คณะรัฐมนตรีอนุมัติตามที่รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี (นายจาตุรนต์ ฉายแสง) และคณะทำงานพิจารณาร่วมกันเสนอว่า แนวทางลดเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีควรอยู่ภายใต้ข้อจำกัดทางกฎหมาย แต่ควรพิจารณานำมติคณะรัฐมนตรีมาใช้ให้มากขึ้น และควรดำเนินการประกอบกัน เพื่อเป็นแนวทางการลดภาระของคณะรัฐมนตรีในการประชุมคณะรัฐมนตรี ดังนี้
1. ลดประเภทของเรื่องที่จะต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยใช้มติคณะรัฐมนตรีวันที่ 13 ธันวาคม2520 ให้มากขึ้น ทั้งนี้ส่วนราชการที่จะต้องเสนอความเห็นในเรื่องใด ควรเร่งเสนอเข้ามาให้ทันเวลาที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีกำหนด เพื่อว่าหากเป็นเรื่องที่เห็นสอดคล้องต้องกันแล้ว สามารถเสนอคณะรัฐมนตรีรับทราบตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 13 ธันวาคม 2520 ได้โดยไม่ต้องเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา
2. จัดให้มีคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องก่อนที่จะนำเรื่องนั้น ๆ เสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อว่าเมื่อมีการกลั่นกรองมาก่อนแล้ว การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีจะได้ไม่ต้องใช้เวลามากนัก รวมทั้งบางเรื่องอาจเสนอเป็นเรื่องเพื่อทราบก็ได้
3. เรื่องใดที่เคยมีการหารือกับส่วนราชการต่าง ๆ มาแล้วว่าอยู่ในวิสัยที่จะมอบอำนาจให้กระทรวง ทบวงกรม รับไปดำเนินการเองได้ตามแนวทางการสัมมนาที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเคยจัดซึ่งมีประมาณ 10 ประเภท ควรให้คณะทำงานที่คณะรัฐมนตรีมอบหมายตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2544 รับไปประสานกับกระทรวง ทบวง กรม ที่เกี่ยวข้องเพื่อทำให้มีผลในทางปฏิบัติ อันจะมีผลเป็นการลดเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีไปได้เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกำชับข้าราชการเจ้าของเรื่องให้ร่วมมือในการแก้ปัญหานี้ด้วย
4. เรื่องใดที่ยังต้องเสนอคณะรัฐมนตรีเพราะมีกฎหมายกำหนด ให้คณะทำงานดังกล่าวไปพิจารณาว่าจะควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายเหล่านั้นอย่างไร หรือจะสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหาราชการแผ่นดินอันเป็นกฎหมายกลางให้คณะรัฐมนตรีสามารถมอบหมายหรือมอบอำนาจได้แล้วเสนอมาเพื่อดำเนินการต่อไป
5. ในการประชุมคณะรัฐมนตรีแต่ละครั้งไม่ควรจัดเรื่องในระเบียบวาระมากนัก ควรนำเทคโนโลยีมาช่วยในการประชุมให้มาก และให้งดการเสนอเรื่องพิจารณาสำคัญเป็นวาระจร เว้นแต่มีเหตุพิเศษซึ่งสามารถชี้แจงได้ว่าเหตุใดจึงต้องเสนอเป็นวาระจร
6. เรื่องที่เสนอคณะรัฐมนตรีทุกเรื่องต้องมีข้อเท็จจริงที่ยุติแล้ว และมีประเด็นทางเลือกที่เสนอให้คณะรัฐมนตรีวินิจฉัยโดยชัดแจ้ง หากยังมีข้อขัดแย้งกันอยู่ ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจัดให้มีการประชุมภายในเพื่อควบคุมประเด็นให้เหลือน้อยที่สุดตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2539
7. ให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเป็นผู้สรุปนำเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี เว้นแต่เป็นกรณีที่รัฐมนตรีเจ้าของเรื่องประสงค์จะชี้แจงเอง หรือเป็นเรื่องยุ่งยากซึ่งกระทรวงประสงค์จะนำเสนอ หรือเป็นการตอบคำถามที่มีผู้สอบถามในที่ประชุม
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 6 มี.ค.2544--
-สส-
1. ลดประเภทของเรื่องที่จะต้องนำเสนอคณะรัฐมนตรีพิจารณาโดยใช้มติคณะรัฐมนตรีวันที่ 13 ธันวาคม2520 ให้มากขึ้น ทั้งนี้ส่วนราชการที่จะต้องเสนอความเห็นในเรื่องใด ควรเร่งเสนอเข้ามาให้ทันเวลาที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีกำหนด เพื่อว่าหากเป็นเรื่องที่เห็นสอดคล้องต้องกันแล้ว สามารถเสนอคณะรัฐมนตรีรับทราบตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 13 ธันวาคม 2520 ได้โดยไม่ต้องเสนอให้คณะรัฐมนตรีพิจารณา
2. จัดให้มีคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องก่อนที่จะนำเรื่องนั้น ๆ เสนอคณะรัฐมนตรี เพื่อว่าเมื่อมีการกลั่นกรองมาก่อนแล้ว การพิจารณาของคณะรัฐมนตรีจะได้ไม่ต้องใช้เวลามากนัก รวมทั้งบางเรื่องอาจเสนอเป็นเรื่องเพื่อทราบก็ได้
3. เรื่องใดที่เคยมีการหารือกับส่วนราชการต่าง ๆ มาแล้วว่าอยู่ในวิสัยที่จะมอบอำนาจให้กระทรวง ทบวงกรม รับไปดำเนินการเองได้ตามแนวทางการสัมมนาที่สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีเคยจัดซึ่งมีประมาณ 10 ประเภท ควรให้คณะทำงานที่คณะรัฐมนตรีมอบหมายตามมติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2544 รับไปประสานกับกระทรวง ทบวง กรม ที่เกี่ยวข้องเพื่อทำให้มีผลในทางปฏิบัติ อันจะมีผลเป็นการลดเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรีไปได้เป็นจำนวนมาก ทั้งนี้ให้รัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องกำชับข้าราชการเจ้าของเรื่องให้ร่วมมือในการแก้ปัญหานี้ด้วย
4. เรื่องใดที่ยังต้องเสนอคณะรัฐมนตรีเพราะมีกฎหมายกำหนด ให้คณะทำงานดังกล่าวไปพิจารณาว่าจะควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายเหล่านั้นอย่างไร หรือจะสมควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายว่าด้วยระเบียบบริหาราชการแผ่นดินอันเป็นกฎหมายกลางให้คณะรัฐมนตรีสามารถมอบหมายหรือมอบอำนาจได้แล้วเสนอมาเพื่อดำเนินการต่อไป
5. ในการประชุมคณะรัฐมนตรีแต่ละครั้งไม่ควรจัดเรื่องในระเบียบวาระมากนัก ควรนำเทคโนโลยีมาช่วยในการประชุมให้มาก และให้งดการเสนอเรื่องพิจารณาสำคัญเป็นวาระจร เว้นแต่มีเหตุพิเศษซึ่งสามารถชี้แจงได้ว่าเหตุใดจึงต้องเสนอเป็นวาระจร
6. เรื่องที่เสนอคณะรัฐมนตรีทุกเรื่องต้องมีข้อเท็จจริงที่ยุติแล้ว และมีประเด็นทางเลือกที่เสนอให้คณะรัฐมนตรีวินิจฉัยโดยชัดแจ้ง หากยังมีข้อขัดแย้งกันอยู่ ให้สำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรีจัดให้มีการประชุมภายในเพื่อควบคุมประเด็นให้เหลือน้อยที่สุดตามมติคณะรัฐมนตรีวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2539
7. ให้เลขาธิการคณะรัฐมนตรีเป็นผู้สรุปนำเสนอเรื่องต่อคณะรัฐมนตรี เว้นแต่เป็นกรณีที่รัฐมนตรีเจ้าของเรื่องประสงค์จะชี้แจงเอง หรือเป็นเรื่องยุ่งยากซึ่งกระทรวงประสงค์จะนำเสนอ หรือเป็นการตอบคำถามที่มีผู้สอบถามในที่ประชุม
--ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ชุดพ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร) วันที่ 6 มี.ค.2544--
-สส-