กค. เสนอว่า โดยที่พระราชบัญญัติการประกอบธุรกิจข้อมูลเครดิต พ.ศ. 2545 มิได้มีบทบัญญัติรองรับให้สมาชิกนำข้อมูลของลูกค้าตนที่ได้จากบริษัทข้อมูลเครดิตตามมาตรา 20 ไปใช้ในการจัดทำแบบจำลองด้านเครดิต จึงสมควรกำหนดบทบัญญัติเพิ่มเติมให้สมาชิกสามารถนำข้อมูลของลูกค้าตนที่ได้จากบริษัทข้อมูลเครดิตไปใช้ในการจัดทำแบบจำลองด้านเครดิตเพื่อใช้ประกอบการวิเคราะห์สินเชื่อ การออกบัตรเครดิต และการบริหารความเสี่ยงในกิจการของสมาชิก ซึ่งข้อมูลที่นำไปใช้เป็นข้อมูลเฉพาะส่วนที่สะท้อนถึงความสามารถในการชำระหนี้ โดยไม่มีข้อมูลที่สามารถระบุตัวตนของเจ้าของข้อมูล และได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลก่อนแล้ว ซึ่งจะส่งผลให้กระบวนการพิจารณาสินเชื่อรวดเร็วและเป็นประโยชน์กับลูกค้า โดยเจ้าของข้อมูลไม่ได้ถูกละเมิดสิทธิ อันจะทำให้ผู้บริโภคได้รับบริการสินเชื่อสอดคล้องกับศักยภาพในการชำระคืนหนี้ ทำให้เกิดความมั่นคงของระบบสถาบันการเงิน และเป็นประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจของประเทศ นอกจากนี้ เพื่อแก้ไขบทบัญญัติในส่วนที่สันนิษฐานให้กรรมการผู้จัดการ หุ้นส่วนผู้จัดการ หรือผู้แทนของนิติบุคคล ซึ่งรับผิดชอบในการดำเนินงานของนิติบุคคลนั้น ต้องรับโทษทางอาญาร่วมกับการกระทำความผิดของนิติบุคคล โดยไม่ปรากฏว่ามีการกระทำหรือเจตนาประการใดอันเกี่ยวกับการกระทำความผิดของนิติบุคคลนั้น
สาระสำคัญของร่างพระราชบัญญัติ
1. แก้ไขเพิ่มเติมให้สถาบันการเงินที่บริษัทข้อมูลเครดิตรับเข้าเป็นสมาชิกสามารถนำข้อมูลของลูกค้าตนที่ได้รับจากบริษัทข้อมูลเครดิตตามมาตรา 20 ไปใช้ในการจัดทำแบบจำลองด้านเครดิตได้ โดยได้รับความยินยอมจากเจ้าของข้อมูลก่อน
2. แก้ไขเพิ่มเติมในส่วนบทสันนิษฐานความรับผิดทางอาญาของผู้แทนนิติบุคคล โดยต้องมีการพิสูจน์ว่ากรรมการผู้จัดการ หุ้นส่วนผู้จัดการ หรือผู้แทนของนิติบุคคลนั้น ได้รู้เห็นหรือยินยอมหรือไม่ได้จัดการตามสมควรเพื่อป้องกันมิให้เกิดความผิดนั้น
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 27 ตุลาคม 2558--