เรื่อง รายงานการส่งออก-นำเข้า สินค้าระหว่างไทย - สาธารณรัฐประชาชนจีน (1 ต.ค. 46-
31 ต.ค. 48) ระหว่างไทย - อินเดีย (1 ก.ย. 47-31 ม.ค. 48) และระหว่างไทย -
ออสเตรเลีย (1-31 ม.ค. 48)
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานการส่งออก-นำเข้า สินค้าระหว่างไทย-สาธารณรัฐประชาชนจีน
(1 ต.ค. 46-31 ต.ค. 48) ระหว่างไทย - อินเดีย (1 ก.ย. 47-31 ม.ค. 48) และระหว่างไทย - ออสเตรเลีย (1-31 ม.ค. 48) ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ สรุปได้ดังนี้
1. การออกหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า
1.1 ระหว่างไทย-จีน
กระทรวงพาณิชย์ได้ออกหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (From C/O และ Form E) สำหรับการส่งสินค้าพิกัดฯ 01-08 ออกไปจีน ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2546 — 31 ตุลาคม 2547 จำนวน 17,979 ฉบับ ปริมาณ 3,798,941 ตัน มูลค่า 17,794.34 ล้านบาท สินค้าที่ขอหนังสือรับรองฯ การส่งออกมากที่สุดได้แก่ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังชนิดเป็นชิ้นรองลงมาคือ ลำไยสด ทุเรียนสด และลำไยแห้ง
1.2 ระหว่างไทย-อินเดีย
กระทรวงพาณิชย์ได้ออกหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (Form FTA) สำหรับการส่งสินค้าออกไปอินเดียในรายการสินค้าที่มีการเร่งลดภาษีระหว่างกัน รวม 82 รายการ ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2547 — 31 มกราคม 2548 จำนวน 449 ฉบับ มูลค่า 1,116.56 ล้านบาท สินค้าที่ขอหนังสือรับรองฯ การส่งออกมากที่สุดได้แก่ โพลิคาร์บอเนต รองลงมาคือ หลอดภาพแคโทดเรย์ของเครื่องรับโทรทัศน์สี อิพอกไซด์เรซิน อะลูมิเนียมเจือ และของอื่นๆ ทำด้วยเหล็กหรือลวดเหล็กกล้า
1.3 ระหว่างไทย - ออสเตรเลีย
กระทรวงพาณิชย์ได้ออกหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (FORM FTA) สำหรับการส่งสินค้าตามข้อตกลงฯ ออกไปออสเตรเลีย ตั้งแต่ 1-31 มกราคม 2548 จำนวน 634 ฉบับ มูลค่า 2,142.88 ล้านบาท สินค้าที่ขอหนังสือรับรองฯ การส่งออกมากที่สุด ได้แก่ รถบรรทุกคนไข้ที่ใช้สำหรับส่วนราชการและโรงพยาบาลฯ รองลงมาคือ ยานยนต์สำหรับขนส่งของ เครื่องปรับอากาศที่ประกอบด้วยพัดลมซึ่งขับด้วยมอเตอร์ ปลาทูน่าที่ปรุงแต่งหรือทำไว้ไม่ให้เสีย สิ่งปรุงแต่งสำหรับใช้กับผม และกระดาษ และกระดาษแข็งที่ไม่เคลือบ
2. การส่งออก-นำเข้า ตามข้อมูลสถิติของกรมศุลกากร
2.1 ระหว่างไทย-จีน
2.1.1 การส่งออก
ไทยส่งสินค้าออกไปจีนพิกัดฯ 01 - 08 ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2546 - 31 ธันวาคม 2547 ปริมาณ 3,509,168 ตัน มูลค่า 16,142.50 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 60 และ 33 ตามลำดับ สินค้าส่งออกที่มีมูลค่ามากที่สุด ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังชนิดเป็นชิ้น รองลงมาคือลำไยแห้ง ลำไยสด ทุเรียนสดและกุ้งแช่แข็ง
2.1.2 การนำเข้า
ไทยนำสินค้าเข้าจากจีน พิกัดฯ 01 - 08 ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2546 — 31 ธันวาคม 2547 ปริมาณ 378,012 ตัน มูลค่า 8,103.68 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 62 และ 45 ตามลำดับ สินค้านำเข้าที่มีมูลค่ามากที่สุด ได้แก่ แอปเปิ้ลสด รองลงมาคือ แพร์และควินส์สด ปลาแช่แข็ง เห็ดแห้ง และแครอท เทอร์นิพสด/แช่เย็น
2.1.3 ดุลการค้า
ตั้งแต่เดือน ตุลาคม 2546 — ธันวาคม 2547 ไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้ากับจีน จำนวน 8,038.82 ล้านบาท โดยเมื่อเปรียบเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อนได้ดุลการค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 22
2.2 ระหว่างไทย-อินเดีย
2.2.1 การส่งออก ไทยส่งออกสินค้าที่อยู่ในรายการสินค้าที่มีการเร่งลดภาษีระหว่างกัน จำนวน 82 รายการ ตั้งแต่ 1 กันยายน 2547 — 31 ธันวาคม 2547 มูลค่า 2,603.35 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 111 สินค้าส่งออกที่มีมูลค่ามากที่สุดได้แก่ เครื่องรับโทรทัศน์สี รองลงมาคือ โพลิคาร์บอเนต ส่วนประกอบเครื่องยนต์ฯ รัตนชาติไม่ได้ตกแต่งฯ หลอดภาพแคโทดเรย์ของเครื่องรับโทรทัศน์สี และเครื่องปรับอากาศ
2.2.2 การนำเข้า ไทยนำสินค้าเข้าจากอินเดียในรายการสินค้าที่มีการเร่งลดภาษีระหว่างกัน จำนวน 82 รายการตั้งแต่ 1กันยายน -31 ธันวาคม 2547 มูลค่า 674.07 ล้านบาท โดยลดลงจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 25 สินค้านำเข้าที่มีมูลค่ามากที่สุดได้แก่ กระปุกเกียร์ รองลงมาคือ อะลูมิเนียมออกไซด์นอกจากคอรันดัมประดิษฐ์ หลอดภาพแคโทดเรย์ของเครื่องรับโทรทัศน์สี และส่วนประกอบเครื่องเพชรพลอยทำด้วยโลหะมีค่า และอะลูมิเนียมเจือ
2.2.3 ดุลการค้า ตั้งแต่เดือน 1 กันยายน — 31 ธันวาคม 2547 ไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้ากับอินเดีย จำนวน 1,929.28 ล้านบาท โดยเมื่อเปรียบเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อนได้ดุลการค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 476
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 8 มีนาคม 2548--จบ--
31 ต.ค. 48) ระหว่างไทย - อินเดีย (1 ก.ย. 47-31 ม.ค. 48) และระหว่างไทย -
ออสเตรเลีย (1-31 ม.ค. 48)
คณะรัฐมนตรีรับทราบรายงานการส่งออก-นำเข้า สินค้าระหว่างไทย-สาธารณรัฐประชาชนจีน
(1 ต.ค. 46-31 ต.ค. 48) ระหว่างไทย - อินเดีย (1 ก.ย. 47-31 ม.ค. 48) และระหว่างไทย - ออสเตรเลีย (1-31 ม.ค. 48) ตามที่กระทรวงพาณิชย์เสนอ สรุปได้ดังนี้
1. การออกหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า
1.1 ระหว่างไทย-จีน
กระทรวงพาณิชย์ได้ออกหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (From C/O และ Form E) สำหรับการส่งสินค้าพิกัดฯ 01-08 ออกไปจีน ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2546 — 31 ตุลาคม 2547 จำนวน 17,979 ฉบับ ปริมาณ 3,798,941 ตัน มูลค่า 17,794.34 ล้านบาท สินค้าที่ขอหนังสือรับรองฯ การส่งออกมากที่สุดได้แก่ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังชนิดเป็นชิ้นรองลงมาคือ ลำไยสด ทุเรียนสด และลำไยแห้ง
1.2 ระหว่างไทย-อินเดีย
กระทรวงพาณิชย์ได้ออกหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (Form FTA) สำหรับการส่งสินค้าออกไปอินเดียในรายการสินค้าที่มีการเร่งลดภาษีระหว่างกัน รวม 82 รายการ ตั้งแต่วันที่ 1 กันยายน 2547 — 31 มกราคม 2548 จำนวน 449 ฉบับ มูลค่า 1,116.56 ล้านบาท สินค้าที่ขอหนังสือรับรองฯ การส่งออกมากที่สุดได้แก่ โพลิคาร์บอเนต รองลงมาคือ หลอดภาพแคโทดเรย์ของเครื่องรับโทรทัศน์สี อิพอกไซด์เรซิน อะลูมิเนียมเจือ และของอื่นๆ ทำด้วยเหล็กหรือลวดเหล็กกล้า
1.3 ระหว่างไทย - ออสเตรเลีย
กระทรวงพาณิชย์ได้ออกหนังสือรับรองแหล่งกำเนิดสินค้า (FORM FTA) สำหรับการส่งสินค้าตามข้อตกลงฯ ออกไปออสเตรเลีย ตั้งแต่ 1-31 มกราคม 2548 จำนวน 634 ฉบับ มูลค่า 2,142.88 ล้านบาท สินค้าที่ขอหนังสือรับรองฯ การส่งออกมากที่สุด ได้แก่ รถบรรทุกคนไข้ที่ใช้สำหรับส่วนราชการและโรงพยาบาลฯ รองลงมาคือ ยานยนต์สำหรับขนส่งของ เครื่องปรับอากาศที่ประกอบด้วยพัดลมซึ่งขับด้วยมอเตอร์ ปลาทูน่าที่ปรุงแต่งหรือทำไว้ไม่ให้เสีย สิ่งปรุงแต่งสำหรับใช้กับผม และกระดาษ และกระดาษแข็งที่ไม่เคลือบ
2. การส่งออก-นำเข้า ตามข้อมูลสถิติของกรมศุลกากร
2.1 ระหว่างไทย-จีน
2.1.1 การส่งออก
ไทยส่งสินค้าออกไปจีนพิกัดฯ 01 - 08 ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2546 - 31 ธันวาคม 2547 ปริมาณ 3,509,168 ตัน มูลค่า 16,142.50 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 60 และ 33 ตามลำดับ สินค้าส่งออกที่มีมูลค่ามากที่สุด ได้แก่ ผลิตภัณฑ์มันสำปะหลังชนิดเป็นชิ้น รองลงมาคือลำไยแห้ง ลำไยสด ทุเรียนสดและกุ้งแช่แข็ง
2.1.2 การนำเข้า
ไทยนำสินค้าเข้าจากจีน พิกัดฯ 01 - 08 ตั้งแต่ 1 ตุลาคม 2546 — 31 ธันวาคม 2547 ปริมาณ 378,012 ตัน มูลค่า 8,103.68 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 62 และ 45 ตามลำดับ สินค้านำเข้าที่มีมูลค่ามากที่สุด ได้แก่ แอปเปิ้ลสด รองลงมาคือ แพร์และควินส์สด ปลาแช่แข็ง เห็ดแห้ง และแครอท เทอร์นิพสด/แช่เย็น
2.1.3 ดุลการค้า
ตั้งแต่เดือน ตุลาคม 2546 — ธันวาคม 2547 ไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้ากับจีน จำนวน 8,038.82 ล้านบาท โดยเมื่อเปรียบเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อนได้ดุลการค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 22
2.2 ระหว่างไทย-อินเดีย
2.2.1 การส่งออก ไทยส่งออกสินค้าที่อยู่ในรายการสินค้าที่มีการเร่งลดภาษีระหว่างกัน จำนวน 82 รายการ ตั้งแต่ 1 กันยายน 2547 — 31 ธันวาคม 2547 มูลค่า 2,603.35 ล้านบาท โดยเพิ่มขึ้นจากระยะเดียวกันของปีก่อน ร้อยละ 111 สินค้าส่งออกที่มีมูลค่ามากที่สุดได้แก่ เครื่องรับโทรทัศน์สี รองลงมาคือ โพลิคาร์บอเนต ส่วนประกอบเครื่องยนต์ฯ รัตนชาติไม่ได้ตกแต่งฯ หลอดภาพแคโทดเรย์ของเครื่องรับโทรทัศน์สี และเครื่องปรับอากาศ
2.2.2 การนำเข้า ไทยนำสินค้าเข้าจากอินเดียในรายการสินค้าที่มีการเร่งลดภาษีระหว่างกัน จำนวน 82 รายการตั้งแต่ 1กันยายน -31 ธันวาคม 2547 มูลค่า 674.07 ล้านบาท โดยลดลงจากระยะเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 25 สินค้านำเข้าที่มีมูลค่ามากที่สุดได้แก่ กระปุกเกียร์ รองลงมาคือ อะลูมิเนียมออกไซด์นอกจากคอรันดัมประดิษฐ์ หลอดภาพแคโทดเรย์ของเครื่องรับโทรทัศน์สี และส่วนประกอบเครื่องเพชรพลอยทำด้วยโลหะมีค่า และอะลูมิเนียมเจือ
2.2.3 ดุลการค้า ตั้งแต่เดือน 1 กันยายน — 31 ธันวาคม 2547 ไทยเป็นฝ่ายได้ดุลการค้ากับอินเดีย จำนวน 1,929.28 ล้านบาท โดยเมื่อเปรียบเทียบกับระยะเดียวกันของปีก่อนได้ดุลการค้าเพิ่มขึ้นร้อยละ 476
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 8 มีนาคม 2548--จบ--