1. เห็นชอบมาตรการยกเว้นภาษีเงินได้สำหรับเงินส่วนแบ่งกำไรจากห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคลบางกรณี
2. อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวง ฉบับที่ .. (พ.ศ. ....) ออกตามความในประมวลรัษฎากร ว่าด้วยการยกเว้นรัษฎากร และให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา แล้วดำเนินการต่อไปได้
กระทรวงการคลังเสนอว่า
1. เนื่องจากพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่ 39) พ.ศ. 2557 กำหนดให้ยกเลิกมาตรา 42 (14) แห่งประมวลรัษฎากร ซึ่งเป็นการยกเลิกการยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินส่วนแบ่งกำไรจากการประกอบกิจการของห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคลอันมีผลทำให้ผู้เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญหรือบุคคลในคณะบุคคลฯ จะต้องนำเงินได้สำหรับเงินส่วนแบ่งของกำไรมารวมคำนวณเพื่อเสียภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ซึ่งมีผลกระทบต่อห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคลบางส่วนที่มิได้มีเจตนาเข้ากันเพื่อประกอบกิจการ โดยมีรายละเอียดดังนี้
1.1 การให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ซึ่งเป็นกรรมสิทธิ์รวมที่ได้มาโดยทางมรดก หรือที่ได้รับจากการให้โดยเสน่หา ผู้เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญหรือบุคคลในคณะบุคคลฯ มิได้มีความประสงค์ที่จะเข้าร่วมกันเพื่อประกอบกิจการตั้งแต่แรกเริ่ม
1.2 การเปิดบัญชีเงินฝากร่วมกันโดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างเครือญาติส่วนใหญ่เป็นไปเพื่อความสะดวกในการเบิกเงิน ถอนเงิน หรือเพื่อชำระค่าสาธารณูปโภค รวมถึงการเปิดบัญชีร่วมกันในกรณีอื่น ๆ ที่มิได้มีความประสงค์ที่จะเข้าร่วมประกอบกิจการ เช่น การเปิดบัญชีเงินสดย่อยของนิสิตมหาวิทยาลัย เป็นต้น
2. เพื่อเป็นการบรรเทาภาระภาษีให้แก่ผู้เป็นหุ้นส่วนในห้างหุ้นส่วนสามัญหรือบุคคลในคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคล จึงสมควรกำหนดให้เงินส่วนแบ่งของกำไรจากเงินได้ดังกล่าวเป็นเงินได้พึงประเมินที่ได้รับการยกเว้นไม่ต้องนำมารวมคำนวณภาษีเงินได้
สาระสำคัญของร่างกฎกระทรวง
1. กำหนดยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับเงินได้ ดังต่อไปนี้
1.1 เงินส่วนแบ่งของกำไรจากห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคลซึ่งเป็นเงินได้ จากการให้เช่าอสังหาริมทรัพย์ที่เป็นกรรมสิทธิ์รวมอันได้มาโดยทางมรดกหรือได้รับมาจากการให้โดยเสน่หา ซึ่งต้องเสียภาษีเงินได้ตามส่วน 2 หมวด 3 ลักษณะ 2 แห่งประมวลรัษฎากร
1.2 เงินส่วนแบ่งของกำไรจากห้างหุ้นส่วนสามัญหรือคณะบุคคลที่มิใช่นิติบุคคลซึ่งเป็นดอกเบี้ยเงินฝาก และถูกหักภาษีเงินได้ ณ ที่จ่าย ทั้งนี้ เฉพาะกรณีที่ผู้มีเงินได้ดังกล่าวไม่ขอรับเงินภาษีที่ถูกหักไว้คืนหรือไม่ขอเครดิตเงินภาษีที่ถูกหักไว้ไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน
2. กำหนดให้ร่างกฎกระทรวงนี้ให้ใช้บังคับสำหรับเงินได้พึงประเมินประจำปี พ.ศ. 2558 เป็นต้นไป
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 6 ตุลาคม 2558--