ทำเนียบรัฐบาล--22 ก.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขบุริมสิทธิ) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว มีสาระสำคัญคือ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวตามที่กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมเสนอเสร็จแล้ว มีการแก้ไขเพิ่มเติม ดังนี้
1. แก้ไขเพิ่มเติมบันทึกหลักการและเหตุผลประกอบร่างพระราชบัญญัติฯ ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยในส่วนหลักการแห่งร่างพระราชบัญญัตินั้น สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกายังคงระบุเลขมาตราที่จะแก้ไขไว้ท้ายหลักการด้วย แม้ว่าข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรซึ่งมีการแก้ไขในปี 2540 ข้อ 93 จะกำหนดเพียงว่าหลักการแห่งร่างพระราชบัญญัตินั้นให้กำหนดโดยชัดแจ้ง โดยไม่ได้กำหนดว่าต้องระบุเลขมาตราที่ต้องการแก้ไขเพิ่มเติมไว้ในหลักการด้วยเหมือนกับข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรฉบับเดิมก็ตามแต่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาแล้วเห็นว่า การระบุเลขมาตราดังกล่าวจะทำให้เห็นขอบเขตของการแก้ไขได้อย่างชัดเจน และแสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ของรัฐบาลในการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ในเรื่องนี้ด้วย จึงสมควรระบุเลขมาตราดังกล่าวไว้
2. แก้ไขวันใช้บังคับในร่างมาตรา 2 โดยกำหนดให้ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2541 เป็นต้นไป แทนที่จะให้มีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับวันใช้บังคับพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ซึ่งเป็นไปตามความประสงค์ของผู้แทนกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม
อนึ่ง ในกรณีที่หากจะมีการเปลี่ยนแปลงวันใช้บังคับพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ก็สมควรแก้ไขวันใช้บังคับตามร่างพระราชบัญญัตินี้ให้สอดคล้องกันด้วย เพื่อมิให้เกิดปัญหาการตีความกฎหมายเกี่ยวกับการใช้บังคับร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้
3. แก้ไขเพิ่มเติมร่างมาตรา 253 (3) โดยตัดหลักการที่กำหนดให้บุริมสิทธิในเงินที่ลูกจ้างมีสิทธิได้รับเพื่อการงานที่ได้ทำให้แก่ลูกหนี้ซึ่งเป็นนายจ้างในอัตราส่วนที่เท่ากับบุริมสิทธิค่าภาษีอากรออก เนื่องจากหลักการดังกล่าวขัดกับหลักสัดส่วนแห่งหนี้ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 280 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ทั้งนี้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 280 บัญญัติว่า "เมื่อบุคคลหลายคนมีบุริมสิทธิในลำดับเสมอกันเหนือทรัพย์อันหนึ่งอันเดียวกัน ท่านให้ต่างคนต่างได้รับชำระหนี้เฉลี่ยตามส่วนมากน้อยแห่งจำนวนที่ตนเป็นเจ้าหนี้"
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 21 กรกฎาคม 2541--
คณะรัฐมนตรีให้ความเห็นชอบร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... (แก้ไขบุริมสิทธิ) ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาเสนอ และให้ส่งคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎรพิจารณา ก่อนนำเสนอสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาต่อไป
ร่างพระราชบัญญัติดังกล่าว มีสาระสำคัญคือ สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาได้ตรวจพิจารณาร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวตามที่กระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคมเสนอเสร็จแล้ว มีการแก้ไขเพิ่มเติม ดังนี้
1. แก้ไขเพิ่มเติมบันทึกหลักการและเหตุผลประกอบร่างพระราชบัญญัติฯ ให้ชัดเจนยิ่งขึ้น โดยในส่วนหลักการแห่งร่างพระราชบัญญัตินั้น สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกายังคงระบุเลขมาตราที่จะแก้ไขไว้ท้ายหลักการด้วย แม้ว่าข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรซึ่งมีการแก้ไขในปี 2540 ข้อ 93 จะกำหนดเพียงว่าหลักการแห่งร่างพระราชบัญญัตินั้นให้กำหนดโดยชัดแจ้ง โดยไม่ได้กำหนดว่าต้องระบุเลขมาตราที่ต้องการแก้ไขเพิ่มเติมไว้ในหลักการด้วยเหมือนกับข้อบังคับการประชุมสภาผู้แทนราษฎรฉบับเดิมก็ตามแต่สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณาแล้วเห็นว่า การระบุเลขมาตราดังกล่าวจะทำให้เห็นขอบเขตของการแก้ไขได้อย่างชัดเจน และแสดงให้เห็นถึงเจตนารมณ์ของรัฐบาลในการแก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ในเรื่องนี้ด้วย จึงสมควรระบุเลขมาตราดังกล่าวไว้
2. แก้ไขวันใช้บังคับในร่างมาตรา 2 โดยกำหนดให้ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2541 เป็นต้นไป แทนที่จะให้มีผลใช้บังคับเมื่อพ้นกำหนดเก้าสิบวันนับแต่วันประกาศในราชกิจจานุเบกษา ทั้งนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับวันใช้บังคับพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ซึ่งเป็นไปตามความประสงค์ของผู้แทนกระทรวงแรงงานและสวัสดิการสังคม
อนึ่ง ในกรณีที่หากจะมีการเปลี่ยนแปลงวันใช้บังคับพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน พ.ศ. 2541 ก็สมควรแก้ไขวันใช้บังคับตามร่างพระราชบัญญัตินี้ให้สอดคล้องกันด้วย เพื่อมิให้เกิดปัญหาการตีความกฎหมายเกี่ยวกับการใช้บังคับร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้
3. แก้ไขเพิ่มเติมร่างมาตรา 253 (3) โดยตัดหลักการที่กำหนดให้บุริมสิทธิในเงินที่ลูกจ้างมีสิทธิได้รับเพื่อการงานที่ได้ทำให้แก่ลูกหนี้ซึ่งเป็นนายจ้างในอัตราส่วนที่เท่ากับบุริมสิทธิค่าภาษีอากรออก เนื่องจากหลักการดังกล่าวขัดกับหลักสัดส่วนแห่งหนี้ตามที่บัญญัติไว้ในมาตรา 280 แห่งประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
ทั้งนี้ ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 280 บัญญัติว่า "เมื่อบุคคลหลายคนมีบุริมสิทธิในลำดับเสมอกันเหนือทรัพย์อันหนึ่งอันเดียวกัน ท่านให้ต่างคนต่างได้รับชำระหนี้เฉลี่ยตามส่วนมากน้อยแห่งจำนวนที่ตนเป็นเจ้าหนี้"
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 21 กรกฎาคม 2541--