แท็ก
สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ
กองทุนการเงินระหว่างประเทศ
รัฐวิสาหกิจ
พิจารณางบ
รัฐมนตรี
(IMF)
ทำเนียบรัฐบาล--9 ก.พ.--บิสนิวส์
คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจพิจารณางบประมาณประจำปี 2541 ของรัฐวิสาหกิจ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ โดยจัดทำงบประมาณประจำปี 2541 ของรัฐวิสาหกิจในภาพรวมและรายรัฐวิสาหกิจ ทั้งนี้ โดยยึดหลักการต้องสอดคล้องกับพันธกรณีเงื่อนไขของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)คือ ให้ฐานะโดยรวมของรัฐวิสาหกิจสมดุล ซึ่งหมายถึง รัฐวิสาหกิจสามารถจ่ายลงทุนได้ไม่เกินเงินสดที่มีเพื่อใช้ในการลงทุน(Retained Income) แล้วมีมติ ดังนี้
1. ให้ความเห็นชอบงบประมาณประจำปี 2541 ของรัฐวิสาหกิจในภาพรวมและรายรัฐวิสาหกิจ เพื่อให้ผูกพันสัญญาได้ จำนวน 296,826 ล้านบาท โดยให้เบิกจ่ายได้ในวงเงิน 159,640 ล้านบาท เท่ากับเป้าหมายเงินสดที่มีเพื่อใช้ในการลงทุน (163,640 ล้านบาท) หัก 4,000 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงการคลังจะเรียกส่งรัฐเพื่อ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2540 ดังนี้
งบประมาณทำการ* ล้านบาท
ประมาณการรายได้ 903,006
ประมาณการรายจ่าย 846,313
ประมาณกาารกำไรสุทธิ 56,693
งบประมาณลงทุน
งบลงทุนเพื่อการดำเนินงานปกติ 108,970
งบลงทุนที่ทำเป็นโครงการ 319,880
รวม 428,850
*งบประมาณทำการข้างต้นเป็นตัวเลขที่ได้ปรับปรุงให้สอดคล้องกับข้อมูลที่ได้รับจากรัฐวิสาหกิจ
2. ให้ความเห็นชอบหลักการที่ให้รัฐวิสาหกิจปรับลดค่าใช้จ่ายในงบทำการปี 2541 จากที่เสนอไม่น้อยกว่าร้อยละ 3 เพื่อให้สามารถเบิกจ่ายลงทุนได้ในวงเงินตามข้อ 1
3. สำหรับการติดตามประเมินผลการเบิกจ่ายงบลงทุน ให้คณะกรรมการรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งทำหน้าที่กำกับและติดตามให้เป็นไปตามกรอบงบประมาณประจำปีดังกล่าว และให้เบิกจ่ายได้ภายในวงเงินที่ได้รับอนุมัติ หากเงินสดที่มีเพื่อใช้ในการลงทุน (Retained Income) ไม่ได้ตามเป้าหมาย ให้ลดการเบิกจ่ายลงทุนเท่ากับวงเงินสดที่ขาดไป เพื่อให้สามารถรักษาภาวะสมดุลของรัฐวิสาหกิจโดยรวมไว้ได้ตามเงื่อนไขของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และรายงานผลให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ภายในวันที่ 5 ของทุกเดือน เพื่อประมวลฐานะสมดุลของรัฐวิสาหกิจโดยรวมเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาทุก 3 เดือน
4. ในระหว่างปี หากรัฐวิสาหกิจใดได้รับอนุมัติโครงการใหม่ตามขั้นตอนการพิจารณาแล้ว ให้สามารถดำเนินการได้ โดยให้เบิกจ่ายภายในกรอบวงเงินเบิกจ่ายที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีแล้ว หรือภายในวงเงินสดที่มีเพื่อใช้ในการลงทุนที่รัฐวิสาหกิจนั้นสามารถปรับเพิ่มขึ้นได้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2541--
คณะกรรมการรัฐมนตรีว่าด้วยนโยบายเศรษฐกิจพิจารณางบประมาณประจำปี 2541 ของรัฐวิสาหกิจ ตามที่สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเสนอ โดยจัดทำงบประมาณประจำปี 2541 ของรัฐวิสาหกิจในภาพรวมและรายรัฐวิสาหกิจ ทั้งนี้ โดยยึดหลักการต้องสอดคล้องกับพันธกรณีเงื่อนไขของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF)คือ ให้ฐานะโดยรวมของรัฐวิสาหกิจสมดุล ซึ่งหมายถึง รัฐวิสาหกิจสามารถจ่ายลงทุนได้ไม่เกินเงินสดที่มีเพื่อใช้ในการลงทุน(Retained Income) แล้วมีมติ ดังนี้
1. ให้ความเห็นชอบงบประมาณประจำปี 2541 ของรัฐวิสาหกิจในภาพรวมและรายรัฐวิสาหกิจ เพื่อให้ผูกพันสัญญาได้ จำนวน 296,826 ล้านบาท โดยให้เบิกจ่ายได้ในวงเงิน 159,640 ล้านบาท เท่ากับเป้าหมายเงินสดที่มีเพื่อใช้ในการลงทุน (163,640 ล้านบาท) หัก 4,000 ล้านบาท ซึ่งกระทรวงการคลังจะเรียกส่งรัฐเพื่อ ตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2540 ดังนี้
งบประมาณทำการ* ล้านบาท
ประมาณการรายได้ 903,006
ประมาณการรายจ่าย 846,313
ประมาณกาารกำไรสุทธิ 56,693
งบประมาณลงทุน
งบลงทุนเพื่อการดำเนินงานปกติ 108,970
งบลงทุนที่ทำเป็นโครงการ 319,880
รวม 428,850
*งบประมาณทำการข้างต้นเป็นตัวเลขที่ได้ปรับปรุงให้สอดคล้องกับข้อมูลที่ได้รับจากรัฐวิสาหกิจ
2. ให้ความเห็นชอบหลักการที่ให้รัฐวิสาหกิจปรับลดค่าใช้จ่ายในงบทำการปี 2541 จากที่เสนอไม่น้อยกว่าร้อยละ 3 เพื่อให้สามารถเบิกจ่ายลงทุนได้ในวงเงินตามข้อ 1
3. สำหรับการติดตามประเมินผลการเบิกจ่ายงบลงทุน ให้คณะกรรมการรัฐวิสาหกิจแต่ละแห่งทำหน้าที่กำกับและติดตามให้เป็นไปตามกรอบงบประมาณประจำปีดังกล่าว และให้เบิกจ่ายได้ภายในวงเงินที่ได้รับอนุมัติ หากเงินสดที่มีเพื่อใช้ในการลงทุน (Retained Income) ไม่ได้ตามเป้าหมาย ให้ลดการเบิกจ่ายลงทุนเท่ากับวงเงินสดที่ขาดไป เพื่อให้สามารถรักษาภาวะสมดุลของรัฐวิสาหกิจโดยรวมไว้ได้ตามเงื่อนไขของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) และรายงานผลให้สำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ภายในวันที่ 5 ของทุกเดือน เพื่อประมวลฐานะสมดุลของรัฐวิสาหกิจโดยรวมเพื่อนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาทุก 3 เดือน
4. ในระหว่างปี หากรัฐวิสาหกิจใดได้รับอนุมัติโครงการใหม่ตามขั้นตอนการพิจารณาแล้ว ให้สามารถดำเนินการได้ โดยให้เบิกจ่ายภายในกรอบวงเงินเบิกจ่ายที่ได้รับอนุมัติจากคณะรัฐมนตรีแล้ว หรือภายในวงเงินสดที่มีเพื่อใช้ในการลงทุนที่รัฐวิสาหกิจนั้นสามารถปรับเพิ่มขึ้นได้
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2541--