ทำเนียบรัฐบาล--17 ก.พ.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามมติของคณะกรรมการนโยบายถั่วเหลืองและพืชน้ำมันอื่น ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2541 เรื่อง การกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำมันพืช รวม 2 เรื่อง ดังนี้
1. ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม
จากสถานการณ์การผลิตและความต้องการในปัจจุบัน คาดว่าผลผลิตน้ำมันปาล์มในช่วงผลปาล์มออกน้อย(มกราคม - เมษายน) จะมี 143,463 ตัน เมื่อรวมกับสต๊อกต้นปีจำนวน 66,714 ตัน จะมีผลผลิตรวม 210,177 ตัน ขณะที่ความต้องการในช่วงดังกล่าวมี 171,456 ตัน และมีการส่งออกอีกจำนวน 10,000 ตัน ดังนั้นจะเหลือสต๊อก ณ สิ้นเดือนเมษายน 2541จำนวน 28,721 ตัน ซึ่งต่ำกว่าระดับสต๊อกที่เหมาะสม 45,000 ตัน อยู่ 16,279 ตัน และเพื่อแก้ไขการขาดแคลนน้ำมันพืช ที่ประชุมได้มีมติ ดังนี้
1.1 ขยายปริมาณเปิดตลาดนำเข้าน้ำมันปาล์มภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) ปี 2541 จาก 4,706 ตัน เป็น 16,000 ตัน น้ำมันปาล์มดิบ หรือ 12,000 ตัน น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์
1.2 ลดอัตราภาษีนำเข้าในโควต้าตามที่ผูกพันไว้กับองค์การการค้าโลก จากร้อยละ 20 เป็นร้อยละ 0
1.3 กำหนดการบริหารการนำเข้า ดังนี้
- ให้สมาคมโรงงานกลั่นน้ำมันปาล์มเป็นผู้นำเข้า และจัดสรรให้สมาชิก ทั้งนี้ ให้นำเข้าเสร็จสิ้นภายในวันที่ 15 เมษายน 2541 และให้ผู้นำเข้าน้ำมันปาล์มรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบที่ผลิตภายในประเทศในราคาที่สอดคล้องกับราคาผลปาล์มสดที่เกษตรกรขายได้ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 3.20 บาท ณ อัตราน้ำมันร้อยละ 17 ในช่วงดังกล่าว
- มอบให้กระทรวงพาณิชย์เป็นผู้กำกับดูแลให้เป็นไปตามเงื่อนไขข้างต้น
1.4 กำหนดให้น้ำมันปาล์มดิบเป็นสินค้าที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมพิเศษ (Surcharge) ในการส่งออก เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่ปัจจุบัน - พฤษภาคม 2541 ในอัตราร้อยละ 10 ของราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี ทั้งนี้ เงินที่เก็บได้จากค่าธรรมเนียมพิเศษจากการส่งออกน้ำมันปาล์ม ให้นำมาจัดตั้งเป็นกองทุนเพื่อพัฒนาปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตปาล์มน้ำมัน เพื่อรองรับเขตการค้าเสรีอาเซียนในปี 2546 ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
2. การปรับราคารับซื้อเมล็ดถั่วเหลือง ณ ไร่นา
สืบเนื่องจากมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2539 อนุมัติให้นำเข้าเมล็ดถั่วเหลืองได้โดยเสรี โดยกำหนดให้โรงงานสกัดน้ำมันรับซื้อเมล็ดถั่วเหลืองในประเทศชนิดรองจากเกษตรกรในราคาขั้นต่ำ ณ หน้าโรงงานตลาดกทม. กิโลกรัมละ 8.50 บาท หรือกิโลกรัมละ 8.00 บาท ณ ไร่นา สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมและโรงงานอาหารสัตว์ที่จะนำเข้าต้องรับซื้อเมล็ดถั่วเหลืองคุณภาพดีจากเกษตรกรทั้งหมด ณ หน้าโรงงานตลาดกทม. ในราคาที่สูงกว่ากิโลกรัมละ 8.50 บาท
บัดนี้ จากการเปลี่ยนเแปลงระบบอัตราแลกเปลี่ยนทำให้ราคานำเข้าเมล็ดถั่วเหลืองเพิ่มขึ้น และส่งผลให้ราคาถั่วเหลืองภายในประเทศเพิ่มสูงขึ้นด้วย นอกจากนี้ต้นทุนการผลิตของเกษตรกรก็เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน ทำให้ราคาขั้นต่ำที่กำหนดไว้เดิมอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นเพื่อให้ราคาดังกล่าวสอดคล้องกับสถานการณ์ และเพื่อเป็นการจูงใจให้เกษตรกรหันมาเพาะปลูกถั่วเหลืองเพิ่มขึ้นเพื่อทดแทนการนำเข้าบางส่วน คณะกรรมการฯ จึงมีมติ ดังนี้
2.1 ให้ปรับราคารับซื้อเมล็ดถั่วเหลืองขั้นต่ำจากเดิมที่โรงงานสกัดน้ำมันรับซื้อกิโลกรัมละ 8.00 บาท ณ ไร่นาหรือ 8.50 บาท ณ หน้าโรงงานสกัดในกรุงเทพมหานคร เป็นไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 10.00 บาท ณ ไร่นา หรือไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ11.00 บาท ณ หน้าโรงงานสกัด
2.2 ให้ปรับราคารับซื้อเมล็ดถั่วเหลืองจากเดิมที่โรงงานอุตสาหกรรมและโรงงานอาหารสัตว์รับซื้อในราคาสูงกว่ากิโลกรัมละ 8.50 บาท เป็นสูงกว่ากิโลกรัมละ 11.00 บาท
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2541--
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามมติของคณะกรรมการนโยบายถั่วเหลืองและพืชน้ำมันอื่น ซึ่งประชุมเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์ 2541 เรื่อง การกำหนดมาตรการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำมันพืช รวม 2 เรื่อง ดังนี้
1. ปาล์มน้ำมันและน้ำมันปาล์ม
จากสถานการณ์การผลิตและความต้องการในปัจจุบัน คาดว่าผลผลิตน้ำมันปาล์มในช่วงผลปาล์มออกน้อย(มกราคม - เมษายน) จะมี 143,463 ตัน เมื่อรวมกับสต๊อกต้นปีจำนวน 66,714 ตัน จะมีผลผลิตรวม 210,177 ตัน ขณะที่ความต้องการในช่วงดังกล่าวมี 171,456 ตัน และมีการส่งออกอีกจำนวน 10,000 ตัน ดังนั้นจะเหลือสต๊อก ณ สิ้นเดือนเมษายน 2541จำนวน 28,721 ตัน ซึ่งต่ำกว่าระดับสต๊อกที่เหมาะสม 45,000 ตัน อยู่ 16,279 ตัน และเพื่อแก้ไขการขาดแคลนน้ำมันพืช ที่ประชุมได้มีมติ ดังนี้
1.1 ขยายปริมาณเปิดตลาดนำเข้าน้ำมันปาล์มภายใต้องค์การการค้าโลก (WTO) ปี 2541 จาก 4,706 ตัน เป็น 16,000 ตัน น้ำมันปาล์มดิบ หรือ 12,000 ตัน น้ำมันปาล์มบริสุทธิ์
1.2 ลดอัตราภาษีนำเข้าในโควต้าตามที่ผูกพันไว้กับองค์การการค้าโลก จากร้อยละ 20 เป็นร้อยละ 0
1.3 กำหนดการบริหารการนำเข้า ดังนี้
- ให้สมาคมโรงงานกลั่นน้ำมันปาล์มเป็นผู้นำเข้า และจัดสรรให้สมาชิก ทั้งนี้ ให้นำเข้าเสร็จสิ้นภายในวันที่ 15 เมษายน 2541 และให้ผู้นำเข้าน้ำมันปาล์มรับซื้อน้ำมันปาล์มดิบที่ผลิตภายในประเทศในราคาที่สอดคล้องกับราคาผลปาล์มสดที่เกษตรกรขายได้ไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 3.20 บาท ณ อัตราน้ำมันร้อยละ 17 ในช่วงดังกล่าว
- มอบให้กระทรวงพาณิชย์เป็นผู้กำกับดูแลให้เป็นไปตามเงื่อนไขข้างต้น
1.4 กำหนดให้น้ำมันปาล์มดิบเป็นสินค้าที่ต้องเสียค่าธรรมเนียมพิเศษ (Surcharge) ในการส่งออก เป็นการชั่วคราว ตั้งแต่ปัจจุบัน - พฤษภาคม 2541 ในอัตราร้อยละ 10 ของราคาส่งออก เอฟ.โอ.บี ทั้งนี้ เงินที่เก็บได้จากค่าธรรมเนียมพิเศษจากการส่งออกน้ำมันปาล์ม ให้นำมาจัดตั้งเป็นกองทุนเพื่อพัฒนาปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิตปาล์มน้ำมัน เพื่อรองรับเขตการค้าเสรีอาเซียนในปี 2546 ภายใต้การกำกับดูแลของกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
2. การปรับราคารับซื้อเมล็ดถั่วเหลือง ณ ไร่นา
สืบเนื่องจากมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2539 อนุมัติให้นำเข้าเมล็ดถั่วเหลืองได้โดยเสรี โดยกำหนดให้โรงงานสกัดน้ำมันรับซื้อเมล็ดถั่วเหลืองในประเทศชนิดรองจากเกษตรกรในราคาขั้นต่ำ ณ หน้าโรงงานตลาดกทม. กิโลกรัมละ 8.50 บาท หรือกิโลกรัมละ 8.00 บาท ณ ไร่นา สำหรับโรงงานอุตสาหกรรมและโรงงานอาหารสัตว์ที่จะนำเข้าต้องรับซื้อเมล็ดถั่วเหลืองคุณภาพดีจากเกษตรกรทั้งหมด ณ หน้าโรงงานตลาดกทม. ในราคาที่สูงกว่ากิโลกรัมละ 8.50 บาท
บัดนี้ จากการเปลี่ยนเแปลงระบบอัตราแลกเปลี่ยนทำให้ราคานำเข้าเมล็ดถั่วเหลืองเพิ่มขึ้น และส่งผลให้ราคาถั่วเหลืองภายในประเทศเพิ่มสูงขึ้นด้วย นอกจากนี้ต้นทุนการผลิตของเกษตรกรก็เพิ่มสูงขึ้นเช่นกัน ทำให้ราคาขั้นต่ำที่กำหนดไว้เดิมอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าที่ควรจะเป็น ดังนั้นเพื่อให้ราคาดังกล่าวสอดคล้องกับสถานการณ์ และเพื่อเป็นการจูงใจให้เกษตรกรหันมาเพาะปลูกถั่วเหลืองเพิ่มขึ้นเพื่อทดแทนการนำเข้าบางส่วน คณะกรรมการฯ จึงมีมติ ดังนี้
2.1 ให้ปรับราคารับซื้อเมล็ดถั่วเหลืองขั้นต่ำจากเดิมที่โรงงานสกัดน้ำมันรับซื้อกิโลกรัมละ 8.00 บาท ณ ไร่นาหรือ 8.50 บาท ณ หน้าโรงงานสกัดในกรุงเทพมหานคร เป็นไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ 10.00 บาท ณ ไร่นา หรือไม่ต่ำกว่ากิโลกรัมละ11.00 บาท ณ หน้าโรงงานสกัด
2.2 ให้ปรับราคารับซื้อเมล็ดถั่วเหลืองจากเดิมที่โรงงานอุตสาหกรรมและโรงงานอาหารสัตว์รับซื้อในราคาสูงกว่ากิโลกรัมละ 8.50 บาท เป็นสูงกว่ากิโลกรัมละ 11.00 บาท
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 17 กุมภาพันธ์ 2541--