ทำเนียบรัฐบาล--2 พ.ค.--นิวส์สแตนด์
คณะรัฐมนตรีอนุมัติการทำความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดา ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
ทั้งนี้ ร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดา มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. ภาคีทั้งสองฝ่ายจะยกเว้นการตรวจลงตราแก่คนชาติของภาคีแต่ละฝ่ายที่ถือหนังสือเดินทางธรรมดาของภาคีแต่ละฝ่ายที่ยังมีผลใช้ได้อยู่ในการเดินทางเข้า ออก หรือผ่านดินแดนของภาคีแต่ละฝ่าย มีกำหนดระยะเวลาไม่เกิน 30 วัน
2. ผู้ถือหนังสือเดินทางดังกล่าว จะต้องเดินทางเข้า ออก หรือผ่าน ณ ด่านที่เปิดสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศของภาคีอีกฝ่ายหนึ่ง และจะต้องผ่านพิธีการที่จำเป็นตามระเบียบที่เกี่ยวข้องของส่วนราชการผู้มีอำนาจของภาคีนั้น และจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับของภาคีอีกฝ่ายหนึ่งในระหว่างที่พำนักอยู่ในดินแดนของภาคีนั้น
3. ภาคีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจปฏิเสธการเดินทางเข้าหรือร่นระยะเวลาพำนักของคนชาติของภาคีอีกฝ่ายหนึ่ง ตลอดจนอาจระงับใช้ความตกลงนี้ชั่วคราวบางส่วนหรือทั้งหมดด้วยเหตุผลด้านความสงบเรียบร้อยของประชาชน ความมั่นคงแห่งชาติ หรือสาธารณสุข โดยจะแจ้งการเริ่มต้นและสิ้นสุดของการระงับใช้ให้ภาคีอีกฝ่ายหนึ่งทราบทันทีผ่านวิถีทางการทูต
อนึ่ง กระทรวงการต่างประเทศประสงค์จะจัดทำความตกลงดังกล่าวกับรัฐบาลเวียดนามในวันที่ 9 พฤษภาคม 2543 ซึ่งเป็นวันแรกของการเยือนไทยอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีเวียดนาม ทั้งนี้ ในระหว่างนี้ หากมีการแก้ไขร่างความตกลงในประเด็นที่มิใช่สารัตถะ ขอให้อยู่ในดุลพินิจของกระทรวงการต่างประเทศ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 2 พฤษภาคม 2543--
คณะรัฐมนตรีอนุมัติการทำความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดา ตามที่กระทรวงการต่างประเทศเสนอ
ทั้งนี้ ร่างความตกลงระหว่างรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรไทย และสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ว่าด้วยการยกเว้นการตรวจลงตราสำหรับผู้ถือหนังสือเดินทางธรรมดา มีสาระสำคัญสรุปได้ ดังนี้
1. ภาคีทั้งสองฝ่ายจะยกเว้นการตรวจลงตราแก่คนชาติของภาคีแต่ละฝ่ายที่ถือหนังสือเดินทางธรรมดาของภาคีแต่ละฝ่ายที่ยังมีผลใช้ได้อยู่ในการเดินทางเข้า ออก หรือผ่านดินแดนของภาคีแต่ละฝ่าย มีกำหนดระยะเวลาไม่เกิน 30 วัน
2. ผู้ถือหนังสือเดินทางดังกล่าว จะต้องเดินทางเข้า ออก หรือผ่าน ณ ด่านที่เปิดสำหรับการเดินทางระหว่างประเทศของภาคีอีกฝ่ายหนึ่ง และจะต้องผ่านพิธีการที่จำเป็นตามระเบียบที่เกี่ยวข้องของส่วนราชการผู้มีอำนาจของภาคีนั้น และจะต้องปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบข้อบังคับของภาคีอีกฝ่ายหนึ่งในระหว่างที่พำนักอยู่ในดินแดนของภาคีนั้น
3. ภาคีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งอาจปฏิเสธการเดินทางเข้าหรือร่นระยะเวลาพำนักของคนชาติของภาคีอีกฝ่ายหนึ่ง ตลอดจนอาจระงับใช้ความตกลงนี้ชั่วคราวบางส่วนหรือทั้งหมดด้วยเหตุผลด้านความสงบเรียบร้อยของประชาชน ความมั่นคงแห่งชาติ หรือสาธารณสุข โดยจะแจ้งการเริ่มต้นและสิ้นสุดของการระงับใช้ให้ภาคีอีกฝ่ายหนึ่งทราบทันทีผ่านวิถีทางการทูต
อนึ่ง กระทรวงการต่างประเทศประสงค์จะจัดทำความตกลงดังกล่าวกับรัฐบาลเวียดนามในวันที่ 9 พฤษภาคม 2543 ซึ่งเป็นวันแรกของการเยือนไทยอย่างเป็นทางการของนายกรัฐมนตรีเวียดนาม ทั้งนี้ ในระหว่างนี้ หากมีการแก้ไขร่างความตกลงในประเด็นที่มิใช่สารัตถะ ขอให้อยู่ในดุลพินิจของกระทรวงการต่างประเทศ
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี(ชุดนายชวน หลีกภัย)--วันที่ 2 พฤษภาคม 2543--