เรื่อง ขออนุมัติการลงนามในพิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดด้านมาตรการสุขอนามัยพืชสำหรับผลชมพู่สดส่งออกจากไทยไปจีนระหว่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงควบคุมคุณภาพและกักกันโรคแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบต่อร่างพิธีสารว่าด้วยข้อกำหนดด้านมาตรการสุขอนามัยพืชสำหรับผลชมพู่สดส่งออกจากไทยไปจีน
2. อนุมัติหลักการให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์หรือผู้แทนเป็นผู้ลงนามในพิธีสาร ว่าด้วยข้อกำหนดด้านมาตรการสุขอนามัยพืชสำหรับผลชมพู่สดส่งออกจากไทยไปจีนระหว่าง กษ. แห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงควบคุมคุณภาพตรวจสอบและกักกันโรคแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีน ทั้งนี้ หากมีการปรับปรุงแก้ไขร่างพิธีสารฯ ในส่วนที่มิใช่สาระสำคัญ กษ. จะได้หารือร่วมกับกรมสนธิสัญญาและกฎหมาย กระทรวงการต่างประเทศ (กต.) เพื่อพิจารณาดำเนินการในเรื่องนั้น ๆ โดยไม่ต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาอีกครั้งและรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบ
สาระสำคัญของเรื่อง
กษ. รายงานว่า
ร่างพิธีสารฯ นี้อยู่ภายใต้บันทึกความเข้าใจร่วมกันว่าด้วยความร่วมมือด้านสุขอนามัยและ สุขอนามัยพืชระหว่าง กษ. แห่งราชอาณาจักรไทยกับกระทรวงควบคุมคุณภาพตรวจสอบและกักกันโรคแห่งสาธารณรัฐประชาชนจีนที่ลงนามเมื่อวันที่ 12 เมษายน 2547 โดยมีสาระสำคัญหลักของร่างพิธีสารฯ ดังนี้
1. กำหนดให้กรมวิชาการเกษตร กษ. เป็นหน่วยงานรับผิดชอบของไทยในการตรวจสอบและกักกัน แมลงศัตรูพืช การขึ้นทะเบียนสวน โรงคัดบรรจุ และผู้ส่งออกประกอบกับการออกใบรับรองสุขอนามัยพืช
2. กำหนดให้สวนชมพู่ ฯ ต้องได้รับการรับรองมาตรฐานตามหลักปฏิบัติการเกษตรที่เหมาะสม (GAP) และปฏิบัติตามหลักการป้องกันกำจัดศัตรูพืชแบบผสมผสาน (IPM) จากกรมวิชาการเกษตร โดยกรมวิชาการเกษตรจะต้องตรวจติดตามการเข้าทำลายของแมลงวันผลไม้และสารตกค้างในชมพู่ฯ
3. กำหนดให้การห่อผลชมพู่ฯ ในสวนจะต้องดำเนินตามขั้นตอนที่ได้กำหนดไว้ เพื่อป้องกันมิให้เกิด การเข้าทำลายของแมลงวันผลไม้
4. กำหนดให้โรงคัดบรรจุต้องมีมาตรฐานในการคัดบรรจุ การเก็บรักษา และจัดระบบปิดเพื่อ ป้องกันการเข้าทำลายซ้ำของแมลงวันผลไม้
5. กำหนดมาตรการสุ่มตรวจก่อนการส่งออกและการออกใบรับรองสุขอนามัยพืช
6. ฝ่ายจีนจะตรวจสอบที่ด่านนำเข้าหากพบการปฏิบัติที่ไม่สอดคล้องตามพิธีสารฯ สามารถกำหนด มาตรการ เช่น การปฏิเสธการนำเข้า การกักกัน การส่งคืน หรือการทำลายผลิตภัณฑ์ เป็นต้น
กษ. ได้พิจารณาแล้วเห็นว่า กาจัดทำร่างพิธีสารฉบับนี้มีสาระสำคัญเป็นการเพิ่มมาตรฐานในการตรวจสอบและกักกันแมลงศัตรูพืชของชมพู่ฯ ที่จะส่งออกจากไทยไปจีนตามข้อกำหนดทางเทคนิคที่ได้ตกลงกัน การลงนามในพิธีสารฯ จะส่งผลให้ชมพู่ฯ ของไทยสามารถส่งออกไปจีนได้โดยเร็ว ซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาการระบายสินค้าดังกล่าวที่ส่งผลกระทบต่อเกษตรกรและผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน ซึ่งไม่มีบทเปลี่ยนแปลงอาณาเขตหรือเขตพื้นที่นอกอาณาเขตซึ่งประเทศไทยมีสิทธิอธิปไตยหรือมีเขตอำนาจตามหนังสือสัญญาหรือตามกฎหมายระหว่างประเทศ หรือมีผลกระทบต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจหรือสังคมของประเทศอย่างกว้างขวาง หรือมีผลผูกพันด้านการค้า การลงทุน หรืองบประมาณของประเทศอย่างมีนัยสำคัญ จึงไม่ถือเป็นหนังสือสัญญาตามมาตรา 23 วรรคสอง ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พ.ศ. 2557
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 7 กรกฏาคม 2558--