ทำเนียบรัฐบาล--20 เม.ย.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีอนุมัติการลงนามในแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยแผนงานความร่วมมือระหว่างไทยกับสาธารณรัฐเกาหลีในศตวรรษที่ 21 ระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐเกาหลี และมอบหมายให้รัฐมนตรีท่านหนึ่งท่านใดที่จะร่วมติดตามในคณะของนายกรัฐมนตรี ในการเยือนเกาหลีใต้เป็นผู้ลงนามในนามรัฐบาลไทย ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
กระทรวงการต่างประเทศรายงานว่า ในระหว่างการเยือนสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) อย่างเป็นทางการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเมื่อวันที่ 21 - 23 กรกฎาคม 2541 ฝ่ายไทยได้เสนอต่อฝ่ายเกาหลีใต้ ให้ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันจัดทำแผนงานระยะยาวสำหรับความร่วมมือระหว่างไทยและเกาหลีใต้ เพื่อเป็นกรอบในการดำเนินการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกันในทุก ๆ ด้าน ในศตวรรษที่ 21 ซึ่งฝ่ายเกาหลีใต้ได้เห็นชอบด้วยในการริเริ่มของฝ่ายไทยในเรื่องนี้ โดยเห็นว่าจะเป็นการอำนวยประโยชน์แก่ทั้งสองประเทศในอันที่จะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสองให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
สาระสำคัญของแผนงานฯ ได้แก่
- ทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันในทุกด้าน และส่งเสริมความสัมพันธ์ที่มีความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน บนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกันและความสัมพันธ์ฉันมิตรที่พัฒนามากว่า 40 ปี เพื่อให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและเกาหลีใต้พัฒนาไปสู่ระดับที่สูงขึ้น
- ทั้งสองฝ่ายจะส่งเสริมและขยายการติดต่อและการหารือระหว่างกันในทุก ๆ ด้าน ทั้งในระดับรัฐบาลและระหว่างภาคเอกชน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นระหว่างกันในประเด็นต่าง ๆ ทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี
- ทั้งสองฝ่ายยืนยันที่จะยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยและระบบเศรษฐกิจแบบตลาด
- ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะเสริมสร้างและขยายความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศในสาขาต่าง ๆ และจัดการปรึกษาหารือด้านความมั่นคงเป็นประจำเกี่ยวกับปัญหาความมั่นคงทั้งในระดับทวิภาคีและระดับภูมิภาค
- ทั้งสองฝ่ายจะขยายความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนในด้านการศึกษา สุขภาพ การควบคุมยาเสพติด วัฒนธรรม การกีฬา และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และจะเสริมสร้างการประสานงานและความร่วมมือในกรอบ ILO, UNESCO, UNICEF และองค์กรความร่วมมือในระดับภูมิภาคหรือระหว่างประเทศอื่น ๆ
- ทั้งสองฝ่ายจะส่งเสริมความร่วมมือในด้านการท่องเที่ยว และแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังจะร่วมกันดำเนินการเพื่อกระตุ้นนักท่องเที่ยวจากประเทศที่สามให้เดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศของกันและกัน
- ทั้งสองฝ่ายจะกระชับความร่วมมือและการปรึกษาหารือระหว่างกันในเรื่องของภูมิภาคและประเด็นระหว่างประเทศที่เป็นที่สนใจร่วมกันในเวทีของ ASEAN, ARF, APEC, ASEM, UN และ WTO ตลอดจนเวทีพหุภาคีอื่น ๆ เพื่อส่งเสริมสันติภาพและความมั่งคั่งของภูมิภาคและโลก
โดยที่นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการที่จะไปเยือนเกาหลีใต้อย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 25 - 27 เมษายน 2542 ตามคำเชิญของประธานาธิบดีคิม แด จุง ทั้งสองฝ่ายจึงได้เห็นพ้องกันที่จะได้จัดทำแผนงานดังกล่าวในรูปแบบของแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยความร่วมมือไทย - สาธารณรัฐเกาหลีในศตวรรษที่ 21 และจะได้มีการลงนามโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของแต่ละฝ่าย โดยนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทยและประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลีร่วมเป็นสักขีพยานในวันที่ 26 เมษายน 2542
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 20 เมษายน 2542--
คณะรัฐมนตรีอนุมัติการลงนามในแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยแผนงานความร่วมมือระหว่างไทยกับสาธารณรัฐเกาหลีในศตวรรษที่ 21 ระหว่างราชอาณาจักรไทยกับสาธารณรัฐเกาหลี และมอบหมายให้รัฐมนตรีท่านหนึ่งท่านใดที่จะร่วมติดตามในคณะของนายกรัฐมนตรี ในการเยือนเกาหลีใต้เป็นผู้ลงนามในนามรัฐบาลไทย ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
กระทรวงการต่างประเทศรายงานว่า ในระหว่างการเยือนสาธารณรัฐเกาหลี (เกาหลีใต้) อย่างเป็นทางการของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศเมื่อวันที่ 21 - 23 กรกฎาคม 2541 ฝ่ายไทยได้เสนอต่อฝ่ายเกาหลีใต้ ให้ทั้งสองฝ่ายได้ร่วมกันจัดทำแผนงานระยะยาวสำหรับความร่วมมือระหว่างไทยและเกาหลีใต้ เพื่อเป็นกรอบในการดำเนินการเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างกันในทุก ๆ ด้าน ในศตวรรษที่ 21 ซึ่งฝ่ายเกาหลีใต้ได้เห็นชอบด้วยในการริเริ่มของฝ่ายไทยในเรื่องนี้ โดยเห็นว่าจะเป็นการอำนวยประโยชน์แก่ทั้งสองประเทศในอันที่จะกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสองให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
สาระสำคัญของแผนงานฯ ได้แก่
- ทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันในทุกด้าน และส่งเสริมความสัมพันธ์ที่มีความไว้เนื้อเชื่อใจซึ่งกันและกัน บนพื้นฐานของผลประโยชน์ร่วมกันและความสัมพันธ์ฉันมิตรที่พัฒนามากว่า 40 ปี เพื่อให้ความสัมพันธ์ระหว่างไทยและเกาหลีใต้พัฒนาไปสู่ระดับที่สูงขึ้น
- ทั้งสองฝ่ายจะส่งเสริมและขยายการติดต่อและการหารือระหว่างกันในทุก ๆ ด้าน ทั้งในระดับรัฐบาลและระหว่างภาคเอกชน เพื่อแลกเปลี่ยนข้อคิดเห็นระหว่างกันในประเด็นต่าง ๆ ทั้งในระดับทวิภาคีและพหุภาคี
- ทั้งสองฝ่ายยืนยันที่จะยึดมั่นในการปกครองระบอบประชาธิปไตยและระบบเศรษฐกิจแบบตลาด
- ทั้งสองฝ่ายตกลงที่จะเสริมสร้างและขยายความร่วมมือด้านการป้องกันประเทศในสาขาต่าง ๆ และจัดการปรึกษาหารือด้านความมั่นคงเป็นประจำเกี่ยวกับปัญหาความมั่นคงทั้งในระดับทวิภาคีและระดับภูมิภาค
- ทั้งสองฝ่ายจะขยายความร่วมมือและการแลกเปลี่ยนในด้านการศึกษา สุขภาพ การควบคุมยาเสพติด วัฒนธรรม การกีฬา และอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และจะเสริมสร้างการประสานงานและความร่วมมือในกรอบ ILO, UNESCO, UNICEF และองค์กรความร่วมมือในระดับภูมิภาคหรือระหว่างประเทศอื่น ๆ
- ทั้งสองฝ่ายจะส่งเสริมความร่วมมือในด้านการท่องเที่ยว และแก้ไขปัญหาที่เกี่ยวเนื่องกับการท่องเที่ยว นอกจากนี้ยังจะร่วมกันดำเนินการเพื่อกระตุ้นนักท่องเที่ยวจากประเทศที่สามให้เดินทางไปท่องเที่ยวในประเทศของกันและกัน
- ทั้งสองฝ่ายจะกระชับความร่วมมือและการปรึกษาหารือระหว่างกันในเรื่องของภูมิภาคและประเด็นระหว่างประเทศที่เป็นที่สนใจร่วมกันในเวทีของ ASEAN, ARF, APEC, ASEM, UN และ WTO ตลอดจนเวทีพหุภาคีอื่น ๆ เพื่อส่งเสริมสันติภาพและความมั่งคั่งของภูมิภาคและโลก
โดยที่นายกรัฐมนตรีมีกำหนดการที่จะไปเยือนเกาหลีใต้อย่างเป็นทางการระหว่างวันที่ 25 - 27 เมษายน 2542 ตามคำเชิญของประธานาธิบดีคิม แด จุง ทั้งสองฝ่ายจึงได้เห็นพ้องกันที่จะได้จัดทำแผนงานดังกล่าวในรูปแบบของแถลงการณ์ร่วมว่าด้วยความร่วมมือไทย - สาธารณรัฐเกาหลีในศตวรรษที่ 21 และจะได้มีการลงนามโดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศของแต่ละฝ่าย โดยนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรไทยและประธานาธิบดีสาธารณรัฐเกาหลีร่วมเป็นสักขีพยานในวันที่ 26 เมษายน 2542
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 20 เมษายน 2542--