ทำเนียบรัฐบาล--3 พ.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ในการให้ความช่วยเหลือทางด้านเทคนิคประมงให้กับทางการพม่าในการจัดตั้งสถานีสาธิตการเพาะเลี้ยงกุ้ง ซึ่งอยู่ภายใต้กรอบผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมไทย-พม่า ครั้งที่ 1 โดยให้กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้ประสานงาน และรับผิดชอบในเรื่องดังกล่าว
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์แจ้งว่าความช่วยเหลือดังกล่าวสืบเนื่องมาจากการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมไทย-พม่าครั้งที่ 1 ณ ย่างกุ้ง สหภาพพม่า ระหว่าง 13 - 18 กันยายน 2536 ซึ่งฝ่ายไทยได้รับที่จะพิจารณาข้อเสนอของพม่าในการจัดตั้งฟาร์มสาธิตการเลียงกุ้งในพม่า ซึ่งต่อมาในการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-พม่า ครั้งที่ 9 ณ กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 26 - 17 เมษายน 2537 พลอากาศจัตวา หม่องหม่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงปศุสัตวและประมงได้สอบถามความคืบหน้าถึงกรณีการให้ความช่วยเหลือ จัดสร้างสถานีสาธิตการเพาะเลี้ยงกุ้งให้กับพม่า และเห็นว่าฝ่ายไทยควรเร่งรีบดำเนินการในเรื่องดังกล่าว เพื่อแสดงความจริงใจ และสร้างความเชื่อถือให้กับฝ่ายพม่า โดยที่พิจารณาเห็นว่าประเทศไทยมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรักษาความสัมพันธ์ในด้านการประมงกับประเทศ-สหภาพพม่า เนื่องจากหากพม่าไม่อนุญาตให้เรือประมงไทยเข้าไปทำการประมง จะมีผลกระทบกับอุตสาหกรรมการประมง และอุตสาหกรรมที่ต่อเนื่องกับการประมงของไทย ในด้านฝั่งทะเลอันดามันทันที ดังนั้น การให้ความช่วยเหลือในการจัดสร้างสถานีสาธิตการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเลให้แก่ฝ่ายพม่าในครั้งนี้ จะเป็นการสร้างความเชื่อถือและไว้วางใจให้กับฝ่ายไทย อีกทั้งเป็นประโยชน์ในการเจรจาต่อรองในการเจรจาในอนาคต ในการนี้ คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามความเห็นของ สำนักงบประมาณอนุมัติในหลักการให้กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นผู้ประสานงานและดำเนินการในเรื่องดังกล่าวได้ภายในวงเงิน 25,906,600 บาท โดยให้เบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2538 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการสำรวจและออกแบบเพื่อจัดตั้งสถานีสาธิตการเพาะเลี้ยงกุ้ง ภายในวงเงิน 2,060,000 บาท สำหรับค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างสถานีสาธิตการเพาะเลี้ยงกุ้ง จำนวน 23,846,600 บาท นั้น สำนักงบประมาณจักได้พิจารณาจัดสรรให้ตามความจำเป็นที่จะต้องใช้จ่ายในแต่ละปีต่อไป โดยเห็นสมควรให้กรมประมงขอทำความตกลงด้านการเงิน พร้อมรายละเอียดแผนการดำเนินงานและงบประมาณ กับสำนักงบประมาณอีกครั้งหนึ่ง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 2 พฤษภาคม 2538--
คณะรัฐมนตรีพิจารณาให้ความเห็นชอบตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ ในการให้ความช่วยเหลือทางด้านเทคนิคประมงให้กับทางการพม่าในการจัดตั้งสถานีสาธิตการเพาะเลี้ยงกุ้ง ซึ่งอยู่ภายใต้กรอบผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมไทย-พม่า ครั้งที่ 1 โดยให้กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นผู้ประสานงาน และรับผิดชอบในเรื่องดังกล่าว
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์แจ้งว่าความช่วยเหลือดังกล่าวสืบเนื่องมาจากการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมไทย-พม่าครั้งที่ 1 ณ ย่างกุ้ง สหภาพพม่า ระหว่าง 13 - 18 กันยายน 2536 ซึ่งฝ่ายไทยได้รับที่จะพิจารณาข้อเสนอของพม่าในการจัดตั้งฟาร์มสาธิตการเลียงกุ้งในพม่า ซึ่งต่อมาในการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-พม่า ครั้งที่ 9 ณ กรุงเทพฯ ระหว่างวันที่ 26 - 17 เมษายน 2537 พลอากาศจัตวา หม่องหม่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงปศุสัตวและประมงได้สอบถามความคืบหน้าถึงกรณีการให้ความช่วยเหลือ จัดสร้างสถานีสาธิตการเพาะเลี้ยงกุ้งให้กับพม่า และเห็นว่าฝ่ายไทยควรเร่งรีบดำเนินการในเรื่องดังกล่าว เพื่อแสดงความจริงใจ และสร้างความเชื่อถือให้กับฝ่ายพม่า โดยที่พิจารณาเห็นว่าประเทศไทยมีความจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรักษาความสัมพันธ์ในด้านการประมงกับประเทศ-สหภาพพม่า เนื่องจากหากพม่าไม่อนุญาตให้เรือประมงไทยเข้าไปทำการประมง จะมีผลกระทบกับอุตสาหกรรมการประมง และอุตสาหกรรมที่ต่อเนื่องกับการประมงของไทย ในด้านฝั่งทะเลอันดามันทันที ดังนั้น การให้ความช่วยเหลือในการจัดสร้างสถานีสาธิตการเพาะเลี้ยงกุ้งทะเลให้แก่ฝ่ายพม่าในครั้งนี้ จะเป็นการสร้างความเชื่อถือและไว้วางใจให้กับฝ่ายไทย อีกทั้งเป็นประโยชน์ในการเจรจาต่อรองในการเจรจาในอนาคต ในการนี้ คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบตามความเห็นของ สำนักงบประมาณอนุมัติในหลักการให้กรมประมง กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เป็นผู้ประสานงานและดำเนินการในเรื่องดังกล่าวได้ภายในวงเงิน 25,906,600 บาท โดยให้เบิกจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2538 งบกลาง รายการเงินสำรองจ่ายเพื่อกรณีฉุกเฉินหรือจำเป็น เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการสำรวจและออกแบบเพื่อจัดตั้งสถานีสาธิตการเพาะเลี้ยงกุ้ง ภายในวงเงิน 2,060,000 บาท สำหรับค่าใช้จ่ายในการก่อสร้างสถานีสาธิตการเพาะเลี้ยงกุ้ง จำนวน 23,846,600 บาท นั้น สำนักงบประมาณจักได้พิจารณาจัดสรรให้ตามความจำเป็นที่จะต้องใช้จ่ายในแต่ละปีต่อไป โดยเห็นสมควรให้กรมประมงขอทำความตกลงด้านการเงิน พร้อมรายละเอียดแผนการดำเนินงานและงบประมาณ กับสำนักงบประมาณอีกครั้งหนึ่ง
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 2 พฤษภาคม 2538--