องจากมีบริษัทที่มีคุณสมบัติถูกต้องเพียงบริษัทเดียวในประเทศ จึงสมควรให้จัดซื้อในส่วนกลาง
2. ด้านศาสนา และศิลปวัฒนธรรม ได้ดำเนินการ คือ
2.1 ทำนุบำรุงศาสนาและส่งเสริมสถาบันทางศาสนา โดยการพัฒนาการศึกษาของสงฆ์ และการฝึกอบรมบุคลากรทางศาสนาให้มีคุณภาพยิ่งขึ้น เพื่อให้เป็นผู้นำในการพัฒนาจิตใจ จริยธรรม และคุณธรรมของประชาชน ได้แก่ การบูรณะและพัฒนาวัด การพัฒนาการศาสนาศึกษา การส่งเสริมเผยแพร่พระพุทธศาสนาการประสานกิจกรรมศาสนาและอุปถัมภ์ศาสนาอื่น การพัฒนาคุณธรรม จริยธรรมของประชาชน และการดำเนินการความร่วมือทางการศึกษาระหว่างกรมการฝึกหัดครู กรมการศาสนา และคณะสงฆ์ เพื่อพัฒนาท้องถิ่น
2.2 รณรงค์ให้ประชาชน องค์กร สถาบันต่าง ๆ และชุมชนเข้าร่วมในกิจกรรมการอนุรักษ์ส่งเสริมและเผยแพร่ศิลปวัฒนาธรรมไทยให้กว้างขวางยิ่งขึ้น ได้แก่ การอนุรักษ์มรดกไทย การอนุรักษ์วัฒนธรรมพื้นบ้าน การส่งเสริมอนุรักษ์ ศิปวัฒนธรรม การพัฒนาเยาวชนอาสาสมัครเพื่อสนับสนุนองค์กรเอกชนการจัดตั้งอาสาสมัครท้องถิ่นในการดูแลรักษามรดกทางศิลปวัฒนธรรม โครงการหอจดหมายเหตุแห่งชาติ ปีรณรงค์วัฒนธรรมไทย และโครงการหอไทยนิทัศน์ เพื่อเป็นแหล่งกลางในการจัดแสดงและใช้ข้อมูลสารสนเทศเกี่ยวกับวัฒนธรรมไทย นับแต่อดีตถึงปัจจุบัน
2.3 ดำเนินการให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางความร่วมมือทางการศึกษา การค้นคว้า วิจัย การฝึกอบรม การอนุรักษ์โบราณสถาน โบราณวัตถุของชาติ รวมทั้งการพัฒนาศิลปวัฒนธรรมไทยในภูมิภาค ได้แก่ การส่งเสิรมทำนุบำรุงศิลปและวัฒนธรรม การศึกษาค้นคว้าประวัติศาสตร์โบราณคดีในภูมิภาคอินโดจีน การจัดตั้งพิพิธภัณฑสถานแห่ง-ชาติ การพาณิชย์นาวี การก่อสร้างพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ศิลปหัตถกรรมอีสานจังหวัดร้อยเอ็ด การปรับปรุงพิพิธภัณฑ์สถานแห่งชาติพระนคร เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอยู่หัว ครบ 100 ปี การดูแลทรัพย์สินทางศิลปวัฒน-ธรรมของชาติ ของพระสังฆาธิการ และการประชุมระดมความคิดเรื่องการจัดตั้งและพัฒนาหอวัฒนธรรมนิทัศน์
3. ด้านการกีฬา ได้ดำเนินการ คือ
3.1 ส่งเสริมและสนับสนุนให้เด็ก เยาวชน และประชาชนพัฒนาสุขภาพอนามัย โดยการออกกำลังกาย การเล่นกีฬา เพื่อเป็นพื้นฐานของการพัฒนาคุณภาพชีวิตและเพื่อความเป็นเลิศในการแข่งขันทั้งในระดับชาติและระดับนานาชาติ ได้แก่ การอบรมเยาวชนผู้นำทางการกีฬาในระดับหมู่บ้าน ซึ่งมีปัญหาอุปสรรคด้านชายแดนไทย - มาเลเซีย มักมีปัญหาการก่อการร้าย มีการแย่งชิงมวลชน ทำให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติมีอัตราการเสี่ยงสูง และในพื้นที่ที่การคมนาคมไม่สะดวก การติดตามผลทำได้ยาก การส่งเสริมการออกกำลังกายสำหรับประชาชน และการส่งเสริมและพัฒนาการกีฬา
3.2 เร่งพัฒนามาตรฐานการกีฬาของประเทศอย่างเป็นระบบ และเสริมสร้างสนามกีฬา และอุปกรณ์การกีฬาให้เพียงพอแก่การที่จะเอื้ออำนวยให้นักกีฬาสามารถฝึกซ้อมและเล่นกีฬาได้อย่างเต็มความสามารถ ได้แก่ การก่อสร้างสนามกีฬาจังหวัด สนามกีฬาอำเภอ และสนามกีฬาชานเมือง และการพัฒนาการกีฬาและสุขภาพอนามัย
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 14 มีนาคม 2538--