และสิ่งแวดล้อมแห่งราชอาณาจักรไทยเกี่ยวกับความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อม
คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เสนอ ดังนี้
1. เห็นชอบและอนุมัติการจัดทำร่างบันทึกความเข้าใจฯ ระหว่างกระทรวงสิ่งแวดล้อม สาธารณรัฐเกาหลี และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแห่งราชอาณาจักรไทยเกี่ยวกับความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมหากมีความจำเป็นต้องแก้ไขถ้อยคำในร่างบันทึกความเข้าใจฯ ดังกล่าวในส่วนที่ไม่ใช่สาระสำคัญและไม่ขัดกับผลประโยชน์ของรัฐ ให้ ทส. พิจารณาดำเนินการต่อไป
2. เห็นชอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นผู้ลงนามร่างบันทึกความเข้าใจฯ
ร่างบันทึกความเข้าใจฯ มีสาระสำคัญ ดังนี้
1. วัตถุประสงค์ เป็นการพัฒนาความร่วมมือระยะยาวในสาขาการส่งเสริมและปกป้องสิ่งแวดล้อมโดยอยู่บนพื้นฐานความเท่าเทียมกันและได้ประโยชน์ร่วมกัน และจุดประสงค์หลักของความร่วมมือภายใต้ร่างบันทึกความเข้าใจฯ นี้ เพื่อจัดเตรียมโอกาสที่ดีสำหรับการแลกเปลี่ยนข้อมูลเทคโนโลยีและประสบการณ์ในสาขาสิ่งแวดล้อมและดำเนินกิจกรรมในสาขาอื่นที่สนใจร่วมกัน
2. ขอบเขตความร่วมมือ ประกอบด้วยสาขาความร่วมมือต่าง ๆ ได้แก่ 2.1 โครงการและนโยบายด้านสิ่งแวดล้อม 2.2 เทคโนโลยีสิ่งแวดล้อม 2.3 การปกป้องทรัพยากรธรรมชาติและการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ 2.4 การใช้ประโยชน์ความหลากหลายทางธรรมชาติอย่างยั่งยืน 2.5 การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศในเรื่องการบรรเทาผลกระทบและการปรับตัว 2.6 การลด การควบคุมและการติดตามตรวจสอบภาวะมลพิษของอากาศและเสียง 2.7 มลพิษทางน้ำและการจัดการคุณภาพน้ำ 2.8 การบำบัดของเสีย 2.9 การป้องกัน การใช้ประโยชน์ที่ยั่งยืนและการฟื้นฟูดินและน้ำบาดาล 2.10 การจัดการของเสียและของเสียอันตราย 2.11 การสร้างความตระหนักและสิ่งแวดล้อมศึกษา 2.12 การจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมโดยการมีส่วนร่วมของหุ้นส่วนเอกชนและการเข้าร่วมโดยสมัครใจ 2.13 กฎหมายสิ่งแวดล้อมและกฎระเบียบต่างๆ เครื่องมือทางเศรษฐศาสตร์สำหรับการประเมินความเสี่ยงของสิ่งแวดล้อมและระบบนิเวศน์ 2.14 สาขาอื่น ๆ ที่อาจได้รับการตัดสินใจร่วมกันจากทั้งสองฝ่าย
3 รูปแบบความร่วมมือ เป็นการแลกเปลี่ยนเอกสารและข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมการแลกเปลี่ยนการศึกษาดูงาน โดยนักวิทยาศาสตร์และผู้เชี่ยวชาญด้านสิ่งแวดล้อม การจัดสัมมนาการประชุมเชิงปฏิบัติการ และการประชุมซึ่งมีผู้เข้าร่วมเป็นที่ปรึกษาของรัฐบาล นักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญ ผู้ทำหน้าที่ตัดสินใจและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่น ๆ
4. ร่างบันทึกความเข้าใจฯ นี้ไม่ก่อให้เกิดข้อผูกพันด้านกฎหมายแก่ทั้งสองฝ่าย และจะไม่กระทบต่อสิทธิและพันธกรณีของทั้งสองประเทศที่เกิดจากสนธิสัญญา อนุสัญญา และความตกลงระดับภูมิภาคและระหว่างประเทศที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมที่ทั้งสองเป็นภาคี
5. โครงการและกิจกรรมความร่วมมือภายใต้ร่างบันทึกความเข้าใจฯ นี้ จะดำเนินการให้สอดคล้องกับกฎหมายและระเบียบข้อบังคับของทั้งสองประเทศโดยขึ้นอยู่กับเงินทุนและบุคลากรของทั้งสองฝ่าย นอกเสียจากว่าทั้งสองฝ่ายจะมีการตัดสินใจร่วมกันว่าแต่ละฝ่ายจะรับผิดชอบค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจากการดำเนินกิจกรรมความร่วมมือภายใต้บันทึกความเข้าใจฯ นี้
6. การดูแลสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาและผลประโยชน์ที่เกิดจากกิจกรรมและโครงการความร่วมมือภายใต้ร่างบันทึกความเข้าใจฯ นี้จะจัดเตรียมความตกลงเป็นลายลักษณ์อักษรต่างหากก่อนเริ่มทำกิจกรรมหรือโครงการที่ได้กล่าวถึง
7. ผลบังคับใช้นับจากวันที่ลงนามและจะมีผลเป็นเวลา 5 ปีและจะได้รับการขยายออกไปโดยอัตโนมัติเป็นระยะเวลา 5 ปี เว้นแต่ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะแจ้งความตั้งใจที่จะยุติ ให้อีกฝ่ายทราบเป็นลายลักษณ์อักษร ไม่น้อยกว่า 6 เดือนก่อนสิ้นสุดระยะเวลา
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 20 ตุลาคม 2558--