มท. เสนอว่า เนื่องจากในปัจจุบันการออกแบบและการก่อสร้างอาคารมีการเปลี่ยนแปลงรูปแบบและการใช้อาคาร โดยเจ้าของอาคารประสงค์จะก่อสร้างหรือดัดแปลงอาคารให้มีการเดินเชื่อมระหว่างอาคาร เพื่อก่อให้เกิดความปลอดภัยแก่ประชาชนและอำนวยความสะดวกแก่ผู้มาใช้บริการ โดยเฉพาะในอาคารสูง อาคารขนาดใหญ่พิเศษ อาคารขนาดใหญ่ รวมตลอดถึงอาคารสาธารณะ เช่น โรงพยาบาล ที่มีการเคลื่อนย้ายผู้ป่วยระหว่างอาคาร ก็อาจมีความจำเป็นต้องก่อสร้างหรือดัดแปลงให้มีทางเดินเชื่อมระหว่างอาคาร ซึ่งกฎหมายว่าด้วยการควบคุมอาคารยังไม่มีข้อกำหนดในเรื่องนี้ไว้ อันอาจก่อให้เกิดปัญหาในการปฏิบัติตามกฎหมาย จึงได้เสนอร่างกฎกระทรวงดังกล่าวมาเพื่อดำเนินการ
สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง
แก้ไขเพิ่มเติมข้อกำหนดเกี่ยวกับทางเดินเชื่อมระหว่างอาคารในกฎกระทรวงฉบับที่ 55 (พ.ศ. 2543) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 ดังนี้
1. กำหนดให้แก้ไขชื่อส่วนที่ 4 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 55 (พ.ศ. 2543) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 จาก “ส่วนที่ 4 บันไดหนีไฟ” เป็น “ส่วนที่ 4 บันไดหนีไฟและทางเดินเชื่อมระหว่างอาคาร”
2. กำหนดให้เพิ่มเติมข้อ 32/1 ในส่วนที่เกี่ยวกับลักษณะของทางเดินเชื่อมระหว่างอาคาร โดยต้องมีความกว้างไม่น้อยกว่า 3 เมตร แต่ไม่เกิน 9 เมตร และมีระยะห่างในชั้นเดียวกันไม่น้อยกว่า 30 เมตร บริเวณทางเข้าออกระหว่างอาคารกับทางเดินเชื่อมต้องไม่มีสิ่งกีดขวาง และกรณีที่มีประตูต้องสามารถเปิดได้ตลอดเวลา และหากทางเดินเชื่อมมีหลังคาคลุม มีผนังปิดตลอดแนวโดยไม่สามารถระบายอากาศได้ ต้องมีประตูที่ทำด้วยวัสดุทนไฟได้ไม่น้อยกว่า 1 ชั่วโมง ที่สามารถปิดกั้นเปลวไฟ หรือควันไฟมิให้เข้าไปในบริเวณทางเดินเชื่อมนั้นได้ ในกรณีเกิดเพลิงไหม้ วัสดุที่ใช้ก่อสร้างโครงสร้างหลักของทางเดินเชื่อมฯ ต้องมีอัตราการทนไฟไม่น้อยกว่า 2 ชั่วโมงเช่นกัน
3. กำหนดเพิ่มเติมวรรคสองของข้อ 33 แห่งกฎกระทรวง ฉบับที่ 55 (พ.ศ.2543) ออกตามความในพระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 โดยกำหนดให้การสร้างทางเดินเชื่อมระหว่างอาคาร ในกรณีที่มีความสูงจากระดับพื้นดินหรือถนนใต้ทางเดินเชื่อมถึงส่วนที่ต่ำสุดของทางเดินเชื่อมไม่น้อยกว่า 5 เมตร และทางเดินเชื่อมตามข้อ 32/1 ที่สร้างในบริเวณที่ว่างของอาคาร และสูงจากระดับพื้นดินหรือถนนใต้ทางเดินเชื่อมถึงส่วนที่ต่ำสุดของทางเดินเชื่อมไม่น้อยกว่า 5 เมตร ยังคงให้ถือเป็นที่ว่าง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 4 สิงหาคม 2558--