ทำเนียบรัฐบาล--7 เม.ย.--บิสนิวส์
คณะรัฐมนตรีพิจารณาการขยายเวลาโครงการแทรกแซงตลาดยาง ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ แล้วมีมติดังนี้
1. อนุมัติให้สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) ดำเนินการแทรกแซงตลาดยางต่อไป ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2541 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2541 ทั้งนี้ ให้ซื้อยางจากเกษตรกรเท่านั้น
2. อนุมัติให้สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) มีอำนาจในการกู้เงินจำนวน 1,000 ล้านบาท จากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โดยกระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนซื้อและขายยาง ทั้งนี้ ให้หักเป็นค่าบริหารได้ไม่เกินร้อยละ 3 ของมูลค่ายางที่ซื้อ
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานว่า
1. องค์การสวนยางมีภารกิจต้องดูแลยางจำนวนหนึ่งแสนตันเศษในสต๊อค และต้องติดต่อขายยางจำนวนดังกล่าวให้เป็นที่เรียบร้อย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงได้มอบหมายให้สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการแทรกแซงตลาดยางแทน โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2541 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2541 การดำเนินการครั้งนี้ใช้เงินทุนหมุนเวียนจำนวน 1,000 ล้านบาท ซึ่งองค์การสวนยางกู้จากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และคณะรัฐมนตรีมีมติให้ขยายเวลาวงเงินกู้จำนวนดังกล่าว จากสิ้นสุดในวันที่ 30 ธันวาคม 2540 เป็นสิ้นสุดวันที่ 30 ธันวาคม 2542
2. สำหรับราคาแทรกแซงในช่วง 20 มกราคม 2541 - 31 มีนาคม 2541 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำหนดไว้ดังนี้
1) ยางแผ่นดิบคุณภาพ 1 = 25.65 บาท/กก.
2) ยางแผ่นดิบคุณภาพ 2 = 25.35 บาท/กก.
3) ยางแผ่นดิบคุณภาพ 3 = 25.00 บาท/กก.
4) ยางแผ่นดิบคุณภาพ 4 = 22.00 บาท/กก.
5) ยางแผ่นรมควัน (1 - 3) = 27.00 บาท/กก.และเพื่อให้เกิดสภาพคล่องของเงินทุนหมุนเวียน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เห็นชอบให้สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.)มีอำนาจในการขายยางภายในประเทศได้ด้วย
3. ผลการดำเนินงานแทรกแซงตลาด ปรากฏว่าสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) ได้ซื้อยางจากเกษตรรวมทั้งสิ้น 166.76 ตัน มูลค่า 4.19 ล้านบาท (จากยางทั้งหมดที่เข้ามาในตลาด 2,568.79 ตัน มูลค่า 77.78 ล้านบาท) ส่วนยางที่เหลือพ่อค้าเป็นผู้ประมูลซื้อในราคาที่สูงกว่าราคาแทรกแซง
4. ยางแผ่นดิบที่ซื้อตามข้อ 3 สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) ได้ขายให้พ่อค้าภายในประเทศไปแล้วจำนวน 165.23 ตัน มูลค่าขาย 5.05 ล้านบาท สรุปแล้วยังมียางแผ่นดิบเหลือในสต๊อคอีก จำนวน 1.5 ตัน
5. ในช่วงที่รัฐแทรกแซงตลาด ราคายางแผ่นดิบคุณภาพ 3 ที่ตลาดกลางยางพาราอำเภอหาดใหญ่ ได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสูงถึง 33.95 บาท/กก. เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2541 นับตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2541 ราคายางแผ่นดิบคุณภาพ 3 เริ่มปรับตัวลดลงอีกครั้งหนึ่ง และปรับตัวลงโดยตลาดอยู่ที่ราคา 26.88 บาท/กก. เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2541 (ราคาที่ตลาดกลางยางพาราอ.หาดใหญ่)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 7 เมษายน 2541--
คณะรัฐมนตรีพิจารณาการขยายเวลาโครงการแทรกแซงตลาดยาง ตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เสนอ แล้วมีมติดังนี้
1. อนุมัติให้สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) ดำเนินการแทรกแซงตลาดยางต่อไป ตั้งแต่วันที่ 1 เมษายน 2541 ถึงวันที่ 30 กันยายน 2541 ทั้งนี้ ให้ซื้อยางจากเกษตรกรเท่านั้น
2. อนุมัติให้สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) มีอำนาจในการกู้เงินจำนวน 1,000 ล้านบาท จากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) โดยกระทรวงการคลังเป็นผู้ค้ำประกัน เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนซื้อและขายยาง ทั้งนี้ ให้หักเป็นค่าบริหารได้ไม่เกินร้อยละ 3 ของมูลค่ายางที่ซื้อ
ทั้งนี้ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์รายงานว่า
1. องค์การสวนยางมีภารกิจต้องดูแลยางจำนวนหนึ่งแสนตันเศษในสต๊อค และต้องติดต่อขายยางจำนวนดังกล่าวให้เป็นที่เรียบร้อย กระทรวงเกษตรและสหกรณ์จึงได้มอบหมายให้สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) เป็นผู้รับผิดชอบดำเนินการแทรกแซงตลาดยางแทน โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่วันที่ 20 มกราคม 2541 ถึงวันที่ 31 มีนาคม 2541 การดำเนินการครั้งนี้ใช้เงินทุนหมุนเวียนจำนวน 1,000 ล้านบาท ซึ่งองค์การสวนยางกู้จากธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และคณะรัฐมนตรีมีมติให้ขยายเวลาวงเงินกู้จำนวนดังกล่าว จากสิ้นสุดในวันที่ 30 ธันวาคม 2540 เป็นสิ้นสุดวันที่ 30 ธันวาคม 2542
2. สำหรับราคาแทรกแซงในช่วง 20 มกราคม 2541 - 31 มีนาคม 2541 กระทรวงเกษตรและสหกรณ์กำหนดไว้ดังนี้
1) ยางแผ่นดิบคุณภาพ 1 = 25.65 บาท/กก.
2) ยางแผ่นดิบคุณภาพ 2 = 25.35 บาท/กก.
3) ยางแผ่นดิบคุณภาพ 3 = 25.00 บาท/กก.
4) ยางแผ่นดิบคุณภาพ 4 = 22.00 บาท/กก.
5) ยางแผ่นรมควัน (1 - 3) = 27.00 บาท/กก.และเพื่อให้เกิดสภาพคล่องของเงินทุนหมุนเวียน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์เห็นชอบให้สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.)มีอำนาจในการขายยางภายในประเทศได้ด้วย
3. ผลการดำเนินงานแทรกแซงตลาด ปรากฏว่าสำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) ได้ซื้อยางจากเกษตรรวมทั้งสิ้น 166.76 ตัน มูลค่า 4.19 ล้านบาท (จากยางทั้งหมดที่เข้ามาในตลาด 2,568.79 ตัน มูลค่า 77.78 ล้านบาท) ส่วนยางที่เหลือพ่อค้าเป็นผู้ประมูลซื้อในราคาที่สูงกว่าราคาแทรกแซง
4. ยางแผ่นดิบที่ซื้อตามข้อ 3 สำนักงานกองทุนสงเคราะห์การทำสวนยาง (สกย.) ได้ขายให้พ่อค้าภายในประเทศไปแล้วจำนวน 165.23 ตัน มูลค่าขาย 5.05 ล้านบาท สรุปแล้วยังมียางแผ่นดิบเหลือในสต๊อคอีก จำนวน 1.5 ตัน
5. ในช่วงที่รัฐแทรกแซงตลาด ราคายางแผ่นดิบคุณภาพ 3 ที่ตลาดกลางยางพาราอำเภอหาดใหญ่ ได้ปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และสูงถึง 33.95 บาท/กก. เมื่อวันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2541 นับตั้งแต่วันที่ 24 กุมภาพันธ์ 2541 ราคายางแผ่นดิบคุณภาพ 3 เริ่มปรับตัวลดลงอีกครั้งหนึ่ง และปรับตัวลงโดยตลาดอยู่ที่ราคา 26.88 บาท/กก. เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2541 (ราคาที่ตลาดกลางยางพาราอ.หาดใหญ่)
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 7 เมษายน 2541--