คณะรัฐมนตรีรับทราบตามที่กระทรวงพลังานเสนอ แนวทาง “การสร้างความเป็นไทด้านพลังงาน (Energy Independent)” เพื่อรับมือกับวิกฤตราคาน้ำมันแพง โดยเน้นการพึ่งพาตนเอง ลดการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศซึ่งมีราคาสูง โดยมีมาตรการที่สำคัญ ดังนี้
1. ขยายผลการส่งเสริมการใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์ (NGV) สู่รูปธรรมโดยเร็วปัจจุบันราคา NGV 7.96 บาท/กก. (หรือประมาณ 8.38 บาท/ลิตร) ถูกกว่าน้ำมันเบนซินกว่า 2 เท่า และมีสถานีบริการ 28 สถานี และจะขยายเป็น 60 สถานีภายในปี 2548 ส่งเสริมให้รถยนต์ของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และรถที่ใช้ในราชการทหาร ติดตั้งอุปกรณ์สำหรับใช้ก๊าซ NGV โดย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จะทำการติดตั้งอุปกรณ์ให้ก่อน และผ่อนใช้คืนระยะยาวโดยหักจากก๊าซค่าที่เติมพิจารณามาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการใช้รถ NGV โดยลดภาษีรถยนต์ประจำปีให้กับรถยนต์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติมอบหมายให้ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เร่งรัดการขยายสถานีจำหน่ายก๊าซ NGV ให้ครอบคลุม ทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยขอความร่วมมือจากส่วนราชการในการใช้ที่ดินก่อสร้างสถานีจำหน่ายก๊าซ NGV เช่น ที่ดินในเขตทหาร การรถไฟแห่งประเทศไทย และส่วนราชการอื่นที่มีความเหมาะสมมอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก พิจารณาแนวทางกำหนดให้รถแท็กซี่ใหม่ที่จดทะเบียนต้องเป็นรถยนต์ NGV เท่านั้น
2. ขยายผลการใช้แก๊สโซฮอลล์อย่างยั่งยืนมาตรการราคา ขยายระยะเวลาการใช้มาตรการราคาให้แก๊สโซฮอลล์ 95 มีราคาถูกกว่าน้ำมันเบนซิน 95 ไม่น้อยกว่า 1บาท/ลิตร ซึ่งในปัจจุบันที่ผลต่างราคา 1.50 บาท/ลิตร ทำให้ยอดจำหน่ายแก๊สโซฮอลล์เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าตัวจากยอดขายรวม 8.6 ล้านลิตรในเดือนมกราคม 2548 เป็นเกือบ 19 ล้านลิตรในเดือนกุมภาพันธ์ 2548 การขยายสถานีบริการ ขยายสถานีจำหน่ายแก๊สโซฮอลล์ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 700 สถานี และให้ ปตท. เปลี่ยนสถานีบริการน้ำมันของ ปตท. ที่ตั้งอยู่ในบริเวณส่วนราชการจากเบนซิน 95 เป็น แก๊สโซฮอลล์ 95 การประชาสัมพันธ์สร้างความเชื่อมั่น ร่วมมือบริษัทรถยนต์ โดยเฉพาะผู้ประกอบการศูนย์บริการรถยนต์ต่าง ๆ ในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคในคุณสมบัติน้ำมันแก๊สโซฮอลล์
3. การส่งเสริมการผลิตและการใช้ไบโอดีเซลร่วมกับกระทรวงเกษตรฯ จัดหาพื้นที่ เมล็ดพันธุ์ ระบบชลประทานเพื่อให้สามารถพัฒนาการปลูกปาล์มน้ำมันเพื่อใช้ผลิตไบโอดีเซลได้อย่างครบวงจรเร่งรัดการจัดตั้งนิติบุคคลเฉพาะกิจ (SPV) เพื่อบริหารจัดการและขยายตลาดไบโอดีเซล
4. เร่งรัดมาตรการส่งเสริมการเปลี่ยนมาใช้รถโดยสารสาธารณะและระบบขนส่งมวลชน การรณรงค์ให้ประชาชนใช้รถโดยสารสาธารณะและระบบขนส่งมวลชน เร่งรัดและขยายผลการประชาสัมพันธ์ ดังกล่าวควบคู่กับหน่วยงานรัฐอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) และกรมประชาสัมพันธ์ เป็นต้น
5. รณรงค์มาตรการลดการใช้รถบรรทุกเที่ยวเปล่าอย่างเข้มข้นร่วมกับกรมการขนส่งทางบกขยายผลการให้บริการเว็บไซต์ www.thaitruckcenter.com โดยในเบื้องต้นได้ตั้งเป้าหมายในการลดการวิ่งรถบรรทุกเที่ยวเปล่า 6 % ใน 5 ปี ซึ่งจะสามารถประหยัดการใช้น้ำมันได้ 787 ล้านลิตรทั้งนี้ควรมีการส่งเสริมการให้บริการดังกล่าวในวงกว้างขึ้น
6. การใช้มาตรการภาษีในภาคอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานร่วมกับกระทรวงการคลังและกรมสรรพากรพิจารณามาตรการภาษีเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน โดยการนำผลประหยัดที่ได้จากการประหยัดพลังงานมาเป็นส่วนลดภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมประชาสัมพันธ์ให้ภาคธุรกิจเอกชน และโรงงานอุตสาหกรรมโดยเฉพาะธุรกิจ SMEs ได้รับทราบนโยบายและวิธีการ ในการนำมาตรการภาษีมาใช้เป็นแรงจูงใจ (Tax Incentive) ในการประหยัดพลังงาน ตามแนวทางที่กระทรวงพลังงานและกระทรวงการคลังได้ตกลงไว้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 8 มีนาคม 2548--จบ--
1. ขยายผลการส่งเสริมการใช้ก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์ (NGV) สู่รูปธรรมโดยเร็วปัจจุบันราคา NGV 7.96 บาท/กก. (หรือประมาณ 8.38 บาท/ลิตร) ถูกกว่าน้ำมันเบนซินกว่า 2 เท่า และมีสถานีบริการ 28 สถานี และจะขยายเป็น 60 สถานีภายในปี 2548 ส่งเสริมให้รถยนต์ของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และรถที่ใช้ในราชการทหาร ติดตั้งอุปกรณ์สำหรับใช้ก๊าซ NGV โดย บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จะทำการติดตั้งอุปกรณ์ให้ก่อน และผ่อนใช้คืนระยะยาวโดยหักจากก๊าซค่าที่เติมพิจารณามาตรการภาษีเพื่อส่งเสริมการใช้รถ NGV โดยลดภาษีรถยนต์ประจำปีให้กับรถยนต์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติมอบหมายให้ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) เร่งรัดการขยายสถานีจำหน่ายก๊าซ NGV ให้ครอบคลุม ทั่วพื้นที่กรุงเทพมหานครและปริมณฑล โดยขอความร่วมมือจากส่วนราชการในการใช้ที่ดินก่อสร้างสถานีจำหน่ายก๊าซ NGV เช่น ที่ดินในเขตทหาร การรถไฟแห่งประเทศไทย และส่วนราชการอื่นที่มีความเหมาะสมมอบหมายให้กรมการขนส่งทางบก พิจารณาแนวทางกำหนดให้รถแท็กซี่ใหม่ที่จดทะเบียนต้องเป็นรถยนต์ NGV เท่านั้น
2. ขยายผลการใช้แก๊สโซฮอลล์อย่างยั่งยืนมาตรการราคา ขยายระยะเวลาการใช้มาตรการราคาให้แก๊สโซฮอลล์ 95 มีราคาถูกกว่าน้ำมันเบนซิน 95 ไม่น้อยกว่า 1บาท/ลิตร ซึ่งในปัจจุบันที่ผลต่างราคา 1.50 บาท/ลิตร ทำให้ยอดจำหน่ายแก๊สโซฮอลล์เพิ่มขึ้นมากกว่า 2 เท่าตัวจากยอดขายรวม 8.6 ล้านลิตรในเดือนมกราคม 2548 เป็นเกือบ 19 ล้านลิตรในเดือนกุมภาพันธ์ 2548 การขยายสถานีบริการ ขยายสถานีจำหน่ายแก๊สโซฮอลล์ให้ครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งปัจจุบันมีมากกว่า 700 สถานี และให้ ปตท. เปลี่ยนสถานีบริการน้ำมันของ ปตท. ที่ตั้งอยู่ในบริเวณส่วนราชการจากเบนซิน 95 เป็น แก๊สโซฮอลล์ 95 การประชาสัมพันธ์สร้างความเชื่อมั่น ร่วมมือบริษัทรถยนต์ โดยเฉพาะผู้ประกอบการศูนย์บริการรถยนต์ต่าง ๆ ในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นแก่ผู้บริโภคในคุณสมบัติน้ำมันแก๊สโซฮอลล์
3. การส่งเสริมการผลิตและการใช้ไบโอดีเซลร่วมกับกระทรวงเกษตรฯ จัดหาพื้นที่ เมล็ดพันธุ์ ระบบชลประทานเพื่อให้สามารถพัฒนาการปลูกปาล์มน้ำมันเพื่อใช้ผลิตไบโอดีเซลได้อย่างครบวงจรเร่งรัดการจัดตั้งนิติบุคคลเฉพาะกิจ (SPV) เพื่อบริหารจัดการและขยายตลาดไบโอดีเซล
4. เร่งรัดมาตรการส่งเสริมการเปลี่ยนมาใช้รถโดยสารสาธารณะและระบบขนส่งมวลชน การรณรงค์ให้ประชาชนใช้รถโดยสารสาธารณะและระบบขนส่งมวลชน เร่งรัดและขยายผลการประชาสัมพันธ์ ดังกล่าวควบคู่กับหน่วยงานรัฐอื่นที่เกี่ยวข้อง เช่น บริษัท อสมท จำกัด (มหาชน) และกรมประชาสัมพันธ์ เป็นต้น
5. รณรงค์มาตรการลดการใช้รถบรรทุกเที่ยวเปล่าอย่างเข้มข้นร่วมกับกรมการขนส่งทางบกขยายผลการให้บริการเว็บไซต์ www.thaitruckcenter.com โดยในเบื้องต้นได้ตั้งเป้าหมายในการลดการวิ่งรถบรรทุกเที่ยวเปล่า 6 % ใน 5 ปี ซึ่งจะสามารถประหยัดการใช้น้ำมันได้ 787 ล้านลิตรทั้งนี้ควรมีการส่งเสริมการให้บริการดังกล่าวในวงกว้างขึ้น
6. การใช้มาตรการภาษีในภาคอุตสาหกรรมเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานร่วมกับกระทรวงการคลังและกรมสรรพากรพิจารณามาตรการภาษีเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน โดยการนำผลประหยัดที่ได้จากการประหยัดพลังงานมาเป็นส่วนลดภาษีเงินได้นิติบุคคลสำหรับผู้ประกอบการภาคอุตสาหกรรมประชาสัมพันธ์ให้ภาคธุรกิจเอกชน และโรงงานอุตสาหกรรมโดยเฉพาะธุรกิจ SMEs ได้รับทราบนโยบายและวิธีการ ในการนำมาตรการภาษีมาใช้เป็นแรงจูงใจ (Tax Incentive) ในการประหยัดพลังงาน ตามแนวทางที่กระทรวงพลังงานและกระทรวงการคลังได้ตกลงไว้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 8 มีนาคม 2548--จบ--