ทำเนียบรัฐบาล--21 เม.ย.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีอนุมัติในหลักการเงินงบกลาง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำนวนไม่เกิน 224.15 ในการเตรียมการช่วยเหลือเกษตรกรสภาวะภัยแล้ง ปี พ.ศ. 2541 ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยให้ทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ ดังนี้
1. จำนวน 36.7 ล้านบาท ให้กรมชลประทาน เพื่อทำการสูบน้ำช่วยเหลือพื้นที่ขาดแคลนน้ำเป็นค่าน้ำมันเชื้อเพลิง เครื่องสูบน้ำและรถบรรทุกน้ำ วงเงิน 36.7 ล้านบาท โดยมีแผนสนับสนุนเครื่องสูบน้ำเพื่อการปลูกพืชฤดูแล้งทั่วประเทศไว้ประมาณ 1,700 เครื่อง และเพื่อสนับสนุนการอุปโภคบริโภค 200 เครื่อง รถบรรทุกน้ำ 90 คัน
2. จำนวน 187.45 ล้านบาท ให้กรมส่งเสริมการเกษตร เพื่อเตรียมจัดหาพันธุ์ข้าวและวัสดุเคมีเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้ทันฤดูฝนที่จะถึง โดยได้กำหนดพื้นที่เป้าหมายการปลูกพืชฤดูแล้งทั้งสิ้น 8.3 ล้านไร่ แยกเป็นข้าวนาปรัง 4.6 ล้านไร่ และพืชไร่พืชผัก 3.7ล้านไร่ โดยเฉพาะในเขต 22 จังหวัด ในลุ่มน้ำเจ้าพระยามีการสูบน้ำไปใช้เพื่อการเพาะปลูกดังกล่าว จึงจำเป็นต้องให้ความช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่เสียหายเหล่านี้ โดยการชดเชยพันธุ์ข้าว สารเคมี และปุ๋ยเคมี
สำหรับแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งปี พ.ศ. 2541 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้การจัดสรรน้ำที่มีอยู่และการใช้น้ำให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อป้องกันความเสียหาย และบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกร โดยได้กำหนดเป้าหมายการดำเนินงาน ดังนี้
1) เขื่อนที่ต้องระมัดระวังการใช้น้ำ เนื่องจากมีน้ำต้นทุนน้อยมี 10 เขื่อน
2) เป้าหมายการปลูกพืชฤดูแล้ง พ.ศ. 2541 รวมทั้งสิ้น 8.3 ล้านไร่
3) พื้นที่ล่อแหลมในการขาดแคลนน้ำ คือ 22 จังหวัด เขตโครงการชลประทานพิษณุโลกและเจ้าพระยาใหญ่ และ 3 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
และมีมาตรการ ดังนี้
1) การจัดสรรน้ำและการส่งน้ำโดยกำหนดเป้าหมายการจัดสรรน้ำในเขื่อน ที่สำคัญ ๆ เพื่อให้สามารถติดตามสถานการณ์น้ำต้นทุนและป้องกันปัญหาได้ทันเหตุการณ์กรณีขาดแคลนน้ำ
2) การใช้น้ำ กำหนดให้กรมส่งเสริมการเกษตรและกรมชลประทานติดตามและรายงานพื้นที่พืชฤดูแล้งในแผนและนอกแผนเป็นระยะ ๆ โดยเน้นพื้นที่ล่อแหลม
3) การหาน้ำเพิ่มเติม โดยการจัดทำฝนหลวง และปรับปรุงบ่อตอกที่มีอยู่เพื่อเป็นแหล่งน้ำสำรอง
4) การป้องกันน้ำเค็ม กำหนดการระบายน้ำให้เพียงพอที่จะผลักดันน้ำเค็ม และการเตรียมการสร้างทำนบกั้นน้ำเค็ม
5) การประหยัดน้ำ รณรงค์ให้มีการประหยัดน้ำ
6) การช่วยเหลือ เตรียมรถบรรทุกน้ำ และเครื่องสูบน้ำ
7) การประชาสัมพันธ์ เน้นแจ้งให้เกษตรกรทราบสถานการณ์น้ำและกำหนดการส่งน้ำ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 21 เมษายน 2541--
คณะรัฐมนตรีอนุมัติในหลักการเงินงบกลาง ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2541 รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็นให้กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ จำนวนไม่เกิน 224.15 ในการเตรียมการช่วยเหลือเกษตรกรสภาวะภัยแล้ง ปี พ.ศ. 2541 ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ โดยให้ทำความตกลงในรายละเอียดกับสำนักงบประมาณ ดังนี้
1. จำนวน 36.7 ล้านบาท ให้กรมชลประทาน เพื่อทำการสูบน้ำช่วยเหลือพื้นที่ขาดแคลนน้ำเป็นค่าน้ำมันเชื้อเพลิง เครื่องสูบน้ำและรถบรรทุกน้ำ วงเงิน 36.7 ล้านบาท โดยมีแผนสนับสนุนเครื่องสูบน้ำเพื่อการปลูกพืชฤดูแล้งทั่วประเทศไว้ประมาณ 1,700 เครื่อง และเพื่อสนับสนุนการอุปโภคบริโภค 200 เครื่อง รถบรรทุกน้ำ 90 คัน
2. จำนวน 187.45 ล้านบาท ให้กรมส่งเสริมการเกษตร เพื่อเตรียมจัดหาพันธุ์ข้าวและวัสดุเคมีเพื่อช่วยเหลือเกษตรกรให้ทันฤดูฝนที่จะถึง โดยได้กำหนดพื้นที่เป้าหมายการปลูกพืชฤดูแล้งทั้งสิ้น 8.3 ล้านไร่ แยกเป็นข้าวนาปรัง 4.6 ล้านไร่ และพืชไร่พืชผัก 3.7ล้านไร่ โดยเฉพาะในเขต 22 จังหวัด ในลุ่มน้ำเจ้าพระยามีการสูบน้ำไปใช้เพื่อการเพาะปลูกดังกล่าว จึงจำเป็นต้องให้ความช่วยเหลือเกษตรกรในพื้นที่เสียหายเหล่านี้ โดยการชดเชยพันธุ์ข้าว สารเคมี และปุ๋ยเคมี
สำหรับแผนปฏิบัติการป้องกันและแก้ไขปัญหาภัยแล้งปี พ.ศ. 2541 มีวัตถุประสงค์เพื่อให้การจัดสรรน้ำที่มีอยู่และการใช้น้ำให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ และเพื่อป้องกันความเสียหาย และบรรเทาปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกร โดยได้กำหนดเป้าหมายการดำเนินงาน ดังนี้
1) เขื่อนที่ต้องระมัดระวังการใช้น้ำ เนื่องจากมีน้ำต้นทุนน้อยมี 10 เขื่อน
2) เป้าหมายการปลูกพืชฤดูแล้ง พ.ศ. 2541 รวมทั้งสิ้น 8.3 ล้านไร่
3) พื้นที่ล่อแหลมในการขาดแคลนน้ำ คือ 22 จังหวัด เขตโครงการชลประทานพิษณุโลกและเจ้าพระยาใหญ่ และ 3 จังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือ
และมีมาตรการ ดังนี้
1) การจัดสรรน้ำและการส่งน้ำโดยกำหนดเป้าหมายการจัดสรรน้ำในเขื่อน ที่สำคัญ ๆ เพื่อให้สามารถติดตามสถานการณ์น้ำต้นทุนและป้องกันปัญหาได้ทันเหตุการณ์กรณีขาดแคลนน้ำ
2) การใช้น้ำ กำหนดให้กรมส่งเสริมการเกษตรและกรมชลประทานติดตามและรายงานพื้นที่พืชฤดูแล้งในแผนและนอกแผนเป็นระยะ ๆ โดยเน้นพื้นที่ล่อแหลม
3) การหาน้ำเพิ่มเติม โดยการจัดทำฝนหลวง และปรับปรุงบ่อตอกที่มีอยู่เพื่อเป็นแหล่งน้ำสำรอง
4) การป้องกันน้ำเค็ม กำหนดการระบายน้ำให้เพียงพอที่จะผลักดันน้ำเค็ม และการเตรียมการสร้างทำนบกั้นน้ำเค็ม
5) การประหยัดน้ำ รณรงค์ให้มีการประหยัดน้ำ
6) การช่วยเหลือ เตรียมรถบรรทุกน้ำ และเครื่องสูบน้ำ
7) การประชาสัมพันธ์ เน้นแจ้งให้เกษตรกรทราบสถานการณ์น้ำและกำหนดการส่งน้ำ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 21 เมษายน 2541--