ทำเนียบรัฐบาล--5 ส.ค.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีอนุมัติแผนปฏิรูปการเงินการคลังและระบบสถาบันการเงินและการขอความช่วยเหลือทางการเงินและวิชาการจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ทั้งนี้ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2540 อนุมัติให้กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย เจรจาทำความตกลงขอความช่วยเหลือทางการเงินและวิชาการจากองทุนการเงินระหว่างประเทศธนาคารกลางของประเทศต่างๆ และสถาบันการเงินในตลาดเงินทุนต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาการเงินการคลัง การปฏิรูประบบสถาบันการเงิน การปรับปรุงระบบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา และการปรับปรุงประสิทธิภาพของธนาคารแห่งประเทศ กระทรวงการคลัง และองค์การทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ นั้น
กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยได้แต่งตั้งคณะผู้แทนไทยในการเจรจากับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ซึ่งได้แต่งตั้งคณะผู้แทนมาเจรจากับกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย ระหว่างวันที่ 28 กรกฎาคม 2540 ถึงวันที่ 8 สิงหาคม 2540 โดยมีรายละเอียดปรากฎตามสรุปสาระสำคัญของแผนการขอความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ดังนี้
1. หลักการและเป้าหมาย
กองทุนการเงินระหว่างประเทศเห็นชอบกับเป้าหมาย หลักการ แผนปฏิบัติการ และแนวทางการแก้ไขปัญหาวิกฤตการณ์ทางการเงินการคลังที่สำคัญ โดยมีเป้าหมายหลักในการสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจ การเงินและการคลังของประเทศให้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด
2. แนวทางการแก้ไขปัญหา
2.1 ปัญหาเศรษฐกิจ การเงินการคลัง ที่ต้องแก้ไขเร่งด่วน คือ การฟื้นฟูรักษาเสถียรภาพการเงินการคลังของประเทศให้เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ซึ่งได้แก่
(1) การรักษาฐานะทุนสำรองเงินตราของประเทศให้อยู่ในระดับไม่น้อยกว่ามูลค่าการนำเข้า 3 เดือนครึ่งหรือไม่น้อยกว่า 25,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเร็วที่สุด
(2) การแก้ไขปัญหาวิกฤตการณ์ในระบบการเงินและสถาบันการเงินในประเทศ โดยเฉพาะการขาดความเชื่อมั่นในสถาบันการเงิน ทำให้มีการถอนเงินฝากระดับ 15,000-20,000 ล้านบาท ทุกสัปดาห์ และการแก้ไขฐานะกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ซึ่งได้ให้ความช่วยเหลือสถาบันการเงินในระบบในวงเงินที่สูงเกินควร เพื่อลดภาระภาครัฐ
วิกฤตการณ์ทั้งสองด้านดังกล่าว หากคงไว้ต่อไป จะยังผลให้ระบบสถาบันการเงิน ระบบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ฐานะทุนสำรองเงินตราของประเทศ และระบบการชำระเงิน ประสบภาวะวิกฤตอย่างยิ่ง จึงจำเป็นที่จะต้องดำเนินมาตรการแก้ไขทุกด้าน โดยมีแผนปฏิบัติการ ขั้นตอน และระยะเวลาดำเนินการที่ครบถ้วนสมบูรณ์
2.2 เค้าโครงของแนวนโยบายและแผนปฏิบัติการปฏิรูปทางเศรษฐกิจ ระบบสถาบันการเงิน และมาตรการที่เกี่ยวข้องในระดับมหภาค
1) การลดการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด (ดุลเงินออมและลงทุน) จากอัตราร้อยละ 8 ของ GDP ในปี 2539 เป็นร้อยละ 5 ในปี 2540 และร้อยละ 3 ในปี 2541
2) การรักษาระดับการขยายตัวทางเศรษฐกิจในอัตราประมาณร้อยละ 3-4 ในปี 2540 และ 2541 เพื่อให้เป็นฐานการขยายตัวเข้าสู่ระดับปกติในปี 2542 เป็นต้นไป
3) การรักษาระดับเงินเฟ้อในอัตราไม่เกินร้อยละ 8-9
4) การรักษาเสถียรภาพการเงินการคลัง โดยดำเนินนโยบายควบคุมรายรับรายจ่ายให้สมดุลและครอบคลุมถึงภาระผูกพันในการปฏิรูประบบสถาบันการเงินและโครงสร้างเศรษฐกิจ
5) การดำเนินมาตรการแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจที่สำคัญเพื่อสร้างความเชื่อมั่นของระบบและตลาดการเงินต่างประเทศ โดยการขอรับความช่วยเหลือทางวิชาการและการเงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ รัฐบาลต่างประเทศและสถาบันการเงินในตลาดเงินทุนต่างประเทศ
3. มาตรการที่สำคัญยิ่งในแผนปฏิบัติการ
(1) การปฏิรูประบบสถาบันการเงินภายในประเทศ เพื่อแก้ปัญหาของบริษัทเงินทุน หรือสถาบันการเงินอื่นที่ประสบปัญหาอย่างเบ็ดเสร็จตามมาตรฐานและวิธีการที่ชัดเจน โปร่งใส และมีประสิทธิภาพ โดยการควบคุมบริษัท หรือสถาบันที่อ่อนแอทันทีและในช่วงของการแก้ไข สมควรให้คณะรัฐมนตรีมีมติให้กองทุนฟื้นฟูฯ ประกันผู้ฝากเงินและเจ้าหนี้ที่ยังมีประสิทธิภาพและตามมาตรฐานที่ทางราชการกำหนด เพื่อประกันความตื่นตระหนกของผู้ฝากเงินหรือเจ้าหนี้ที่สุจริตและในระยะยาวจะทดแทนด้วยระบบสถาบันประกันเงินฝาก และองค์กรเพื่อกำกับและปฏิรูประบบสถาบันการเงินเพื่อดูแลสร้างความแข็งแกร่งและประสิทธิภาพของระบบสถาบันการเงินภายในประเทศ
(2) การปรับปรุงด้านการคลัง เพื่อให้เกิดดุลยภาพในระดับการคลัง ทั้งในส่วนงบประมาณแผ่นดิน และในส่วนที่จะต้องครอบคลุมภาระผูกพันอันเกิดจากการปฏิรูประบบการเงิน
(3) มาตรการภาษีอากร ได้แก่ การปรับปรุงการเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่ม จากอัตราร้อยละ 7 เป็นร้อยละ 10 ในปีงบประมาณ 2541 โดยในส่วนที่เป็นรายได้ของท้องถิ่นให้ปรับลดงบประมาณตามวงเงินที่ได้รับจากส่วนแบ่งของภาษีในส่วนเงินอุดหนุน หรือเงินรายจ่ายที่รัฐบาลกลางเคยลงทุนแทนท้องถิ่น การปรับปรุงภาษีสรรพสามิตบางประเภท และการปรับปรุงด้านภาษีเงินได้ นอกจากนี้ ให้ปรับลดงบประมาณรายจ่ายที่ไม่จำเป็นลงตามสมควร
(4) ในด้านงบประมาณรายจ่าย มีข้อกำหนดให้รักษาระดับรายจ่ายของรัฐให้อยู่ในระดับที่สอดคล้องกับความสามารถในการจัดหารายได้ แต่ไม่ควรตัดงบประมาณด้านการศึกษา สาธารณสุข และการลงทุนในโครงการพื้นฐานและสวัสดิการสังคม ส่วนในด้านอัตราค่าบริการของรัฐวิสาหกิจ ควรให้มีการปรับราคาให้สอดคล้องกับต้นทุนและความจำเป็นในการลงทุน และให้ใช้รายได้ของตนเองลงทุนตามเงื่อนไขมาตรฐานที่ตกลงกับธนาคารโลก โดยไม่มีการแทรกแซงตรึงราคาด้วยเหตุผลทางการเมือง
(5) สำหรับระบบอัตราแลกเปลี่ยนของไทยจะคงเป็นระบบ "Managed Float" ทั้งนี้คาดว่า เมื่อแผนปฏิรูปการเงินการคลังเริ่มดำเนินการแล้ว ระดับอัตราแลกเปลี่ยนจะมีเสถียรภาพขึ้น
(6) นโยบายการเงิน ยังคงต้องดำเนินการอย่างเข้มงวดระยะหนึ่ง และการสนับสนุนสภาพคล่อง โดยกองทุนฟื้นฟูฯ หรือธนาคารแห่งประเทศไทย จะให้เฉพาะสถาบันที่ได้รับการค้ำประกันและสถาบันที่ดูแลด้านผู้ฝากเงินหรือเป็นแกนส่วนระดับอัตราดอกเบี้ยคงปล่อยให้ลดลงได้ เมื่อมีการประกาศมาตรการและดำเนินการตามแผนปฏิบัติการปฏิรูประบบสถาบันการเงินเรียบร้อยแล้ว เมื่อได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าว กองทุนการเงินระหว่างประเทศจะร่วมกับรัฐบาลที่เกี่ยวข้องให้เงินกู้แก่ประเทศไทยผ่านธนาคารแห่งประเทศไทย ในรูปเงินกู้เพื่อเสริมทุนสำรองเงินตรา หรือให้กระทรวงการคลังหรือองค์กรที่กระทรวงการคลังกำหนดกู้เพื่อการนี้ การกู้เงินและการทำสัญญาจะเป็นไปตามเงื่อนไขและวิธีการที่จะตกลงต่อไปทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย มีอำนาจดำเนินการในการกู้ยืมและปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อตกลงกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ และรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบต่อไป
กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยได้ตกลงกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ให้ดำเนินการนำเสนอคณะรัฐมนตรีของประเทศไทยและคณะกรรมการบริหารของกองทุนฯ และเมื่อได้รับอนุมัติ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นผู้ลงนามร่วมกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 5 สิงหาคม 2540--
คณะรัฐมนตรีอนุมัติแผนปฏิรูปการเงินการคลังและระบบสถาบันการเงินและการขอความช่วยเหลือทางการเงินและวิชาการจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ตามที่กระทรวงการคลังเสนอ
ทั้งนี้ ตามที่คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2540 อนุมัติให้กระทรวงการคลัง ธนาคารแห่งประเทศไทย เจรจาทำความตกลงขอความช่วยเหลือทางการเงินและวิชาการจากองทุนการเงินระหว่างประเทศธนาคารกลางของประเทศต่างๆ และสถาบันการเงินในตลาดเงินทุนต่างประเทศ เพื่อแก้ไขปัญหาการเงินการคลัง การปฏิรูประบบสถาบันการเงิน การปรับปรุงระบบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา และการปรับปรุงประสิทธิภาพของธนาคารแห่งประเทศ กระทรวงการคลัง และองค์การทางเศรษฐกิจที่สำคัญของประเทศ นั้น
กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยได้แต่งตั้งคณะผู้แทนไทยในการเจรจากับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ซึ่งได้แต่งตั้งคณะผู้แทนมาเจรจากับกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย ระหว่างวันที่ 28 กรกฎาคม 2540 ถึงวันที่ 8 สิงหาคม 2540 โดยมีรายละเอียดปรากฎตามสรุปสาระสำคัญของแผนการขอความช่วยเหลือจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ดังนี้
1. หลักการและเป้าหมาย
กองทุนการเงินระหว่างประเทศเห็นชอบกับเป้าหมาย หลักการ แผนปฏิบัติการ และแนวทางการแก้ไขปัญหาวิกฤตการณ์ทางการเงินการคลังที่สำคัญ โดยมีเป้าหมายหลักในการสร้างเสถียรภาพและความมั่นคงทางเศรษฐกิจ การเงินและการคลังของประเทศให้เกิดขึ้นโดยเร็วที่สุด
2. แนวทางการแก้ไขปัญหา
2.1 ปัญหาเศรษฐกิจ การเงินการคลัง ที่ต้องแก้ไขเร่งด่วน คือ การฟื้นฟูรักษาเสถียรภาพการเงินการคลังของประเทศให้เข้าสู่ภาวะปกติโดยเร็ว ซึ่งได้แก่
(1) การรักษาฐานะทุนสำรองเงินตราของประเทศให้อยู่ในระดับไม่น้อยกว่ามูลค่าการนำเข้า 3 เดือนครึ่งหรือไม่น้อยกว่า 25,000 ล้านเหรียญสหรัฐ โดยเร็วที่สุด
(2) การแก้ไขปัญหาวิกฤตการณ์ในระบบการเงินและสถาบันการเงินในประเทศ โดยเฉพาะการขาดความเชื่อมั่นในสถาบันการเงิน ทำให้มีการถอนเงินฝากระดับ 15,000-20,000 ล้านบาท ทุกสัปดาห์ และการแก้ไขฐานะกองทุนเพื่อการฟื้นฟูและพัฒนาระบบสถาบันการเงิน ซึ่งได้ให้ความช่วยเหลือสถาบันการเงินในระบบในวงเงินที่สูงเกินควร เพื่อลดภาระภาครัฐ
วิกฤตการณ์ทั้งสองด้านดังกล่าว หากคงไว้ต่อไป จะยังผลให้ระบบสถาบันการเงิน ระบบอัตราแลกเปลี่ยนเงินตรา ฐานะทุนสำรองเงินตราของประเทศ และระบบการชำระเงิน ประสบภาวะวิกฤตอย่างยิ่ง จึงจำเป็นที่จะต้องดำเนินมาตรการแก้ไขทุกด้าน โดยมีแผนปฏิบัติการ ขั้นตอน และระยะเวลาดำเนินการที่ครบถ้วนสมบูรณ์
2.2 เค้าโครงของแนวนโยบายและแผนปฏิบัติการปฏิรูปทางเศรษฐกิจ ระบบสถาบันการเงิน และมาตรการที่เกี่ยวข้องในระดับมหภาค
1) การลดการขาดดุลบัญชีเดินสะพัด (ดุลเงินออมและลงทุน) จากอัตราร้อยละ 8 ของ GDP ในปี 2539 เป็นร้อยละ 5 ในปี 2540 และร้อยละ 3 ในปี 2541
2) การรักษาระดับการขยายตัวทางเศรษฐกิจในอัตราประมาณร้อยละ 3-4 ในปี 2540 และ 2541 เพื่อให้เป็นฐานการขยายตัวเข้าสู่ระดับปกติในปี 2542 เป็นต้นไป
3) การรักษาระดับเงินเฟ้อในอัตราไม่เกินร้อยละ 8-9
4) การรักษาเสถียรภาพการเงินการคลัง โดยดำเนินนโยบายควบคุมรายรับรายจ่ายให้สมดุลและครอบคลุมถึงภาระผูกพันในการปฏิรูประบบสถาบันการเงินและโครงสร้างเศรษฐกิจ
5) การดำเนินมาตรการแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจที่สำคัญเพื่อสร้างความเชื่อมั่นของระบบและตลาดการเงินต่างประเทศ โดยการขอรับความช่วยเหลือทางวิชาการและการเงินจากกองทุนการเงินระหว่างประเทศ รัฐบาลต่างประเทศและสถาบันการเงินในตลาดเงินทุนต่างประเทศ
3. มาตรการที่สำคัญยิ่งในแผนปฏิบัติการ
(1) การปฏิรูประบบสถาบันการเงินภายในประเทศ เพื่อแก้ปัญหาของบริษัทเงินทุน หรือสถาบันการเงินอื่นที่ประสบปัญหาอย่างเบ็ดเสร็จตามมาตรฐานและวิธีการที่ชัดเจน โปร่งใส และมีประสิทธิภาพ โดยการควบคุมบริษัท หรือสถาบันที่อ่อนแอทันทีและในช่วงของการแก้ไข สมควรให้คณะรัฐมนตรีมีมติให้กองทุนฟื้นฟูฯ ประกันผู้ฝากเงินและเจ้าหนี้ที่ยังมีประสิทธิภาพและตามมาตรฐานที่ทางราชการกำหนด เพื่อประกันความตื่นตระหนกของผู้ฝากเงินหรือเจ้าหนี้ที่สุจริตและในระยะยาวจะทดแทนด้วยระบบสถาบันประกันเงินฝาก และองค์กรเพื่อกำกับและปฏิรูประบบสถาบันการเงินเพื่อดูแลสร้างความแข็งแกร่งและประสิทธิภาพของระบบสถาบันการเงินภายในประเทศ
(2) การปรับปรุงด้านการคลัง เพื่อให้เกิดดุลยภาพในระดับการคลัง ทั้งในส่วนงบประมาณแผ่นดิน และในส่วนที่จะต้องครอบคลุมภาระผูกพันอันเกิดจากการปฏิรูประบบการเงิน
(3) มาตรการภาษีอากร ได้แก่ การปรับปรุงการเพิ่มภาษีมูลค่าเพิ่ม จากอัตราร้อยละ 7 เป็นร้อยละ 10 ในปีงบประมาณ 2541 โดยในส่วนที่เป็นรายได้ของท้องถิ่นให้ปรับลดงบประมาณตามวงเงินที่ได้รับจากส่วนแบ่งของภาษีในส่วนเงินอุดหนุน หรือเงินรายจ่ายที่รัฐบาลกลางเคยลงทุนแทนท้องถิ่น การปรับปรุงภาษีสรรพสามิตบางประเภท และการปรับปรุงด้านภาษีเงินได้ นอกจากนี้ ให้ปรับลดงบประมาณรายจ่ายที่ไม่จำเป็นลงตามสมควร
(4) ในด้านงบประมาณรายจ่าย มีข้อกำหนดให้รักษาระดับรายจ่ายของรัฐให้อยู่ในระดับที่สอดคล้องกับความสามารถในการจัดหารายได้ แต่ไม่ควรตัดงบประมาณด้านการศึกษา สาธารณสุข และการลงทุนในโครงการพื้นฐานและสวัสดิการสังคม ส่วนในด้านอัตราค่าบริการของรัฐวิสาหกิจ ควรให้มีการปรับราคาให้สอดคล้องกับต้นทุนและความจำเป็นในการลงทุน และให้ใช้รายได้ของตนเองลงทุนตามเงื่อนไขมาตรฐานที่ตกลงกับธนาคารโลก โดยไม่มีการแทรกแซงตรึงราคาด้วยเหตุผลทางการเมือง
(5) สำหรับระบบอัตราแลกเปลี่ยนของไทยจะคงเป็นระบบ "Managed Float" ทั้งนี้คาดว่า เมื่อแผนปฏิรูปการเงินการคลังเริ่มดำเนินการแล้ว ระดับอัตราแลกเปลี่ยนจะมีเสถียรภาพขึ้น
(6) นโยบายการเงิน ยังคงต้องดำเนินการอย่างเข้มงวดระยะหนึ่ง และการสนับสนุนสภาพคล่อง โดยกองทุนฟื้นฟูฯ หรือธนาคารแห่งประเทศไทย จะให้เฉพาะสถาบันที่ได้รับการค้ำประกันและสถาบันที่ดูแลด้านผู้ฝากเงินหรือเป็นแกนส่วนระดับอัตราดอกเบี้ยคงปล่อยให้ลดลงได้ เมื่อมีการประกาศมาตรการและดำเนินการตามแผนปฏิบัติการปฏิรูประบบสถาบันการเงินเรียบร้อยแล้ว เมื่อได้มีการดำเนินการตามขั้นตอนดังกล่าว กองทุนการเงินระหว่างประเทศจะร่วมกับรัฐบาลที่เกี่ยวข้องให้เงินกู้แก่ประเทศไทยผ่านธนาคารแห่งประเทศไทย ในรูปเงินกู้เพื่อเสริมทุนสำรองเงินตรา หรือให้กระทรวงการคลังหรือองค์กรที่กระทรวงการคลังกำหนดกู้เพื่อการนี้ การกู้เงินและการทำสัญญาจะเป็นไปตามเงื่อนไขและวิธีการที่จะตกลงต่อไปทั้งนี้ ให้กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย มีอำนาจดำเนินการในการกู้ยืมและปฏิบัติตามเงื่อนไขข้อตกลงกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ และรายงานให้คณะรัฐมนตรีทราบต่อไป
กระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทยได้ตกลงกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศ ให้ดำเนินการนำเสนอคณะรัฐมนตรีของประเทศไทยและคณะกรรมการบริหารของกองทุนฯ และเมื่อได้รับอนุมัติ ให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง และผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เป็นผู้ลงนามร่วมกับกองทุนการเงินระหว่างประเทศต่อไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดพลเอกชวลิต ยงใจยุทธ)--วันที่ 5 สิงหาคม 2540--