คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามมติคณะกรรมการนโยบายทุนรัฐวิสาหกิจ (กนท.) เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2548 ดังนี้
1. เห็นชอบการแปลงทุนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นทุนเรือนหุ้น และจัดตั้งบริษัท กฟผ. จำกัด (มหาชน) (บมจ.กฟผ.) โดยมีทุนจดทะเบียน จำนวน 60,000 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นจำนวน 6,000 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 10 บาทต่อหุ้น และรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดตั้งบริษัทตามมาตรา 19 แห่งพระราชบัญญัติทุนรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2542 รวมทั้งประเด็นต่าง ๆ ตามที่คณะกรรมการเตรียมการจัดตั้งบริษัทของ กฟผ.เสนอ
2. เห็นชอบรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดตั้งบริษัทตามมาตรา 19 ส่วนที่เพิ่มเติม ดังนี้
2.1 เห็นชอบในหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดอำนาจ สิทธิ และประโยชน์ของบริษัท กฟผ.จำกัด (มหาชน) พ.ศ. .... ที่ออกตามความในมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติทุนรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2542 และร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเงื่อนเวลายกเลิกกฎหมายว่าด้วยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของรองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) ประธาน กนท. เกี่ยวกับกำหนดวันใช้บังคับร่างพระราชกฤษฎีกา และวันยกเลิกกฎหมายว่าด้วยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ที่เห็นควรให้กำหนดวันใช้บังคับร่างพระราชกฤษฎีกา ทั้ง 2 ฉบับ ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป และให้พระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2511 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เป็นอันยกเลิกตั้งแต่วันที่ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเงื่อนเวลายกเลิกกฎหมายว่าด้วยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. .... มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป รวมทั้งรับข้อสังเกตของ กนท.เกี่ยวกับชื่อของคณะกรรมการกิจการผลิตไฟฟ้า เพื่อมิให้เกิดความสับสนกับชื่อคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการไฟฟ้าตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการไฟฟ้า พ.ศ. .... แล้วดำเนินการต่อไปได้
2.2 ในการจัดสรรผลประโยชน์ให้แก่พนักงานและผู้บริหารระดับสูงของ กฟผ. ให้พนักงานที่เข้าร่วมโครงการออกจากงานด้วยความยินดีทั้งสองฝ่าย (Mutual Separation Program) ได้รับการจัดสรรหุ้นภายใต้ หลักเกณฑ์เดียวกันด้วย
2.3 ให้กรมธนารักษ์และ บจม.กฟผ. สามารถแก้ไขร่างบันทึกความเข้าใจตามที่ กนท. และคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบ เพื่อให้สอดคล้องกับอำนาจของกรมธนารักษ์ในการลงนามในบันทึกความเข้าใจดังกล่าว ตามที่กำหนดในกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยไม่ส่งผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต
3. เห็นชอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานกำกับดูแลด้านนโยบายของ บจม.กฟผ.
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 10 พฤษภาคม 2548--จบ--
1. เห็นชอบการแปลงทุนของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เป็นทุนเรือนหุ้น และจัดตั้งบริษัท กฟผ. จำกัด (มหาชน) (บมจ.กฟผ.) โดยมีทุนจดทะเบียน จำนวน 60,000 ล้านบาท ประกอบด้วยหุ้นจำนวน 6,000 ล้านหุ้น มูลค่าที่ตราไว้ 10 บาทต่อหุ้น และรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดตั้งบริษัทตามมาตรา 19 แห่งพระราชบัญญัติทุนรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2542 รวมทั้งประเด็นต่าง ๆ ตามที่คณะกรรมการเตรียมการจัดตั้งบริษัทของ กฟผ.เสนอ
2. เห็นชอบรายละเอียดเกี่ยวกับการจัดตั้งบริษัทตามมาตรา 19 ส่วนที่เพิ่มเติม ดังนี้
2.1 เห็นชอบในหลักการร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดอำนาจ สิทธิ และประโยชน์ของบริษัท กฟผ.จำกัด (มหาชน) พ.ศ. .... ที่ออกตามความในมาตรา 26 แห่งพระราชบัญญัติทุนรัฐวิสาหกิจ พ.ศ. 2542 และร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเงื่อนเวลายกเลิกกฎหมายว่าด้วยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. .... รวม 2 ฉบับ และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา โดยให้รับความเห็นของรองนายกรัฐมนตรี (นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์) ประธาน กนท. เกี่ยวกับกำหนดวันใช้บังคับร่างพระราชกฤษฎีกา และวันยกเลิกกฎหมายว่าด้วยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย ที่เห็นควรให้กำหนดวันใช้บังคับร่างพระราชกฤษฎีกา ทั้ง 2 ฉบับ ตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป และให้พระราชบัญญัติการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. 2511 และที่แก้ไขเพิ่มเติม เป็นอันยกเลิกตั้งแต่วันที่ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดเงื่อนเวลายกเลิกกฎหมายว่าด้วยการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย พ.ศ. .... มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป รวมทั้งรับข้อสังเกตของ กนท.เกี่ยวกับชื่อของคณะกรรมการกิจการผลิตไฟฟ้า เพื่อมิให้เกิดความสับสนกับชื่อคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการไฟฟ้าตามระเบียบสำนักนายกรัฐมนตรีว่าด้วยคณะกรรมการกำกับดูแลกิจการไฟฟ้า พ.ศ. .... แล้วดำเนินการต่อไปได้
2.2 ในการจัดสรรผลประโยชน์ให้แก่พนักงานและผู้บริหารระดับสูงของ กฟผ. ให้พนักงานที่เข้าร่วมโครงการออกจากงานด้วยความยินดีทั้งสองฝ่าย (Mutual Separation Program) ได้รับการจัดสรรหุ้นภายใต้ หลักเกณฑ์เดียวกันด้วย
2.3 ให้กรมธนารักษ์และ บจม.กฟผ. สามารถแก้ไขร่างบันทึกความเข้าใจตามที่ กนท. และคณะรัฐมนตรีได้มีมติเห็นชอบ เพื่อให้สอดคล้องกับอำนาจของกรมธนารักษ์ในการลงนามในบันทึกความเข้าใจดังกล่าว ตามที่กำหนดในกฎหมายที่เกี่ยวข้อง โดยไม่ส่งผลกระทบต่อค่าไฟฟ้าอย่างมีนัยสำคัญในอนาคต
3. เห็นชอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงานกำกับดูแลด้านนโยบายของ บจม.กฟผ.
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 10 พฤษภาคม 2548--จบ--