ทำเนียบรัฐบาล--28 ม.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีพิจารณาความก้าวหน้าของโครงการก่อสร้างศูนย์การแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 ศูนย์รังสิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติม ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
1. อนุมัติให้ขยายวงเงินงบประมาณโครงการก่อสร้างศูนย์การแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 ศูนย์รังสิตมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากรายการผูกพันงบประมาณจำนวน 7 รายการ วงเงินไม่เกิน 5,575,159,700 บาท เป็นรายการผูกพันงบประมาณ จำนวน 8 รายการ ในวงเงินทั้งสิ้นไม่เกิน 6,640,912,790 บาท
2. ยืนยันให้กระทรวงการคลังดำเนินการก่อสร้างสนามการแข่งขันซอฟท์บอล ที่ศูนย์รังสิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ต่อไป
ทั้งนี้ เนื่องจากศูนย์อำนวยการก่อสร้างศูนย์การแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 ศูนย์รังสิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ศอ.) ได้ร่วมกับที่ปรึกษา TRKT และคณะอนุกรรมการจัดซื้อจัดจ้างฯ จัดหาผู้ออกแบบ ผู้ควบคุมงานและผู้รับเหมาก่อสร้าง และได้ลงนามในสัญญาผูกพันงบประมาณไปแล้วประมาณ 5,000 ล้านบาทเศษ ขณะนี้ยังเหลือสัญญาหลักอยู่เพียง 1 สัญญา คือ งาน INFRASTRUCTURE และ LANDSCAPE ส่วนใหญ่ที่เหลือมูลค่าประมาณ 999 ล้านบาท เป็นงานก่อสร้างหลักงานสุดท้ายของโครงการ และงานย่อย ๆ ที่เชื่อมโยงกับงานก่อสร้างหลัก ขณะนี้อยู่ในระหว่างตัดสินผลการประกวดราคา กระทรวงการคลังได้ประสานงานกับบริษัทที่ปรึกษา TRKT เพื่อสรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมดของโครงการฯ รวมทั้งสิ่งก่อสร้างชั่วคราว และวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จำเป็นของโครงการที่อยู่ในความรับผิดชอบของโครงการเพื่อจัดทำประมาณการรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 ปรากฏว่างบประมาณในการก่อสร้างได้เพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 1,065,753,090 บาทเป็นงบประมาณของโครงการฯ รวมทั้งสิ้น 6,640,912,790 บาท อันจะทำให้วงเงินของโครงการเกินวงเงินงบประมาณเดิมขณะที่การดำเนินการจัดหาคู่สัญญาต่าง ๆ ใกล้จะครบหมดแล้วนั้น คณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13ได้มีหนังสือแจ้งมาว่า ให้ระงับการก่อสร้างสนามซอฟท์บอลที่ศูนย์รังสิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งกระทรวงการคลังโดยคณะกรรมการอำนวยการก่อสร้างฯ ได้มีหนังสือแจ้งกลับไปขอให้ทบทวนเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากหากระงับการก่อสร้างที่ศูนย์รังสิตฯ จะต้องมีการปรับเปลี่ยนแก้ไขระบบ INFRASTRUCTURE อย่างแน่นอน และอาจเกิดปัญหาเรื่องระยะเวลาแล้วเสร็จของงานก่อสร้าง อีกทั้งสิ่งที่กระทรวงการคลังดำเนินการ ก็เป็นเรื่องที่คณะรัฐมนตรีมอบหมายภารกิจให้ปฏิบัติการเปลี่ยนแปลงงานก่อสร้างสนามกีฬานี้ก็ควรที่คณะรัฐมนตรีจะเป็นผู้มีมติให้เปลี่ยนแปลง
โดยสรุปการดำเนินการก่อสร้างยังเป็นไปตามแผนงาน ที่กำหนดแล้วเสร็จทั้งโครงการ 6 เดือนก่อนการแข่งขัน คือภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2541
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 28 มกราคม 2540--
คณะรัฐมนตรีพิจารณาความก้าวหน้าของโครงการก่อสร้างศูนย์การแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 ศูนย์รังสิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ และอนุมัติงบประมาณเพิ่มเติม ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ ดังนี้
1. อนุมัติให้ขยายวงเงินงบประมาณโครงการก่อสร้างศูนย์การแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 ศูนย์รังสิตมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ จากรายการผูกพันงบประมาณจำนวน 7 รายการ วงเงินไม่เกิน 5,575,159,700 บาท เป็นรายการผูกพันงบประมาณ จำนวน 8 รายการ ในวงเงินทั้งสิ้นไม่เกิน 6,640,912,790 บาท
2. ยืนยันให้กระทรวงการคลังดำเนินการก่อสร้างสนามการแข่งขันซอฟท์บอล ที่ศูนย์รังสิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ต่อไป
ทั้งนี้ เนื่องจากศูนย์อำนวยการก่อสร้างศูนย์การแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13 ศูนย์รังสิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (ศอ.) ได้ร่วมกับที่ปรึกษา TRKT และคณะอนุกรรมการจัดซื้อจัดจ้างฯ จัดหาผู้ออกแบบ ผู้ควบคุมงานและผู้รับเหมาก่อสร้าง และได้ลงนามในสัญญาผูกพันงบประมาณไปแล้วประมาณ 5,000 ล้านบาทเศษ ขณะนี้ยังเหลือสัญญาหลักอยู่เพียง 1 สัญญา คือ งาน INFRASTRUCTURE และ LANDSCAPE ส่วนใหญ่ที่เหลือมูลค่าประมาณ 999 ล้านบาท เป็นงานก่อสร้างหลักงานสุดท้ายของโครงการ และงานย่อย ๆ ที่เชื่อมโยงกับงานก่อสร้างหลัก ขณะนี้อยู่ในระหว่างตัดสินผลการประกวดราคา กระทรวงการคลังได้ประสานงานกับบริษัทที่ปรึกษา TRKT เพื่อสรุปค่าใช้จ่ายทั้งหมดของโครงการฯ รวมทั้งสิ่งก่อสร้างชั่วคราว และวัสดุอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่จำเป็นของโครงการที่อยู่ในความรับผิดชอบของโครงการเพื่อจัดทำประมาณการรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 ปรากฏว่างบประมาณในการก่อสร้างได้เพิ่มขึ้นจากเดิมอีก 1,065,753,090 บาทเป็นงบประมาณของโครงการฯ รวมทั้งสิ้น 6,640,912,790 บาท อันจะทำให้วงเงินของโครงการเกินวงเงินงบประมาณเดิมขณะที่การดำเนินการจัดหาคู่สัญญาต่าง ๆ ใกล้จะครบหมดแล้วนั้น คณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ ครั้งที่ 13ได้มีหนังสือแจ้งมาว่า ให้ระงับการก่อสร้างสนามซอฟท์บอลที่ศูนย์รังสิต มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ซึ่งกระทรวงการคลังโดยคณะกรรมการอำนวยการก่อสร้างฯ ได้มีหนังสือแจ้งกลับไปขอให้ทบทวนเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง เนื่องจากหากระงับการก่อสร้างที่ศูนย์รังสิตฯ จะต้องมีการปรับเปลี่ยนแก้ไขระบบ INFRASTRUCTURE อย่างแน่นอน และอาจเกิดปัญหาเรื่องระยะเวลาแล้วเสร็จของงานก่อสร้าง อีกทั้งสิ่งที่กระทรวงการคลังดำเนินการ ก็เป็นเรื่องที่คณะรัฐมนตรีมอบหมายภารกิจให้ปฏิบัติการเปลี่ยนแปลงงานก่อสร้างสนามกีฬานี้ก็ควรที่คณะรัฐมนตรีจะเป็นผู้มีมติให้เปลี่ยนแปลง
โดยสรุปการดำเนินการก่อสร้างยังเป็นไปตามแผนงาน ที่กำหนดแล้วเสร็จทั้งโครงการ 6 เดือนก่อนการแข่งขัน คือภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2541
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 28 มกราคม 2540--