ทำเนียบรัฐบาล--29 ธ.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบแนวทางปฏิบัติการจัดเก็บภาษีบำรุงองค์การบริหารส่วนจังหวัดจากสถานค้าปลีกน้ำมันและยาสูบ รวม 6 ประการ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยมอบให้กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการคลังรับแนวทางการปฏิบัติฯดังกล่าว ไปดำเนินการต่อไป ดังนี้
1. ให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดออกข้อบัญญัติเพื่อเรียกเก็บภาษีบำรุงองค์การบริหารส่วนจังหวัดจากสถานค้าปลีกน้ำมันเบนซินและน้ำมันที่คล้ายกัน น้ำมันดีเซลและน้ำมันที่คล้ายกัน ลิตรละ 4.54 สตางค์ และสถานค้าปลีกยาสูบ มวนละ 4.54 สตางค์โดยมอบให้กรมสรรพสามิตจัดเก็บแทน โดยยาสูบเรียกเก็บเฉพาะยาสูบประเภทซิกาแรตและบุหรี่ซิการ์ และไม่เรียกเก็บจากก๊าซ
2. ให้กรมสรรพสามิตตกลงเรียกเก็บภาษีบำรุงองค์การบริหารส่วนจังหวัดแทนองค์การบริหารส่วนจังหวัด โดยคิดค่าใช้จ่ายตามอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวงซึ่งออกตามความในมาตรา 71 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัดฯ
3. ในการดำเนินการตามข้อ 1 กระทรวงการคลังต้องออกกฎกระทรวงและระเบียบ ดังนี้
1) กฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. 2509 เพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์ และวิธีการขออนุญาตการออกใบอนุญาตและเงื่อนไขว่าด้วยการรับยาสูบมาขาย การขาย หรือการนำแสดงออกเพื่อขาย
2) อธิบดีกรมสรรพสามิตปรับปรุงประกาศ เรื่อง กำหนดราคายาสูบ โดยเพิ่มราคาจำหน่ายปลีกยาสูบเท่ากับภาษีบำรุงองค์การบริหารส่วนจังหวัดเรียกเก็บ
3) แก้ไขปรับปรุงระเบียบกรมสรรพสามิตว่าด้วยการเก็บและขนย้ายน้ำมัน
4. ภาษีบำรุงองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่จัดเก็บได้ เมื่อกรมสรรพสามิตหักค่าใช้จ่ายตามอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวงซึ่งออกตามความในมาตรา 71 แล้ว จึงนำส่งให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด
5. ให้กรมสรรพสามิตและกรมการปกครองหารือร่วมกันในการกำหนดแนวทางปฏิบัติจัดเก็บภาษีบำรุงองค์การบริหารส่วนจังหวัดจากน้ำมันฯ และยาสูบ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการปฏิบัติ
6. การเรียกเก็บภาษีบำรุงองค์การบริหารส่วนจังหวัดนี้ จะดำเนินการเมื่อได้เตรียมการเสร็จสิ้น และองค์การบริหารส่วนจังหวัดได้ประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับประชาชนอย่างกว้างขวางแล้ว
นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติยาสูบพ.ศ. 2509 (ปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการขออนุญาต การออกใบอนุญาต และเงื่อนไขว่าด้วยการรับยาสูบมาขาย) และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
1. กำหนดให้ผู้ได้รับใบอนุญาตขายยาสูบหรือนำยาสูบออกแสดงเพื่อขายประเภทขายโดยไม่จำกัดจำนวนและประเภทขายครั้งละไม่เกิน 20,000 มวน ต้องแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับปริมาณยาสูบตลอดจนชื่อ สถานที่ตั้งร้านค้าที่ขายให้แก่ผู้รับใบอนุญาตขายยาสูบหรือนำยาสูบแสดงออกเพื่อขายประเภทขายครั้งละไม่เกิน 1,000 มวน ในเขตองค์การบริหารส่วนจังหวัด
2. กำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตขายยาสูบหรือนำยาสูบแสดงออกเพื่อขายประเภทขายครั้งละไม่เกิน 1,000 มวน ในเขตองค์การบริหารส่วนจังหวัด ต้องจัดทำบัญชีแสดงรายการปริมาณยาสูบที่ได้มาและจำหน่ายไปเป็นรายเดือนตามแบบที่อธิบดีกำหนด ตลอดจนยื่นแบบรายการภาษีและชำระภาษีบำรุงองค์การบริหารส่วนจังหวัดสำหรับยาสูบต่อสรรพสามิตอำเภอ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 29 ธันวาคม 2541--
คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบแนวทางปฏิบัติการจัดเก็บภาษีบำรุงองค์การบริหารส่วนจังหวัดจากสถานค้าปลีกน้ำมันและยาสูบ รวม 6 ประการ ตามที่กระทรวงมหาดไทยเสนอ โดยมอบให้กระทรวงมหาดไทย และกระทรวงการคลังรับแนวทางการปฏิบัติฯดังกล่าว ไปดำเนินการต่อไป ดังนี้
1. ให้องค์การบริหารส่วนจังหวัดออกข้อบัญญัติเพื่อเรียกเก็บภาษีบำรุงองค์การบริหารส่วนจังหวัดจากสถานค้าปลีกน้ำมันเบนซินและน้ำมันที่คล้ายกัน น้ำมันดีเซลและน้ำมันที่คล้ายกัน ลิตรละ 4.54 สตางค์ และสถานค้าปลีกยาสูบ มวนละ 4.54 สตางค์โดยมอบให้กรมสรรพสามิตจัดเก็บแทน โดยยาสูบเรียกเก็บเฉพาะยาสูบประเภทซิกาแรตและบุหรี่ซิการ์ และไม่เรียกเก็บจากก๊าซ
2. ให้กรมสรรพสามิตตกลงเรียกเก็บภาษีบำรุงองค์การบริหารส่วนจังหวัดแทนองค์การบริหารส่วนจังหวัด โดยคิดค่าใช้จ่ายตามอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวงซึ่งออกตามความในมาตรา 71 วรรคหนึ่ง แห่งพระราชบัญญัติองค์การบริหารส่วนจังหวัดฯ
3. ในการดำเนินการตามข้อ 1 กระทรวงการคลังต้องออกกฎกระทรวงและระเบียบ ดังนี้
1) กฎกระทรวงออกตามความในพระราชบัญญัติยาสูบ พ.ศ. 2509 เพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์ และวิธีการขออนุญาตการออกใบอนุญาตและเงื่อนไขว่าด้วยการรับยาสูบมาขาย การขาย หรือการนำแสดงออกเพื่อขาย
2) อธิบดีกรมสรรพสามิตปรับปรุงประกาศ เรื่อง กำหนดราคายาสูบ โดยเพิ่มราคาจำหน่ายปลีกยาสูบเท่ากับภาษีบำรุงองค์การบริหารส่วนจังหวัดเรียกเก็บ
3) แก้ไขปรับปรุงระเบียบกรมสรรพสามิตว่าด้วยการเก็บและขนย้ายน้ำมัน
4. ภาษีบำรุงองค์การบริหารส่วนจังหวัดที่จัดเก็บได้ เมื่อกรมสรรพสามิตหักค่าใช้จ่ายตามอัตราที่กำหนดในกฎกระทรวงซึ่งออกตามความในมาตรา 71 แล้ว จึงนำส่งให้แก่องค์การบริหารส่วนจังหวัด
5. ให้กรมสรรพสามิตและกรมการปกครองหารือร่วมกันในการกำหนดแนวทางปฏิบัติจัดเก็บภาษีบำรุงองค์การบริหารส่วนจังหวัดจากน้ำมันฯ และยาสูบ เพื่อให้เกิดความชัดเจนในการปฏิบัติ
6. การเรียกเก็บภาษีบำรุงองค์การบริหารส่วนจังหวัดนี้ จะดำเนินการเมื่อได้เตรียมการเสร็จสิ้น และองค์การบริหารส่วนจังหวัดได้ประชาสัมพันธ์ทำความเข้าใจกับประชาชนอย่างกว้างขวางแล้ว
นอกจากนี้ คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในพระราชบัญญัติยาสูบพ.ศ. 2509 (ปรับปรุงหลักเกณฑ์ วิธีการขออนุญาต การออกใบอนุญาต และเงื่อนไขว่าด้วยการรับยาสูบมาขาย) และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้ โดยมีสาระสำคัญ ดังนี้
1. กำหนดให้ผู้ได้รับใบอนุญาตขายยาสูบหรือนำยาสูบออกแสดงเพื่อขายประเภทขายโดยไม่จำกัดจำนวนและประเภทขายครั้งละไม่เกิน 20,000 มวน ต้องแจ้งรายละเอียดเกี่ยวกับปริมาณยาสูบตลอดจนชื่อ สถานที่ตั้งร้านค้าที่ขายให้แก่ผู้รับใบอนุญาตขายยาสูบหรือนำยาสูบแสดงออกเพื่อขายประเภทขายครั้งละไม่เกิน 1,000 มวน ในเขตองค์การบริหารส่วนจังหวัด
2. กำหนดให้ผู้รับใบอนุญาตขายยาสูบหรือนำยาสูบแสดงออกเพื่อขายประเภทขายครั้งละไม่เกิน 1,000 มวน ในเขตองค์การบริหารส่วนจังหวัด ต้องจัดทำบัญชีแสดงรายการปริมาณยาสูบที่ได้มาและจำหน่ายไปเป็นรายเดือนตามแบบที่อธิบดีกำหนด ตลอดจนยื่นแบบรายการภาษีและชำระภาษีบำรุงองค์การบริหารส่วนจังหวัดสำหรับยาสูบต่อสรรพสามิตอำเภอ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 29 ธันวาคม 2541--