ทำเนียบรัฐบาล--21 ส.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง พ.ศ..... ตามที่ ทบวงมหาวิทยาลัยเสนอโดยกำหนดให้ปรับเปลี่ยนฐานะของสถาบันราชภัฏเชียงรายในสังกัดกระทรวงศึกษา ธิการ มาเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐที่มีการบริหารงานเป็นอิสระอยู่ในกำกับของทบวงมหาวิทยาลัย ใช้ชื่อว่า มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง โดยให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วส่งให้คณะกรรม การประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
1. จัดตั้งมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงขึ้นที่จังหวัดเชียงราย โดยปรับเปลี่ยนฐานะของสถาบัน ราชภัฏเชียงรายในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการมาเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐที่มีการบริหารงานเป็นอิสระอยู่ ในกำกับของทบวงมหาวิทยาลัย
2. องค์กรบริหารมหาวิทยาลัย ประกอบด้วย
2.1 สภามหาวิทยาลัยเป็นองค์กรบริหารสูงสุดของมหาวิทยาลัย ประกอบด้วยผู้บริหาร คณาจารย์ และบุคคลภายนอกมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิในท้องถิ่นหรือเป็นผู้แทนองค์กรในท้องถิ่น ส่วนหนึ่งด้วย
2.2 สภาวิชาการเป็นองค์กรที่รับผิดชอบด้านวิชาการของมหาวิทยาลัย โดยมีหน้าที่เป็น ที่ปรึกษา เป็นผู้พิจารณาเสนอความเห็นด้านวิชาการแก่สภามหาวิทยาลัย
3. การเงินและทรัพย์สินของมหาวิทยาลัย
3.1 กำหนดให้รัฐบาลจัดสรรเงินอุดหนุนทั่วไป เป็นรายปีให้แก่มหาวิทยาลัยและถือเป็น เงินรายได้ของมหาวิทยาลัย
3.2 มหาวิทยาลัยสามารถถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินและทรัพย์สินได้
3.3 มหาวิทยาลัยมีอำนาจปกครอง ดูแล บำรุงรักษาใช้และจัดหาประโยชน์จากทรัพย์ สินของมหาวิทยาลัย ทั้งที่เป็นที่ราชพัสดุและทรัพย์สินอื่น
3.4 รายได้ของมหาวิทยาลัย ไม่ต้องนำส่งกระทรวงการคลังตามกฎหมายว่าด้วยเงิน คงคลัง และกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ
3.5 มหาวิทยาลัยมีระบบการเงินและบัญชีของตนเอง โดยสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน เป็นผู้สอบบัญชีของมหาวิทยาลัยในลักษณะตรวจสอบภายหลัง
3.6 กรณีรายได้ไม่พอสำหรับค่าใช้จ่าย ในการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยและมหา วิทยาลัยไม่สามารถหาเงินจากแหล่งอื่นได้ ให้รัฐบาลจัดสรรเงินงบประมาณแผ่นดินให้แก่มหาวิทยาลัยเท่า จำนวนที่จำเป็น
4. การบริหารงานบุคคล
4.1 บุคลากรของมหาวิทยาลัยไม่เป็นข้าราชการ โดยมีฐานะเป็นพนักงานของรัฐ แต่ไม่อยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน กฎหมายว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์ กฎหมายว่าด้วยพนักงานรัฐวิสาหกิจ และกฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม
4.2 สภามหาวิทยาลัยมีอำนาจออกระเบียบ ข้อบังคับ ว่าด้วยการบริหารงานบุคคล ของมหาวิทยาลัย
4.3 บุคลากรของมหาวิทยาลัยสามารถใช้ตำแหน่งทางวิชาการเป็นคำนำหน้านามได้
5. การบริหารงานวิชาการและการจัดส่วนงาน
5.1 สภามหาวิทยาลัย มีอำนาจอนุมัติการเปิดสอนและอนุมัติหลักสูตรการศึกษา ให้ สอดคล้องกับมาตรฐานที่ทบวงมหาวิทยาลัยกำหนด
5.2 สภามหาวิทยาลัย มีอำนาจอนุมัติการจัดตั้ง การรวม การยุบเลิก และการแบ่ง หน่วยงานภายในมหาวิทยาลัย
6. บทเฉพาะกาล
6.1 ให้คงสภาพข้าราชการและลูกจ้างต่อไปตามระบบราชการเมื่อตำแหน่งว่างลงให้ ยุบเลิก ข้าราชการหรือลูกจ้างผู้ใดประสงค์จะเปลี่ยนสภาพเป็นพนักงานของมหาวิทยาลัยตามระบบใหม่ ให้ถือว่าเป็นการออกจากราชการเพราะเลิกหรือยุบตำแหน่งหรือทางราชการเลิกจ้างโดยไม่มีความผิด ตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยบำเหน็จลูกจ้าง แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ จะต้องผ่านการคัดเลือกหรือการประเมินตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่สภามหาวิทยาลัย กำหนด โดยได้รับเงินเดือนหรือค่าจ้างและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ไม่น้อยกว่าเงินเดือนหรือค่าจ้างและ สิทธิประโยชน์ที่ข้าราชการหรือลูกจ้างของส่วนราชการได้รับ
6.2 ที่ราชพัสดุซึ่งสถาบันราชภัฏเชียงรายครอบครองดูแลอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บัง คับให้คงเป็นที่ราชพัสดุต่อไป เว้นแต่ที่ราชพัสดุซึ่งได้มาโดยมีผู้ยกให้ ให้โอนกรรมสิทธิ์มาเป็นของมหา วิทยาลัยตามพระราชบัญญัตินี้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 20 สิงหาคม 2539--
คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง พ.ศ..... ตามที่ ทบวงมหาวิทยาลัยเสนอโดยกำหนดให้ปรับเปลี่ยนฐานะของสถาบันราชภัฏเชียงรายในสังกัดกระทรวงศึกษา ธิการ มาเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐที่มีการบริหารงานเป็นอิสระอยู่ในกำกับของทบวงมหาวิทยาลัย ใช้ชื่อว่า มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง โดยให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณาแล้วส่งให้คณะกรรม การประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
1. จัดตั้งมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวงขึ้นที่จังหวัดเชียงราย โดยปรับเปลี่ยนฐานะของสถาบัน ราชภัฏเชียงรายในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการมาเป็นมหาวิทยาลัยของรัฐที่มีการบริหารงานเป็นอิสระอยู่ ในกำกับของทบวงมหาวิทยาลัย
2. องค์กรบริหารมหาวิทยาลัย ประกอบด้วย
2.1 สภามหาวิทยาลัยเป็นองค์กรบริหารสูงสุดของมหาวิทยาลัย ประกอบด้วยผู้บริหาร คณาจารย์ และบุคคลภายนอกมหาวิทยาลัย ซึ่งเป็นผู้ทรงคุณวุฒิในท้องถิ่นหรือเป็นผู้แทนองค์กรในท้องถิ่น ส่วนหนึ่งด้วย
2.2 สภาวิชาการเป็นองค์กรที่รับผิดชอบด้านวิชาการของมหาวิทยาลัย โดยมีหน้าที่เป็น ที่ปรึกษา เป็นผู้พิจารณาเสนอความเห็นด้านวิชาการแก่สภามหาวิทยาลัย
3. การเงินและทรัพย์สินของมหาวิทยาลัย
3.1 กำหนดให้รัฐบาลจัดสรรเงินอุดหนุนทั่วไป เป็นรายปีให้แก่มหาวิทยาลัยและถือเป็น เงินรายได้ของมหาวิทยาลัย
3.2 มหาวิทยาลัยสามารถถือกรรมสิทธิ์ในที่ดินและทรัพย์สินได้
3.3 มหาวิทยาลัยมีอำนาจปกครอง ดูแล บำรุงรักษาใช้และจัดหาประโยชน์จากทรัพย์ สินของมหาวิทยาลัย ทั้งที่เป็นที่ราชพัสดุและทรัพย์สินอื่น
3.4 รายได้ของมหาวิทยาลัย ไม่ต้องนำส่งกระทรวงการคลังตามกฎหมายว่าด้วยเงิน คงคลัง และกฎหมายว่าด้วยวิธีการงบประมาณ
3.5 มหาวิทยาลัยมีระบบการเงินและบัญชีของตนเอง โดยสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน เป็นผู้สอบบัญชีของมหาวิทยาลัยในลักษณะตรวจสอบภายหลัง
3.6 กรณีรายได้ไม่พอสำหรับค่าใช้จ่าย ในการดำเนินงานของมหาวิทยาลัยและมหา วิทยาลัยไม่สามารถหาเงินจากแหล่งอื่นได้ ให้รัฐบาลจัดสรรเงินงบประมาณแผ่นดินให้แก่มหาวิทยาลัยเท่า จำนวนที่จำเป็น
4. การบริหารงานบุคคล
4.1 บุคลากรของมหาวิทยาลัยไม่เป็นข้าราชการ โดยมีฐานะเป็นพนักงานของรัฐ แต่ไม่อยู่ภายใต้บังคับของกฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองแรงงาน กฎหมายว่าด้วยแรงงานสัมพันธ์ กฎหมายว่าด้วยพนักงานรัฐวิสาหกิจ และกฎหมายว่าด้วยการประกันสังคม
4.2 สภามหาวิทยาลัยมีอำนาจออกระเบียบ ข้อบังคับ ว่าด้วยการบริหารงานบุคคล ของมหาวิทยาลัย
4.3 บุคลากรของมหาวิทยาลัยสามารถใช้ตำแหน่งทางวิชาการเป็นคำนำหน้านามได้
5. การบริหารงานวิชาการและการจัดส่วนงาน
5.1 สภามหาวิทยาลัย มีอำนาจอนุมัติการเปิดสอนและอนุมัติหลักสูตรการศึกษา ให้ สอดคล้องกับมาตรฐานที่ทบวงมหาวิทยาลัยกำหนด
5.2 สภามหาวิทยาลัย มีอำนาจอนุมัติการจัดตั้ง การรวม การยุบเลิก และการแบ่ง หน่วยงานภายในมหาวิทยาลัย
6. บทเฉพาะกาล
6.1 ให้คงสภาพข้าราชการและลูกจ้างต่อไปตามระบบราชการเมื่อตำแหน่งว่างลงให้ ยุบเลิก ข้าราชการหรือลูกจ้างผู้ใดประสงค์จะเปลี่ยนสภาพเป็นพนักงานของมหาวิทยาลัยตามระบบใหม่ ให้ถือว่าเป็นการออกจากราชการเพราะเลิกหรือยุบตำแหน่งหรือทางราชการเลิกจ้างโดยไม่มีความผิด ตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ และระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยบำเหน็จลูกจ้าง แล้วแต่กรณี ทั้งนี้ จะต้องผ่านการคัดเลือกหรือการประเมินตามหลักเกณฑ์ และวิธีการที่สภามหาวิทยาลัย กำหนด โดยได้รับเงินเดือนหรือค่าจ้างและสิทธิประโยชน์ต่าง ๆ ไม่น้อยกว่าเงินเดือนหรือค่าจ้างและ สิทธิประโยชน์ที่ข้าราชการหรือลูกจ้างของส่วนราชการได้รับ
6.2 ที่ราชพัสดุซึ่งสถาบันราชภัฏเชียงรายครอบครองดูแลอยู่ในวันที่พระราชบัญญัตินี้ใช้บัง คับให้คงเป็นที่ราชพัสดุต่อไป เว้นแต่ที่ราชพัสดุซึ่งได้มาโดยมีผู้ยกให้ ให้โอนกรรมสิทธิ์มาเป็นของมหา วิทยาลัยตามพระราชบัญญัตินี้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายบรรหาร ศิลปอาชา)--วันที่ 20 สิงหาคม 2539--