การขยายระยะเวลาของบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกรมวิชาการเกษตรกับสถาบันพัฒนาชนบทแห่งสาธารณรัฐเกาหลี

เรื่อง การขยายระยะเวลาของบันทึกข้อตกลงความร่วมมือระหว่างกรมวิชาการเกษตรกับสถาบันพัฒนาชนบทแห่งสาธารณรัฐเกาหลี ในการจัดตั้งศูนย์ Korea Project on International Agriculture : KOPIA ประจำประเทศไทย

คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบและอนุมัติตามที่กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.) เสนอ ดังนี้

1. เห็นชอบต่อร่างการขยายระยะเวลาบันทึกข้อตกลงระหว่างกรมวิชาการเกษตรกับสถาบันพัฒนาชนบทแห่งสาธารณรัฐเกาหลี (Rural Development Administrator, RDA) ในการจัดตั้งศูนย์ Korea Project on International Agriculture ประจำประเทศไทย

2. อนุมัติให้อธิบดีกรมวิชาการเกษตร เป็นผู้ลงนามในเอกสารการขยายระยะเวลาบันทึกข้อตกลงดังกล่าว

สาระสำคัญของเรื่อง

1. เนื่องจากบันทึกข้อตกลงฉบับเดิม ได้หมดอายุลงเมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2558 แต่ยังมีโครงการที่อยู่ระหว่างการดำเนินงาน ดังนั้น หากมีการขยายระยะเวลาบันทึกข้อตกลง ฯ จะทำให้มีความมั่นใจและความต่อเนื่องในการดำเนินโครงการความร่วมมือด้วยกันทั้งสองฝ่าย ประกอบกับได้มีการเสนอโครงการความร่วมมือใหม่เมื่อต้นปี 2558 ให้สำนักงานโคเปีย สาธารณรัฐเกาหลี พิจารณา

2. เนื่องจากโครงการความร่วมมือมีความก้าวหน้า รวมทั้งการส่งผู้เชี่ยวชาญการฝึกอบรมและการแลกเปลี่ยนนักวิชาการประสบผลสำเร็จผ่านช่องทางศูนย์ KOPIA ประจำประเทศไทย และมีโครงการที่อยู่ระหว่างการดำเนินการ รวมทั้งโอกาสและความท้าทายใหม่ ๆ ในการพัฒนาเทคโนโลยีการเกษตรเพื่อการพัฒนาการเกษตรและการพัฒนาชนบทอย่างยั่งยืน ดังนั้น สถาบันพัฒนาชนบทแห่งสาธารณรัฐเกาหลีและกรมวิชาการเกษตรเห็นพ้องร่วมกันในการขยายระยะเวลาโครงการความร่วมมือในการจัดตั้งศูนย์ KOPIA ประจำประเทศไทย โดยการขยายระยะเวลาบันทึกข้อตกลง ฯ ออกไปจนถึงวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2561

3. การขยายระยะเวลาบันทึกข้อตกลงดังกล่าวจะเป็นประโยชน์ในการดำเนินโครงการให้เป็นไปด้วยความต่อเนื่อง อีกทั้งโครงการที่ดำเนินการอยู่กรมวิชาการเกษตรได้รับงบประมาณสนับสนุนจากสำนักงานโคเปียสาธารณรัฐเกาหลี ทั้งทางตรงและผ่านศูนย์ KOPIA ประจำประเทศไทย

4. การดำเนินโครงการจากความร่วมมือ KOPIA กรมวิชาการเกษตรได้รับความรู้ทางวิชาการและมีการแลกเปลี่ยนประสบการณ์ด้านวิชาการเกษตรซึ่งกันและกันรวมทั้งได้รับความรู้จากผู้เชี่ยวชาญภายใต้โครงการและได้พัฒนาศักยภาพของนักวิจัยในการเดินทางไปศึกษาดูงานและฝึกอบรมทั้งระยะสั้นและระยะยาว ณ สาธารณรัฐเกาหลีโดยงบประมาณของสำนักงานโคเปีย สาธารณรัฐเกาหลีผ่านศูนย์ KOPIA ประจำประเทศไทย

5. การที่มีสำนักงานโคเปียตั้งอยู่ในประเทศไทยทำให้มีความสะดวกรวดเร็วในการติดต่อประสานงาน และทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างกรมวิชาการเกษตรและสถาบันพัฒนาชนบทแห่งสาธารณรัฐเกาหลีมีความแน่นแฟ้นมากขึ้น ซึ่งศูนย์ KOPIA ประจำประเทศ เป็นเสมือนตัวแทนของสถาบันพัฒนาชนบทแห่งสาธารณรัฐเกาหลี

--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา (นายกรัฐมนตรี) วันที่ 27 ตุลาคม 2558--